เชื่อหรือไม่ว่าตอนนี้อาจจะมีสิ่งมีชีวิตมากมายอาศัยอยู่ภายในร่างกายของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรค เชื้อไวรัส แบคทีเรีย (ทั้งดีและไม่ดี) หนอน หรือพยาธิ ซึ่งแต่ละอย่างนั้นล้วนมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น ซึ่งส่วนใหญ่ปรสิตเหล่านี้มักจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทางหารทานอาหารสุกๆ ดิบๆ บาดแผล และผิวหนัง หลังจากที่เข้าสู่ร่างกายมันจะไปเจิรญเติบโตในร่างกายแล้วชอนไชไปทั่วจนส่งผลให้เกิดโรคตามมา...
1. โรคพยาธิไส้เดือน (Ascariasis) เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจาก Ascaris lumbricoides หรือพยาธิไส้เดือน ซึ่งการติดเชื้อนั้นอาจเกิดจากการทานอาหารที่มีไข่ของพยาธิปนเปื้อนอยู่
หลังจากที่ไข่ของพยาธิเข้าสู่ร่างกายแล้ว พวกมันก็จะฟักตัวและเจริญเติบโตอยู่ภายในร่างกาย เมื่อมันเจริญเติบโตเต็มที่มันจะไปเกาะอาศัยอยู่ตามผนังลำไส้ ทางเดียวที่จะนำมันออกมาได้ก็คือการผ่าตัดนั่นเอง
2. โรคเท้าช้าง เป็นโรคที่มีสาเหตุมาจาก Wuchereria Bancrofti ซึ่งเป็นพยาธิชนิดหนึ่ง โดยพยาธิเหล่านี้จะไปอาศัยอยู่ในระบบน้ำเหลืองของร่างกายส่งผลให้แขน ขา และอวัยวะเพศมีอาการบวมโตอย่างผิดปกติ
3. โรคพยาธิตัวตืด ซึ่งตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดจะอาศัยอยู่ในเนื้อสัตว์ถ้ากินอาหารดิบ หรืออาหารสุกๆ ดิบๆ ตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดก็จะเข้าไปเจริญเติบโตในร่างกายจนส่งผลให้เกิดโรคตามมาได้
4. พยาธิตืดหมู เกิดจากการทานเนื้อหมูที่ไม่สุก ทำให้ตัวอ่อนของพยาธิเข้าไปอยู่และเจริญเติบโตในร่างกาย ซึ่งหลังจากที่มันเข้าไปอาศัยอยู่ในสมองจะทำให้เกิดโรคลมบ้าหมู และโรคเนื้องอกในสมองได้
5. โรคพยาธิเส้นด้าย (Strongyloides) เกิดจากพยาธิตัวกลมขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า หลังจากที่เข้าไปอยู่ในร่างกายจะทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดและลำไส้เล็กได้
ทั้งพวกมันยังเป็นสาเหตุให้เกิดรอยน่ากลัวอีกด้วย เพราะไม่ว่ามันจะเคลื่อนย้ายไปทางไหนมันก้จะทิ้งรอยนูนคดเคี้ยวคล้ายผื่นเอาไว้
6. โรค sparganosis เป็นโรคที่เกิดการการทานเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะงูสิง กบ นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างสุนัขและแมวอีกด้วย หลังจากที่มันเข้าไปอยู่ในตัวแล้วจะทำให้เกิดก้อนกลมๆ ใต้ผิวหนัง ทั้งยังทำให้เกิดการติดเชื้อที่สมองและดวงตาได้อีกด้วย พยาธิชนิดนี้ไม่สามารถใช้ยาฆ่าได้ วิธีเดียวที่จะรักษาโรคนี้ได้คือ การผ่าตัดเอาตัวพยาธิออก
7. โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากอะมีบา (Acanthamoeba keratitis) โดยอะมีบาเป็นเชื้อที่สามารถพบได้ตามดินและแหล่งน้ำทั่วไป ซึ่งมันสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางกระจกตาส่งผลให้เกิดความบกพร่องทางสายตาหรือตาบอดได้เลยทีเดียว
ที่สำคัญถ้าคุณเป็นคนใส่คอนแทคเลนส์ ไม่ควรจะใส่มันลงเล่นน้ำด้วยเพราะมันอาจอันตรายมากจนทำให้คุณติดเชื้อจนตาบอดได้...
8. โรคพยาธิหอยโข่ง หรือพยาธิปอดหนู (rat lungworm) เป็นพยาธิที่พบในหลอดเลือดแดงในปอดของหนู โดยคนสามารถติดเชื้อได้จากการทานอาหารสุกๆ ดิบๆ การทานพืชผักสดๆ โดยไม่ล้าง หรือการทานอาหารที่มีหนูปนเปื้อน หลังจากที่ติดเชื้ออาจจะทำให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ ซึ่งเป็นอันตรายเป็นอย่างมาก ทั้งยังทำให้สมองเสยหายอย่างถาวรอีกด้วย
9. พยาธิเข็มหมุด (Pinworm) หรือพยาธิเส้นด้าย เป็นปรสิตขนาดเล็กที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยมันจะอาศัยอยู่บริเวณทางเดินอาหารส่วนล่างของคน และชอบแย่งอาหารคนกิน ส่งผลให้เกิดอาการคันรอบทวารหนัก...
10. Naegleria fowleri อะมีบากินสมองเป็นเชื้ออะมีบาชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในน้ำ ซึ่งสามารถเข้าสู่ร่างกายทางคอนแทคเลนส์ จมูก และบาดแผล หลังจากที่เข้าสู่ร่างกายอาจทำให้เกิดอาการสมอง และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
11. พยาธิในตาที่เกิดจากเชื้อปรสิต Loa loa ซึ่งคนสามารถติดเชื้อได้จากแมลง Dear fly ที่พบได้บ่อยในแถบทวีปแอฟริกา หลังจากที่เข้าสู่ร่างกายมันจะชอนไชไปทั่ว โดยเฉพาะส่วนดวงตา โดยการรักษานั้นต้องผ่าตัดนำมันออกมา หรือไม่ก็ยิงเลเซอร์...
12. โรคพยาธิใบไม้ปอด (Paragonimus westermani) ชนิดพาราโกนิมัส (Paragonimus) ที่สามารถพบได้ในเอเชียและอเมริกาใต้ ซึ่งมันจะเข้าไปอาศัยอยู่ในปอด เกิดขึ้นได้จากการกินปู้หรือกุ้งแม่น้ำดิบๆ
หลังจากเข้าสู่ร่างกายมันจะเข้าไปอาศัยอยู่ในลำไส้ จากนั้นก็ย้ายมาอยู่ที่ผนังท้อง และเข้ามาอยู่ในปอด และถ้ามันเริ่มเติบโตมันก็จะชอนไชไปยังสมองและกล้ามเนื้อต่างๆ ทั่วร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติของอวัยวะ
13. ไร (Mites) เป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมากที่มีอยู่เกือบทุกที่ ทั้งยังอันตรายมากอีกด้วย โดยมันชอบกัดคนทำให้เกิดเป็นผื่นคัน
14. แมลงวันตัวเล็กๆ อาจทำให้เกิดโรค leishmaniasis ขึ้นได้ โดยมันจะกัดและดูดเลือดบริเวณผิวหนัง ทำให้เกิดบาดแผลบริเวณผิวหนัง ลุกลามจนมีไข้ และม้ามโตได้
15. candiru เป็นปลาตัวเล็กๆ ที่ชอบตามกลิ่นฉี่ของผู้ชายและเข้าไปอยู่ในท่อปัสสาวะ ทำเกิดการติดเชื้อที่อวัยวะเพศ ทางเดียวที่จะนำมันออกมาได้คือผ่าตัดเท่านั้น
16. ตัวอ่อนของแมลงวัน Bot fly โดยแมลงวันชนิดนี้สามารถวางไข่ในผิวหนังของคนได้ ซึ่งหลังจากที่มันวางไข่จะเกิดเเผลขนาดเล็ก ถ้าใครไม่สังเกตก็คิดว่าเป็นแค่ตุ่มบวมหรือตุ่มยุงกัดเท่านั้น
จากนั้นตัวอ่อนของมันก็จะฟักตัวกลายเป็นหนอนออกจากมาจากผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเป็นโพรงน่าสยดสยองสุดๆ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "creepybasement"