โดย "คาร์ลา ฮาซินโต" หญิงสาวชาวเม็กซิโกได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตน่าสะทือนใจที่ต้องตกเป็นเหยื่อของแก็งค้ามนุษย์ว่า ตอนที่เธออายุ 12 ปีเธอได้คบหาดูใจกับชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเธอมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นหนึ่งในพวกค้ามนุษย์ข้ามประเทศระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก แต่กว่าเธอจะรู้ความจริงก็ถูกหลอกและบังคับให้เป็นโสเภณีไปเสียแล้ว
โดยเธอเล่าว่าช่วงแรกที่คบกันนั้นเขาดูแลเธอเป็นอย่างดี ทั้งยังให้ทุกอย่างไม่ว่าจะเงินทองและสิ่งของ ด้วยความที่เธอเป็นเด็กที่โตมาในสภาพครอบครัวที่มีปัญหา เธอจึงคิดว่าเขาดีต่อเธอ แต่แล้วเมื่อเธอย้ายตามมาอยู่กับเขาในสหรัฐฯ เขาก็เริ่มสอนเธอเกี่ยวกับเรื่องการเป็นโสเภณี ทั้งท่าทางบนเตียง การเรียกเก็บเงิน รวมถึงการเอาใจลูกค้าเพื่อให้ได้เงินเพิ่ม
จากนั้นก็บังคับให้เธอไปเป็นโสเภณีขายตัวนานกว่า 4 ปี และภายในเวลา 1 สัปดาห์เธอต้องรับแขกมากถึง 30 คน ทั้งเธอยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ตลอดเวลาที่เธอเป็นโสเภณีเธอต้องถูกผู้ชายข่มขืนรวมๆ แล้วกว่า 43,200 ครั้งเลยทีเดียว
โดยคาร์ลาจะต้องทำงานตั้งแต่ 10 โมงเช้า - เที่ยงคืน ในเวลาทำงานพวกค้ามนุษย์จะพาเธอไปพบลูกค้าตามสถานที่ต่างๆ ทั้งซ่อง โรงแรม ข้างถนน และบ้าน ถ้าเธอขัดขืนเมื่อไหร่ก็จะถูกทุบตี ล่ามด้วยโซ่ และใช้เหล็กร้อนลวกอย่างทารุณ
นอกจากนี้เธอยังเปิดเผยอีกด้วยว่า หลังจากทำงานได้ไม่นานเธอก็ตั้งท้องตอนอายุ 15 ปี และหลังจากที่เธอคลอดลูก พวกค้ามนุษย์ก็พรากลูกของเธอไป จากนั้นก็ใช้ลูกของเธอเป็นเครื่องมือในการบังคับให้เธอขายตัวต่อ ถ้าเธอปฏิเสธหรือขัดขืนพวกเขาก็จะขู่ฆ่าลูกของเธอ
และแล้วในปี 2551 เจ้าหน้าที่ก็ได้บุกเข้าไปจับตัวเธอในโรงแรมขณะที่ให้บริการลูกค้าอยู่ ดังนั้นเธอจึงอาศัยจังหวะนี้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจจนหลุดออกมาจากขบวนการป่าเถื่อนนี้ได้ เธอจึงได้เปิดเผยเรื่องราวชีวิตของเธอให้ชาวโลกได้รับรู้
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์กล่าวว่า เรื่องราวของคาร์ลาเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยมาก โดยในจำนวนประชากร 10,000 คนจะมีสมาชิกของขบวนการนี้อยู่มากถึง 1,000 คนเลยทีเดียว มีเด็กและผู้หญิงมากมายที่ตกเป็นเครื่องมือของขบวนการค้ามนุษย์
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "dailynews"