http://variety.teenee.com/world/73487.html
เรื่องลึกลับของกาลิเลโอ Galileo
นักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชาวอิตาลี Galileo Galilei มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับและรู้จักกันเป็นอย่างดีทางด้านวิทยาศาสตร์ แต่ตลอดชีวิตของท่าน ได้รับการข่มแหงรังแกจากศาสนจักร Catholic Church กับความเชื่อในเรื่องดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางระบบสุริยจักรวาลไม่ใช่โลก
1. ไม่ได้จบมหาวิทยาลัย
พ่อ Galileo เป็นนักเล่น lute เครื่องดนตรีชนิดหนึ่งคล้ายกีตาร์ และนักทฤษฏีทางด้านดนตรี มาจากครอบครัวขุนนางที่ไม่ร่ำรวยมากนัก Galileo เกิดที่ Pisa นครรัฐ Tuscany ใน Italy ในช่วงวัยเด็กเริ่มต้นเรียนที่โรงเรียนวัดใกล้กับ Florence และตัดสินใจว่าจะเป็นบาทหลวง แต่พ่อไม่ชอบใจเรื่องการที่ลูกชายจะใช้ชีวิตอยู่กับศาสนจักร เลยพา Galileo ออกจากโรงเรียนวัดทันที
เมื่อ Galileo วัย 16 ปี ได้ลงทะเบียน เรียนแพทย์ที่ University of Pisa ตามคำแนะนำของพ่อ Galileo แต่ Galileo กลับไปสนใจคณิตศาสตร์ แล้วมุ่งเน้นไปสนใจวิชานี้แทน
Galileo ลาออกจากมหาวิทยาลัยในปี 1585/2028 โดยไม่ได้รับปริญญาตรีแต่อย่างใด แต่ศึกษาคณิตศาสตร์ด้วยตนเอง และหารายได้จากการสอนพิเศษ ก่อนกลับไปสอนคณิตศาสตร์ที่ University of Pisa ที่นครรัฐ Tuscanyในปี 1589/2012
2. มหาวิทยาลัย Pisa เลิกจ้าง
แม้ว่า Galileo ได้รับตำแหน่งเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ ที่ University of Pisa ในปี 1589/2012 แต่เพราะถ่ายทอดการสอนไม่ดี และเข้ากับนักศึกษาไม่ได้ มหาวิทยาลัยจึงเลิกจ้าง Galileo
ในยุคนั้นนครรัฐอิตาลีแยกเป็นหลายรัฐ แต่ละรัฐต่างมีอัตลักษณ์และภาษาประจำถิ่นของตนเอง แม้ว่าจะใช้ภาษาละตินเป็นภาษากลาง แต่ถ้อยคำสำเนียงที่แตกต่างกัน และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ไม่เหมือนกัน
3. ไม่ได้คิดค้นประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์
Galileo ไม่ได้คิดค้นประดิษฐ์กล้องโทรทรรศน์ แต่ช่างทำแว่นตาชาวดัชท์ Hans Lippershey คือ ผู้เริ่มต้นคิดค้นผลงานประดิษฐ์ชิ้นนี้ แต่ Galileo คือ คนแรกที่เริ่มใช้อุปกรณ์เลียนแบบชิ้นนี้ ใช้ในการศึกษาดาราศาสตร์บนท้องฟ้า ด้วยการจดบันทึกและเรียบเรียงไว้อย่างเป็นระบบ
Lippershey ได้ยื่นขอสิทธิบัตรผลงานนี้ในปี 1608/2151 ตามที่มีการบันทึกไว้ในช่วงแรก ๆ แต่รัฐบาล Dutch ได้วินิจฉัยว่า กล้องโทรทรรศน์มีความเรียบง่ายเกินไป กับลอกเลียนแบบได้ง่าย และยังมีนักประดิษฐ์เครื่องมือชาว Dutch รายอื่น ต่างได้ยื่นคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตร ตามหลังมาในเวลาอีกไม่นานนักจำนวนหลายราย
ในปี 1609/2152 Galileo ได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ชิ้นนี้ และพัฒนาปรับปรุงขึ้นมาใหม่ในแบบของตนเอง ในฤดูใบไม้ร่วงปีนั้น Galileo ได้ส่องไปที่ดวงจันทร์ และมองเห็นหลุมอุกกาบาตและภูเขาบนดวงจันทร์ ทำลายความเชื่อดั้งเดิมเรื่องผิวดวงจันทร์ราบเรียบ ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อตามสายตามนุษย์
Galileo เริ่มศึกษาค้นคว้าดาวดวงอื่นด้วยกล้องโทรทรรศน์ รวมถึงดวงจันทร์ 4 ดวง ที่หมุนรอบดาวพฤหัส Jupiter และรูปแบบของดาวศุกร์ที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ การค้นพบของ Galileo ทำให้ได้รับชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ในปี 1610/2153 ได้รับตำแหน่งเป็น หัวหน้านักคณิตศาสตร์และนักปรัชญาจาก Grand Duke of Tuscany กับตำแหน่งหัวหน้านักคณิตศาสตร์ที่ University of Pisa
แต่เรื่องที่สำคัญมากคือ การสังเกตของ Galileo กลายเป็นการสนับสนุนทุฤษฏีดาราศาสตร์ ที่ค้นพบโดย Nicolaus Copernicus นักคณิตศาสตร์และนักดาราศาสตร์ชาว Polish ที่ประกาศในปี 1543/2086 ว่า โลกไม่ใช่ศูนย์กลางจักรวาล โลกกับดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ต่างพากันโคจรรอบดวงอาทิตย์
4. Galileo มีภริยานอกสมรส
แม้ว่า Galileo จะนับถือศาสนาคริสต์ นิกาย Roman Catholic ภายหลังมีภริยาชื่อ Marina Gamba แต่ไม่ได้แต่งงานตามพิธีศาสนาคริสต์ ทำให้เธอเป็นภริยานอกสมรส/ไม่ชอบด้วยกฎหมาย บุตรที่เกิดมาทุกคนจึงกลายเป็นลูกนอกสมรส จัดว่าเป็นเรื่องที่น่าอับอาย/เสียชื่อเสียงมากในยุคนั้น
ศาสนาคริสต์อนุญาตให้แต่งงานได้เพียงคนเดียว เว้นแต่อีกฝ่ายหนึ่งตายไปก่อน ห้ามไม่ให้มีการหย่าร้างแต่ประการใด ถือว่าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า ดังนั้นบุตรที่เกิดจากอนุภริยา หลายคนตามที่ระบุไว้ในประวัติศาสตร์ จึงต่างกลายเป็นบุตรนอกสมรส เช่น Pacioli, Michaelangelo
5. บุตรสาว 2 คนต้องเป็นแม่ชี
Galileo มีลูก 3 คนกับภริยา Marina Gamba แต่ไม่ได้สมรสถูกต้องตามหลักศาสนาคริสต์ ในปี 1613/2156 เขาให้ลูกสาวทั้ง 2 คน Virginia เกิดในปี 1600/2143 และ Livia เกิดในปี 1601/2144 ไปอยู่สำนักแม่ชีใน Florence ซึ่งทั้งคู่ได้อยู่ที่นั่นจวบจนวันตาย
แม้ว่าพ่อของพวกเธอ จะมีปัญหากับศาสนจักร Catholic Church แต่ Galileo ยังใกล้ชิดกับลูกสาวคนโต ที่ต่อมาได้ชื่อว่า Sister Maria Celeste แม้ว่าเธอจะอยู่ภายในสำนักแม่ชี เธอยังทำขนมปังซ่อมแซมเสื้อผ้า และงานจิปาถะอื่น ๆ ให้กับพ่อเธอ ในทำนองเดียวกัน พ่อของเธอ Galileo ได้มอบข้าวของเงินทอง ให้กับสำนักแม่ชีที่ขัดสนแห่งนี้ด้วยเช่นกัน
บุตรชาย Galileo ชื่อ Vincenzo เกิดในปี 1606/2147 จบการแพทย์ที่ University of Pisa ที่นครรัฐ Tuscany แต่งงานแล้วพำนักอยู่ใน Florence
6. Galileo ไม่มีค่าสินสอดทองหมั้นให้กับลูกสาว
การที่ลูกสาว 2 คนของ Galileo ต้องเป็นแม่ชีตลอดชีวิต เพราะการเป็นลูกนอกสมรส/ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้เป็นเรื่องยากมากกับการหาคู่ครอง รวมทั้งฝ่ายผู้หญิงจะต้องเป็นคนจ่ายค่าสินสอดทองหมั้น แต่ Galileo ไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอสำหรับการนี้ ทำให้ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น นอกจากให้บุตรสาวเป็นแม่ชีอยู่ในสำนักแม่ชีตลอดชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมในยุโรปบางแห่ง ฝ่ายหญิงต้องเป็นฝ่ายขอผู้ชายแต่งงาน เหมือนในอินเดีย(คนที่นับถือศาสนาฮินดู) หรือท้องถิ่นเกาหลีบางแห่ง
7. Galileo ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
ทฤษฏี heliocentric theory ของ Copernicus ที่ท้าทายผลงานความเชื่อดั้งเดิมของนักดาราศาสตร์ Ptolemy ในยุคศตวรรษที่ 2 ระบุว่า โลกเป็นศูนย์กลางสุริยจักรวาล
ในปี 1616/2159 Catholic Church ได้ประกาศว่า ทฤษฏีของ Copernican theory นอกรีตและผิดบาปต่อศาสนจักร เป็นการต่อต้าน/คัดค้านหลักความจริงศาสนาตามคัมภีร์ Bible
Galileo ได้รับอนุญาตจากศาสนาจักร ให้ทำการตรวจสอบข้อผิดพลาดแนวคิด/ทฤษฏีของ Copernicus ตราบนานเท่านาน Galileo ก็ไม่เคยค้ดค้านหรือยืนยันเรื่องนี้เลย
ในปี 1632/2175 Galileo ได้ตีพิมพ์หนังสือ Dialogue of the Two Principal Systems of the World เป็นเรื่องราวการโต้วาที/สนทนาหาข้อสรุประหว่างเพื่อนสองคน เกี่ยวกับแนวคิด/ทฤษฏีของ Ptolemy กับ Copernicus หนังสือเล่มนี้กลับกลายเป็นว่าสนับสนุนแนวคิด/ทฤษกี ระบบสุริยจักรวาลของ Copernican model of the universe
ทำให้ในปีต่อมา Galileo ถูกนำตัวขึ้นศาล ศาลศาสนจักร Inquisition ใน Rome ถูกตัดสินว่ามีความผิดบาปฐานนอกรีต Galileo ถูกบังคับให้สารภาพบาปความผิดต่อสาธารณชน และถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
8. ช่วงบั้นปลายชีวิตถูกจำคุกอยู่ในบ้าน
แม้ว่า Galileo จะต้องได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต แต่ได้รับการบรรเทาโทษให้จำคุกในบ้านตลอดชีวิตแทน Galileo ใช้ชีวิตในบั้นปลายที่ Villa Il Gioiello (เพชรพลอย) ที่เมือง Arcetri ใกล้ Florence ในปี 1617/2160 เพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับบุตรสาวที่เป็นแม่ชีทั้ง 2 คน โดยลูกสาวคนโตได้ดูแลพ่อเธอตราบจนวาระสุดท้าย
ศาสนจักรพยายามจะกีดกัน Galileo ให้ห่างเหินจากมิตรสหายและสิ่งตีพิมพ์ต่าง ๆ แต่ก็ยังมีคนมาเยี่ยมเยียนจากทั่วทวีปยุโรป เช่น นักปรัชญา Thomas Hobbes และนักกวี John Milton ในที่สุด Galileo ได้ให้คนลักลอบนำต้นฉบับเรื่องใหม่ ที่เป็นผลงานชิ้นสุดท้ายออกไปตีพิมพ์เผยแพร่ Discourses and Mathematical Demonstrations Concerning Two New Sciences วาทะกรรมและการสาธิตทางคณิตศาสตร์ที่สัมพันธ์กับวิทยาศาสตร์ยุคใหม่สองด้าน หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ที่ Holland ในปี 1638/2181 เป็นปีเดียวกันกับที่ Galileo ตาบอดสนิททั้งสองข้างแล้ว Galileo มตะ/ตายวันที่ 8 มกราคม 1642/2185 ตอนวัย 77 ปี
9. กระดูกนิ้วกลางยังจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์
ศพของ Galileo ถูกฝังยังสุสานสถานทั่วไป ของโบสถ์ Santa Croce ที่ Florence เกือบ 100 ปีต่อมา ในปี 1737/2260 ศพได้ถูกเคลื่อนย้ายไปฝัง ที่สุสานสถานผู้ทรงเกียรติยศ ของโบสถ์ Santa Croce กระดูกนิ้วมือจำนวน 3 นิ้ว ฟัน 1 ซี่ และกระดูกชิ้นหนึ่ง ถูกลักลอบดึงออกมาจากศพ
กระดูกนิ้ว 2 นิ้วกับฟัน 1 ซี่ของ Galileo ถูกนำไปเก็บรักษาโดยคนที่ชื่นชอบ และตกทอดไปยังทายาทหลายชั่วอายุคน แม้จะมีการคาดการณ์ว่าน่าจะสูญหาย ไปอย่างถาวรแล้วในช่วงปี 1900/2443
แต่ในปี 2009/2552 กระดูกนิ้ว 2 นิ้วกับฟัน 1 ซี่ ได้มีการนำออกมาประมูล และตกเป็นของสะสมส่วนตัวจากเอกชนรายหนึ่ง จากพยานหลักฐานทางเอกสารที่เก่าแก่ ผู้เชี่ยวชาญยันยันว่าเป็นของ Galileo
แต่กระดูกนิ้วกลางข้างขวาของ Galileo นิ้วที่ 3 ได้ถูกนำไปแสดงตามพิพิธภัณฑ์หลายแห่งในอิตาลี จนกระทั่งช่วงก่อนกลางปี 1800/2343 กระดูกชิ้นที่ถูกขโมยมาจึงได้ข้อยุติว่า ให้ตกเป็นของ University of Padua ที่ Galileo ได้ไปสอนตั้งแต่ปี 1592-1610/2135-2143
เรื่องเล่าไร้สาระ
บางตำนานเล่าว่า Galileo เคยเป็นบาทหลวงมาก่อน แต่ทำผิดศาสนาจักรบางเรื่อง จึงถูกปลดออกจากการเป็นบาทหลวง แล้วห้ามทำพิธีมิสซาตลอดชีวิต แต่ถือว่ายังเป็นบาทหลวงอยู่
ข้อมูลจากการสนทนากับ บาทหลวงชาวอิตาลี ระหว่างนั่งรถไฟกลับ ห.ใ ท่านเคยสอนผมที่โรงเรียนคาทอลิค
ท่านเล่าว่ารุ่นที่เป็นบาทหลวงพร้อมกับท่าน มีหลายคนที่ออกจากวัดคาทอลิคไปมีลูกมีเมีย พอทางศาสนาจักรทราบ จะห้ามทำพิธีมิสซาตลอดชีวิต แต่ยังถือว่าเป็นบาทหลวงอยู่ ไม่มีการสึกแบบพระภิกษุ
ดังนั้นการที่ Galileo ไม่ถูกประหารชีวิตเหมือนคนอื่น ๆ มีภริยากับลูกนอกสมรส ได้สิทธิพิเศษมากกว่านักโทษรายอื่น ๆ น่าจะมาจากสาเหตุนี้
10. กระดูกนิ้วกลางวางตำแหน่งชี้ไปยังกรุงโรม
มียุคหนึ่งประชาชนในนครรัฐ Florence ไม่ชื่นชอบสันตปาปาแห่งกรุงโรม เพราะเป็นทายาทของตระกูล Medici ที่ทำตัวเป็นตระกูลมาเฟียในอิตาลี มีอิทธิพลและบทบาทในการแต่งตั้งสันตปาปา เดิมครอบครองนครรัฐ Florence กับ Tuscany หลังจากถูกขับไล่ให้ออกไปจากนครรัฐ Florence เพราะผลพวงจากการที่ตระกูลนี้ประกอบกิจการธนาคาร แล้วเกิดล้มละลายเลยหายสาปสูญไปจากประวัติศาสตร์
ชาวนครรัฐ Florence ที่ไม่ชื่นชอบตระกูลนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงมักจะมีสัญลักษณ์ประชดหรือแสดงความไม่เคารพ กับคนของตระกูลนี้ แม้กระทั่งรูปปั้น David ในยุคหนึ่งที่ยังตั้งตระหง่านในที่สาธารณะ วางในตำแหน่งสายตาจับจ้องไปยังกรุงโรม
11. Ma se la Terra si muove
ศพของ Galileo ถูกฝังพร้อมกับ ลูกสาวคนโต Sister Maria Celeste ท่ามกลางศพของ Michelangelo และ Machiavelli กล่าวกันว่าป้ายหลุมศพเดิมมีการจารึกคำว่า Ma se la Terra si muove/But the Earth does move หรือโลกหมุนรอบตัวเอง โคจรรอบดวงอาทิตย์
มีการพูดเล่นกันว่า พื้นดินเคลื่อนที่ แต่มันไม่เป็นความจริง เพราะดินในหลุมฝังศพ ต้องอยู่ประจำที่
Machiavelli คือเจ้าของวาทะกรรม ราชาต้องเป็นเสมือนสุนัขจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์เฉลียวฉลาด แต่ยังคงความดุร้ายเหี้ยมโหดเหมือนราชสีห์ จำจากสำนวนฉบับใต้ดินที่เพื่อนพ้องน้องพี่ สรุปย่อแล้วแปลกันเองโดยตั้งชื่อกันว่า เจ้าชาย ก่อนที่จะมีฉบับแปลเป็นภาษาไทย ชื่อว่า เจ้าผู้ปกครอง โดย สมบัติ จันทรวงศ์
12. คัมภีร์สอนแต่เรื่องทางไปสวรรค์ ในการตอบคำถามศาลศาสนาจักร Galileo ให้คำตอบครั้งหนึ่งว่า " พระคัมภีร์สอนมนุษย์ว่าจะไปสวรรค์อย่างไร แต่ไม่ได้บอกว่าสวรรค์เป็นเช่นไร "
13. Einstein นิยมชมชอบ Galileo มากที่สุด
“ บรรดาความรู้ความจริงทั้งปวง เริ่มต้นและจบลงที่ประสบการณ์ ทฤษฏีบททั้งปวงมาจากตรรกะบริสุทธิ์ ที่หมายความว่า คือความว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านการพินิจพิจารณาอย่างถ่องแท้แล้ว เพราะเหตุผลที่ว่า Galileo ได้มองเห็นและเข้าใจเรื่องนี้ และด้วยความจงใจอย่างยิ่งที่ Galileo ได้โยนเรื่องแบบนี้ลงในโลกวิทยาศาสตร์ Galileo คือ บิดาของฟิสิกส์ยุคใหม่ และวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ทั้งสองอย่าง " เรื่องลึกลับของกาลิเลโอ Galileo
ขอบคุณบทความดีดีจาก pantip.com
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมจาก >> pantip.com
โพสโดย :JaAey..Ja (ทีมงาน TeeNee.Com) ข่าวดาราบน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!