ปัญหาบนท้องถนนมีให้เราเห็นกันแทบทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นรถชนกัน หรือรถเสียที่จอดอยู่ตามข้างทาง ซึ่งปัญหาเหล่านี้เราไม่ควรจะละเลยอีกต่อไป วันไหนโชคดีอาจจะรถเสียในเมือง จะหาช่างก็สะดวกหน่อย แต่ถ้าวันไหนโชคร้ายขึ้นมา รถดันไปเสียในที่ที่ทางเปลี่ยวไม่มีคน แบบนี้อาจทำให้เกิดอันตรายต่างๆนาๆได้
และทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับว่า รถยนต์กลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันไปแล้ว วันนี้เราจึงนำข้อมูลอาการผิดปกติของรถ 8 สัญญาณด้วยกัน ที่ควรรีบเช็กและซ่อมแซมโดยเร็ว ก่อนจะเสียหายหนักดังนี้
1.ยาง
หากดอกยางตรงกลางล้อสึกหรอมากกว่าขอบ แสดงว่าเติมลมแข็งเกินไป ดอกยางขอบล้อ สึกหรอมากกว่าตรงกลาง แสดงว่าเติมลมอ่อนเกินไป ดอกยางสึกหรอข้างใดข้างหนึ่ง แสดงว่ามุมแนวตั้งของยางไม่ตรง ดอกยางเป็นบั้งๆ แสดงว่าแนวของยางไม่ขนานกับแนวเคลื่อนที่ของรถ ควรนำรถเข้าอู่เพื่อตั้งศูนย์ล้อ หรือปรับแรงดันลมยางใหม่
2.คลัตช์
คลัตช์ที่มีปัญหาจะทำให้ควบคุมเกียร์ไม่ได้ อย่าละเลยอาการเหล่านี้ สำหรับรถเกียร์ธรรมดา เช่น คลัตช์ลื่น หรือเข้าคลัตช์ไม่สนิท หรือเหยียบแป้นคลัตช์แล้ว แต่ยังเข้าเกียร์ได้ยาก คลัตช์มีเสียงดังเมื่อเหยียบแป้นคลัตช์ แป้นคลัตช์สั่นขึ้นๆ ลงๆ ขณะกำลังขับ
3.เกียร์
จะทำหน้าที่เปลี่ยนแรงบิดของเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับความเร็ว สัญญาณบอกเหตุว่าเกียร์มีปัญหาคือ มีเสียงดังทั้งในขณะอยู่ที่เกียร์ว่าง หรือเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่งอยู่ เปลี่ยนเกียร์ยาก มีอาการติดขัด หรือต้องขยับอยู่นาน มีเสียงดังขณะเข้าเกียร์ทั้งที่เหยียบคลัตช์แล้ว ห้องเกียร์มีน้ำมันหล่อลื่นไหลออกมา
4.พวงมาลัย
สำหรับพวงมาลัยที่มีปัญหาเหล่านี้จะทำให้อุปกรณ์อื่นๆ เช่น ยางเฟืองท้ายชำรุดตามไปด้วย ได้แก่ พวงมาลัยหนัก หรือต้องใช้แรงมากผิดปกติในการบังคับเลี้ยว พวงมาลัยหลวมเกินไป มีระยะฟรีเกิน 1 นิ้ว พวงมาลัยสั่นในขณะขับ ควรนำเข้าศูนย์บริการ
5.เบรก
ถ้าพบว่าเบรกมีอาการผิดปกติ ต้องรีบแก้ไขทันที เช่น เบรกลื่น หยุดรถไม่อยู่ แม้จะไม่ได้ลุยน้ำ เบรกแล้วรถปัดไปข้างใดข้างหนึ่ง, แป้นเบรกยังจมลึกลงไปทั้งที่ถอนเท้าออกมาแล้ว ควรนำรถเข้าอู่ซ่อมทันที
6.ไฟชาร์จ
ควรจะปรากฏขึ้นที่แผงหน้าปัดทุกครั้งที่สตาร์ตเครื่อง และเมื่อสตาร์ตติดแล้ว ครู่หนึ่งก็จะดับลง แต่ถ้าไฟชาร์จไม่สว่าง หรือสว่างแล้วไม่ยอมดับ อาจเกิดจากไดชาร์จผิดปกติหรือสาเหตุอื่น ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ รีบนำรถเข้าอู่
7.หลอดไฟ
ถ้าขาดบ่อยหรือต้องเติมน้ำกลั่นในหม้อแบตเตอรี่บ่อยเกินไป แสดงว่าอุปกรณ์ที่เราเรียกว่า เรกูเลเตอร์ ทำหน้าที่ควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมชำรุด ควรนำรถเข้าอู่ระบบไฟ เพื่อซ่อมเรกูเลเตอร์ หรือหากชำรุดก็อาจจะต้องเปลี่ยนใหม่
8.น้ำมันหล่อลื่น
ถ้าสัญญาณไฟเตือนระบบน้ำมันหล่อลื่นสว่างขึ้นในขณะขับขี่รถยนต์ หมายถึงว่า เครื่องยนต์กำลังทำงาน โดยปราศจากน้ำมันหล่อลื่น รีบนำรถไปยังอู่ที่ใกล้ที่สุดทันที แต่ถ้าอู่อยู่ไกลให้เติมน้ำมันเครื่องใส่ลงในถัง
ที่มา : sanook.com