มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย..คุณรู้มั้ยคือที่ไหน

http://variety.teenee.com/foodforbrain/73529.html

มหาวิทยาลัยแห่งแรกของไทย..คุณรู้มั้ยคือที่ไหน

 

ก่อนที่จะมีมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย "จุฬาฯ"

"..ขืนตั้ง(มหาลัยขึ้นมา)ราชวงศ์จักรีจะแย่ ถ้าเจ้าคุณจะตั้งมหาวิทยาลัย ผมตายก็อย่ามาเผาผม เจ้าคุณตายผมก็จะไม่ไปเผาเจ้าคุณ มันยังไม่ถึงเวลาตั้ง(มหาวิทยาลัยในประเทศไทย).."

นี้คือถ้อยคำของผู้ขัดขวางการตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในสมัยนั้นก็คือเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ซึ่งได้ต่อว่าเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี(สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา)เสนาบดีกระทรวงธรรมการ ว่าประเทศสยามยังไม่พร้อมที่จะมีมหาวิทยาลัยในประเทศ ตอนนั้นพวกเจ้านายชั้นสูง รวมไปถึงพวกขุนนางชั้นสูง บางท่านไม่สนับสนุนและเห็นด้วยกับรัชกาลที่ ๖ ในการตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขึ้น ถึงขนาดที่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ากิติยากรวรลักษณ์ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ (ต้นราชสกุลกิติยากร) เสนาบดีกระทรวงคลังสมัยนั้น ถึงกับบันทึกต่อว่าเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีว่า "..การตั้งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยให้ได้นั้น เสนาบดีกระทรวงธรรมการจะพารัฐบาลเข้าปิ้งทางการเงิน.." ว่ากันว่าท่านเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีนั้น เป็นเจ้าพระยาที่ยากจนที่สุดในประเทศสยามเวลานั้น

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสอบถามเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ถึงเรื่องตั้งมหาวิทยาลัยในประเทศสยามว่า "เราพร้อมแค่ไหน" เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีได้กราบบังคมทูลว่า

"..ถ้าถือเอาอ๊อกฟอร์ดหรือเคมบริดซ์เป็นมาตรฐาน เรายังไม่พร้อมที่จะสถาปนามหาวิทยาลัย จะต้องลงทุนรอนมากมายนัก ทั้งเงินทั้งคนของเรายังไม่พร้อม แต่ถ้าจะลดหย่อนลงมาเพียงมหาวิทยาลัยรุ่นใหม่ ๆ ซึ่งกำลังเกิดขึ้นสะพรั่งราวกับดอกเห็ดทั้งในตะวันตกและตะวันออก เราก็พอทำได้ มหาวิทยาลัยใหม่ ๆ นี้เปรียบเหมือนเป็นโรงเรียนกลางวัน แต่ออกสฟอร์ด เคมบริดซ์ เปรียบเหมือนโรงเรียนประจำ...(ตัดข้อความลง)....มหาวิทยาลัยเก่าของอังกฤษเท่ากับเป็นที่ประทับตราว่าคนนี้ออกไปทำงานอะไร ๆ ก็ไว้ใจได้ เขาเป็นสุภาพบุรุษโดยสมบูรณ์แล้ว แต่มหาวิทยาลัยใหม่จะประทับตราให้ได้แต่เพียงว่า คนนี้มีวิชาเอนจิเนีย,แพทย์,กฎหมาย,วิทยาศาสตร์,อักษรศาสตร์ ฯลฯ ...จำนวนนักเรียนจบมัธยมบริบูรณ์ของเรายังน้อยมาก โรงเรียนข้าราชการพลเรือนยังต้องรับผู้จบมัธยมหก ในแง่นี้แง่เดียวก็อาจมีผู้คัดค้านได้ว่ายังไม่ถึงเวลา...."

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงมีพระราชดำรัสตอบกลับว่า

"....เดินเถิดอย่าคอยเวลาเลย อย่างไรเสียเราก็ต้องการมหาวิทยาลัย ตั้งเสียเดี๋ยวนี้ทีเดียว จะได้เป็นตลาดวิชาของเมืองไทย ไม่เป็นแต่เพียงที่เพาะข้าราชการไว้ใช้...."

และในที่สุด พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประดิษฐานโรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้นเป็นมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2459 พร้อมทั้งพระราชทานนามว่า “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย จนถึงวันนี้ครบรอบ 98 ปี

 

ที่มาจาก เรื่องเล่า ตำนาน ประวัติศาสตร์ไทย

ขอบคุณภาพจาก http://www.chula.ac.th/about/history

โพสโดย :หมูอ้วน (ทีมงาน TeeNee.Com) ข่าวดาราบน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!

Credit: ที่นี่ดอดคอม
2 ธ.ค. 58 เวลา 03:32 10,798 20
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...