มองหาความงามและอ่อนเยาว์

 





ดอเรียน เกรย์ ให้รูปวาดแก่ชราแทนตัวเอง (ภาพจากภาพยนตร์ Dorian Gray).





หากอยากอ่อนเยาว์ก็หาวิธีมาทำให้ตัวเองดูดีกันเถอะค่ะ และเรื่องนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่คนเราเป็นอย่างนี้กันมานานตั้งแต่เริ่มเปิดหน้าประวัติศาสตร์กันมาใหม่ๆ ทำให้มีตำนานมากมายว่าด้วยการรักษาความงาม ความอ่อนเยาว์ และบางทีก็ว่ากันไปถึงขั้นความพยายามในการเป็นอมตะ จะได้หนุ่มสาวกันอยู่ตลอดเวลา


หาก มองย้อนไปในอดีต คนที่ได้ชื่อว่าคงความงามได้จนเป็นที่เลื่องลือมากที่สุดคนหนึ่งเห็นจะเป็น ราชนิกุลสาวแห่งราชวงศ์ฟาโรห์ พระนางคลีโอพัตราผู้เลอโฉม ผู้พิชิตใจของจอมทัพแห่งโรมัน ตำนานกล่าวว่า พระนางน่าจะเป็นผู้หญิงคนแรกๆของโลก ที่จดบันทึกเคล็ดลับเกี่ยวกับความงาม และการคงความอ่อนเยาว์ไว้

   


คลีโอพัตรามีบันทึกเกี่ยวกับการรักษาความงามไว้มากมาย.



หนึ่งในเคล็ดลับที่ริเริ่มโดยคลีโอพัตรา และยังคงความนิยมมาจนปัจจุบัน ก็คือ การพอกหน้าที่สาวๆสมัยนี้ก็ยังทำตามกันอยู่ แต่การพอกหน้าของพระนางนั้น มีกรรมวิธีมากมาย ที่เด็ดที่สุดคือ ใช้ "ผงทองคำ" เป็นส่วนประกอบของการพอกหน้า ว่ากันว่า อณูของทองคำมีคุณสมบัติในการทำให้ผิวหน้ามีความอ่อนเยาว์ได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากนั้น ยังมีตำนานเล่าว่า  พระนางเสด็จไปถึงทะเลสาบเดดซี เพื่อนำโคลนจากก้นทะเลสาบที่เค็มที่สุดในโลกนี้มาพอกหน้าด้วย และทุกวันนี้ก็ยังมีคนหัวใสจัดทัวร์พานักท่องเที่ยวไปพอกหน้าที่เดดซีกัน เนืองๆ หรือบางคนก็ควักเอาโคลนจากเดดซีมาใส่กระปุกส่งออกไปขายทั่วโลก เพื่อให้สามารถรักษาความอ่อนเยาว์ และงามได้ดุจดั่งคลีโอพัตรา



อีกเคล็ดลับหนึ่งของพระนางคือ การสรงสนานด้วยนํ้านม ซึ่งก็เป็นอีกวิธีการที่สาวๆยุคนี้ยังเดินตามรอยคลีโอพัตรากันอยู่เหมือนกัน เพราะรู้กันแล้วว่า นํ้านมมีส่วนประกอบทางเคมีที่ทำให้ อ่อนเยาว์ ส่วนใครที่ไม่แน่พอกับการทุ่มทุนอาบนํ้านม ก็มีผลิตภัณฑ์หลากหลายที่ใช้นํ้านมเป็นส่วนประกอบ ที่ว่ากันว่า ทาหน้าก็หน้าใส ทาตัวก็เต่งตึง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณความรู้นานกาลจากอียิปต์โบราณนั่นแหละค่ะ
   




ฮีบี เทวีแห่งความอ่อนเยาว์.

พูดเรื่องโบราณแล้ว จะไม่กล่าวถึงตำนานกรีกก็กระไรอยู่ ความอ่อนเยาว์ในตำนานกรีกนั้นเป็นเรื่องง่ายๆค่ะ แทบไม่ ต้องลงทุนทำอะไร แค่ มองหาเทพกัญญานางหนึ่ง คือ ฮีบี ธิดาของมหาเทพซุส กับมหาเทพีเฮรา ปกติแล้ว ชื่อของฮีบีไม่ค่อยถูกกล่าวถึงเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนพระ นางจะไม่ค่อยมีบทบาท แต่อันที่จริงแล้ว ฮีบีเป็นเทวีแห่งความอ่อนเยาว์ ภาพของพระนางมักจะเป็นภาพของเทพีผู้อ่อนวัย ถือจอกติดตัวไว้ใบหนึ่ง เป็นจอกสำคัญ เพราะนั่นคือภาระหน้าที่ของพระนาง ในการอัญเชิญนํ้าทิพย์ให้หมู่เทพแห่งโอลิมปัส และนํ้าทิพย์นี้เอง ที่ทำให้วงศ์เทพมีทั้งความอ่อนเยาว์ และที่สำคัญคือ มีความอมตะตลอดกาล และนํ้าทิพย์นั้นก็ส่งผลถึงสวามีชื่อดังของพระนาง คือ เฮอร์คิวลิส ซึ่งเดิมเป็นมนุษย์กึ่งเทพ ผู้ไม่เป็นอมตะ แต่ในกาลต่อมา เฮอร์คิวลิสก็กลายเป็นอมตเทพไปกับเขาด้วย



อาจจะเป็นเพราะตำนานแห่ง นํ้าทิพย์ ทำให้มีการกล่าวขวัญถึงนํ้าพุแห่งความเยาว์วัย ซึ่งมีการอ้างถึงกันมาตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ ว่ามีที่ใดที่หนึ่งมีนํ้าพุศักดิ์สิทธิ์ ที่เมื่อได้ดื่มเข้าไปแล้ว ก็จะคงความเยาว์ไว้ได้ตลอดกาล ทำให้มีผู้คนมากมายพยายามเดินทางเสาะแสวงหานํ้าพุที่ว่านี้ แต่ก็ไม่มีใครหาพบ มีเรื่องเล่าว่า มีความเป็นไปได้ที่นํ้าพุแห่งความเยาว์วัยน่าจะผุดอยู่ในย่านแอฟริกา หรือบางคนก็ระบุเจาะจงลงไปเลยว่าอยู่แถวๆเอธิโอเปีย แต่ก็อย่างที่ว่าแหละค่ะ เรื่องนํ้าพุนี่ก็เป็นเพียงเรื่องเล่า ที่จนถึงสมัยยุโรปยุคกลางก็ยังมีผู้พยายามตามหาอยู่ บางคนก็มั่วว่าหาเจอแล้ว แต่เอาเข้าจริงก็เหลว แต่เชื่อได้เลยว่า หากใครหาเจอก็รวยไม่เลิกล่ะค่ะ
   
 



อเล็กซานเดอร์มหาราช.

คนหนึ่งที่เชื่อในเรื่องนํ้าพุ หรือนํ้าแห่งความอมตะและเยาว์วัย ก็คือ หนึ่งในกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก คือ อเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งมีพระบัญชาให้ ส่งไพร่พลออกไปตระเวนหาที่ตั้งของนํ้าวิเศษนี้ แต่ก็หาไม่พบ

เรื่องนี้คล้ายๆกับทางเอเชียเรานะคะ จิ๋นซีฮ่องเต้ เจ้าของผลงานกำแพงเมืองจีนอันมโหฬารเองก็มีเรื่องกังวลพระทัยใหญ่หลวง คือกลัวความชราและความตาย พระองค์จึงส่งผู้คนมากมายออกไปหายาอายุวัฒนะ แต่ก็ไม่เคยพบ



ในขณะที่ใครต่อใครพากันตามหายา หรือนํ้าพุ แต่มีสาวงามนางหนึ่งค่ะ ไม่ตามหาอะไรให้ ยุ่งยาก แต่หากรรมวิธีให้ตัวเองอ่อนเยาว์เอาเอง แต่หากเล่าถึงวิธีการแล้ว หลายท่านอาจจะบอกว่า ไอ้หยา ใครจะไปทำตามได้ แต่คุณเธอก็ทำลงไปแล้วล่ะค่ะ ชื่อของนางคือ เคาน์เตสอลิซาเบ็ธ บาโธรี่ พระญาติของกษัตริย์ฮังการี ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 16
   





เคาน์เตสอลิซาเบ็ธ บาโธรี่.

เคาน์เตสชื่อดังคนนี้ปรารถนาในความอ่อนเยาว์และความงาม แต่ไม่รู้ว่าใครไปเสี้ยมสอนให้ เกิดความเชื่ออันน่าสยดสยอง สาวเจ้าเชื่อว่า ความงามจะเกิดได้เมื่อได้อาบโลหิตสดๆของมนุษย์ โดยเฉพาะเลือดของสาวบริสุทธิ์ ว่าแล้ว ด้วยอิทธิพลที่มีล้นฟ้า ก็เลยสั่งการให้เหล่าข้าทาสไปสรรหาผู้หญิงเอ๊าะๆมาจำนวนมาก ทีแรกก็อ้างว่าจะเอามาเป็นนางรับใช้ในปราสาท แต่เอาเข้าจริงก็เอามาเชือด เพื่อใช้เลือดมาอาบตามความเชื่อของเคาน์เตส ที่ในกาลต่อมาผู้คนเรียกขานนางว่าเป็นเคาน์เตสเลือด หรือบางคนถึงกับเรียกว่า สาวแดร็กคิวลากันเลยทีเดียว
   
 


เคาน์เตสอลิซาเบ็ธสั่งให้จับหญิงสาวมาฆ่าเอาเลือดไว้อาบ.

ว่ากันว่า มีผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของเคาน์เตสราวๆ 600 คน แต่ที่เป็นทางการในตอนที่เคาน์เตสถูกฟ้องร้องจนต้องขึ้นศาลนั้น มีคดีอยู่ประมาณ 80 คดี ซึ่งแค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เคาน์เตส (บ้า) เลือดถูกจับขังจนตายคาคุกไปตอนอายุ 54 ปี ก็ไม่รู้ว่าตอนนั้นยังสาวทรงเสน่ห์สมใจ สมกับที่อุตส่าห์ชโลมเลือดมานานหลายปีหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคงไม่มีใครโรคจิตพอจะเลียนแบบความงาม และความอ่อนเยาว์ ของเคาน์เตสด้วยวิธีการแบบเดียวกันนี้หรอกค่ะ





แต่ที่เล่าลือ และเป็นเรื่องลับๆ ในการทำให้ตัวเองอ่อนเยาว์อีกวิธีหนึ่ง ซึ่งสมัยยุโรปยุคกลางมีเสียงซุบซิบกันมากก็คือ การทำสัญญากับปิศาจ ในสมัยก่อนโน้น เวลาใครทำอะไรดีเด่นขึ้นมา ก็มักกระซิบ กระซาบกันว่า ทำสัญญากับซาตานหรือเปล่า เช่น นักเขียน นักดนตรี ที่มีผลงานยอดเยี่ยม บางคนก็บอกว่าเป็นเพราะได้ "พรนรก" มาจากปิศาจ แลกกับการขายวิญญาณ เช่นเดียวกับใครที่ดูหน้าอ่อนใส ดูสวย ดูหล่ออยู่ตลอดเวลา ก็อาจจะถูกนินทาว่า ไหมล่ะ เป็นเพราะขายวิญญาณให้ปิศาจนั่นเอง





ไม่รู้ เป็นเพราะเรื่องซุบซิบแบบเมามันของบรรดาขาเม้าท์หรือเปล่านะคะ ที่ในที่สุดนักเขียนชื่อดังที่สุดแห่งยุคคนหนึ่งคือ ออสการ์ ไวลด์ ก็เกิดไอเดียเด็ด เขียนนิยายเรื่องสำคัญของเขาขึ้น คือ เรื่อง Dorian Gray-ดอเรียน เกรย์ ที่กล่าวถึงชายหนุ่มรูปงาม ที่ถูกวาดภาพซึ่งถ่ายทอดความงามสง่าแห่งวัยเยาว์ของเขาออกมา และภาพนั้นก็ น่าจะเป็นภาพความหล่อเหลาของดอเรียน เกรย์ ได้ต่อไปนานแสนนาน หากเจ้าตัวไม่ได้ไปทำสัญญากับปิศาจ ที่นำวิญญาณของเขาเข้าไปไว้ในภาพวาด ในขณะที่ดอเรียนตัวจริงคงความอมตะเป็นหนุ่มรูปงาม แต่ภาพวาดซึ่งถูกซ่อนไว้กลับกลายเป็นภาพของคนน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ และเพื่อปกปิดความลับของภาพวาดนี้ ทำให้ดอเรียนต้องกลายเป็นฆาตกรปิดปากคนที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญ พอจะมีความรักกับเขา ก็ต้องกังวลเรื่องความหล่อเหลาที่ไม่เคยลดถอยของตัวเองอีกต่างหาก

ตอน นี้ มีผู้หยิบบทประพันธ์แสนรักของออสการ์ ไวลด์ มาสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเดียวกับหนังสือ ก็ต้องลองติดตามกันว่าดอเรียนยุคจรวดนี้ จะหล่อชวนฝันเหมือนที่ออสการ์ ไวลด์ วาดภาพเอาไว้หรือไม่

แต่ที่แน่ๆ หากอยากงามและอ่อนเยาว์ วิทยา-การสมัยใหม่นี้มีหลากหลายวิธีให้เลือกทำกันเยอะแยะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าคอร์สต่างๆกับคลินิกความงาม หรือการซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงที่มีให้เลือกหลายยี่ห้อ แต่สำหรับผู้เขียนเชื่อว่า สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการแสวงหาความงามและความอ่อนเยาว์ เป็นเรื่องง่ายๆที่ทำกันได้ทุกคน คือทำงานแต่พอเหมาะ พักผ่อนแต่พอดี และทำจิตใจให้มีความสุขเสมอ
Credit: http://atcloud.com
29 พ.ค. 53 เวลา 21:06 4,089 8 114
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...