ร้านอาหารหลายที่ในเมืองหลวงของเบลเยียมต้องตกใจ หลังที่พบรายงานว่ากว่า 30% ของเนื้อปลาถูกแทนที่ด้วยสิ่งอื่น หลังซื้อขายมาบริโภค
ล่าสุดมีการศึกษาวิจัยของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโอเชียเนียได้ออกมาเผยว่า มากกว่า 1 ใน 3 ของปลาที่ถูกขายอยู่ในประเทศและรอบๆ กรุงบรัสเซลส์สถาบันสหภาพยุโรปติดฉลากไม่ได้มาตรฐาน
ปลาสวายที่วางขายแทนปลาค็อด
เชื่อหรือไม่? ว่าโรงอาหารของสหภาพยุโรปที่เจ้าหน้าที่ ใช้รับประทานอาหารอยู่เป็นประจำ กว่า 38% ของปลาจะติดป้ายฉลากผิด ทั้งนี้ทางสหภาพยุโรปต้องการที่จะเคลียร์ธุรกิจเหม็นคาวภายในทั้งหมด โดยเร่งตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขในการติดฉลากอาหารทะเล
จากการตรวจสอบเดียเอของปลาทั้งหมด 280 ตัว จากร้านอาหาร 150 ร้านในสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงบรัสเซลส์ และร้านอาหารในพื้นที่ของสหภาพยุโรป พบว่ากว่า 31.8% เป็นปลาติดฉลากอาหารที่ไม่ได้มาตรฐาน
กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโอเชียเนีย ยังบอกอีกว่า 14% ของปลาที่วางขาย จะถูกสับเปลี่ยนแทนที่ด้วยปลาสวายเพราะมีราคาไม่แพง บางครั้งอาจเป็นปลาดุก และติดป้ายฉลากเป็นปลาชนิดอื่นที่มีราคาแพงแทน (โกงราคาไม่พอ หลอกลวงผู้บริโภคอีกด้วย)
ปลาทูน่าสีน้ำเงิน (ขวา) และ ปลาทูน่าครีบเหลือง (ซ้าย)
ไม่เพียงเท่านั้นจากการตรวจสอบในครั้งนี้ยังพบอีกว่าเกือบๆ 95% ของฉลากป้ายที่ติดว่า “ปลาทูน่าครีบสีน้ำเงิน” เนื้อปลาที่หลายๆ คนชื่นชอบใช้ในการทำซูชินั้น ในความเป็นจริงแล้ว เนื้อปลาที่ขายอยู่นั้นกลับเป็น “ปลาทูน่าครีบเหลือง” แทน เพราะมีราคาถูก กว่าทูน่าครีบสีน้ำเงินมาก หากใครแยกไม่ออกก็จะคิดว่าเป็นเนื้อปลาตามที่ป้ายติดอยู่นั่นเอง และอีกกว่า 10% จะถูกสลับสับเปลี่ยนให้เป็นปลาชนิดอื่นๆ แทน
รายงานครั้งนี้แสดงให้เห็นถึง “การทุจริตการค้าอาหาร” ยังสะท้อนให้เห็นถึงการทุจริตโกงกินในการขายมากมายหลายที่ เช่น
1 ใน 4 ของออริกาโนอบแห้งที่วางจำหน่ายอยู่ในร้านค้าของสหราชอาณาจักรและไอร์แลนด์พบว่า ภายในบรรจุภัณฑ์มีส่วนผสมของวัตถุดิบตัวอื่นอื่นที่ผิดปลอมไปจากออริกาโน
สำหรับกรณีที่ร้ายแรงที่สุดเห็นทีจะเป็น ประเทศจีน ที่ทำกันเป็นกระบวนการปลอมแปลงอาหารข้ามชาติ เช่น นำเนื้อหนู หมาป่า และตัวมิง มาย้อมแมวขายเป็นเนื้อแกะอีกที ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการปลอมอาหารอีกมากมายที่หลอกขายให้กับผู้บริโภค ที่ทำมาได้เนียนขั้นเทพจริงๆและได้แพรระบาดไปในหลายพื้นที่ทั่วโลกไม่เพียงเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบนี้
พลาสติก ผ่านกรรมวิธีต่างๆ แล้วนำมาผสมกับเรซินสังเคราะห์มาอัดเม็ดให้มีลักษณะคล้ายกับเมล็ดข้าวจริงๆ หากรับประทานไปเป็นจำนวนมากอาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือโรคต่างๆตามมา
ยางมัดผม – ยังมัดผมที่แสนจะธรรมด้า ธรรมดา พี่จีนเขาก็ยังปลอม โดยใช้ถุงยางอนามัยผ่านการใช้งานแล้ว มาม้วนๆให้เป็นลมๆ แล้ว พันวนด้วยเส้นด้ายสีสันต่างๆ
นม – ช่วงนั้นจัดได้ว่าเป็นขับอึกทึกครึกโครมไปเลยทีเดียวทำให้ผู้บริโภครายลายไม่กล้าบริโภคนมอีก เมื่อรู้ข่าวว่าจีนใช้ สารเจือปนอย่างเมลามีนในการผลิตนม ทำให้เด็กต้องเสียชีวิตไป 4 คนและเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวอีกนับ 10,000 คน
ยารักษาโรค – ยาน้ำแก้ไอ ทางจีน ใช้วิธีการผลิตโดยการ ใส่ได้เอธีรีน ไกลโคล (Diethylene Glycol) ซึ่งเป็นยาที่อันตรายที่สุดต่อร่างกายมนุษย์ เมื่อใช้อัตราส่วนที่ผิดพลาดอาจส่งผลถึงชีวิตและในช่วงนั้นทำให้มีชาวบ้านปานามาเสียชีวิตไปกว่า 100 คน
ซอสถั่วเหลือง – เห็นทีซอสถั่วเหลืองจะเด็ดสุด! เมื่อรู้ว่าจีนใช้ เส้นผมของคน ขนรักแร้ ขนหน้าแข้ง และขนต่างๆตามร่างกายมาใช้ในการผลิตซอสถั่วเหลือง เนื่องจากน้ำขนเหล่านั้นมีสารประกอบของโปรตีนอยู่เยอะ (คาดว่าจีนคงใช้วัสดุทดแทนที่มีคุณค่าทางอาหารใกล้เคียงถั่วเหลืองมากที่สุด)
เนื้อวัว – ต้องบอกเลยว่าเนื้อวัวเป็นเนื้อที่หลายหลายคนทั่วโลกนิยมและยิ่งถ้าเป็นเนื้อเกรดดีดีด้วยแล้วราคามักจะสูงมาก-จนยากจะเอื้อมถึง จีนเลยคิดวิธีเพื่อหากำไรจากผู้บริโภคโดยการเอา เนื้อหนู มิงค์ หมาป่ามาดัดแปลงทีละนิดทีละน้อยผสมกัน ปรุงแต่งให้เป็นเนื้อวัว, เนื้อแกะและเนื้ออื่นๆอีกมากที่มีราคาแพง
คอนแทคเลน – ระบาดหนักอยู่ในมาเลเซียหยุดพักใหญ่ เมื่อจีนผลิตคอนแทคเลนส์ที่ใช้วัสดุในการผลิตที่ไร้มาตรฐานฉีดสีเจียปนที่เป็นอันตรายต่อตาของเรา หากใช้ไปนั้นนานอาจส่งผลให้ตาของเราบอดสนิทได้
บะหมี่ – อย่างที่เรารู้กันบะหมี่จะทำจากข้าวแล้วนำมาแปรรูป พี่จีนเลยคิดดัดแปลงฉวยโอกาสนี้ เอาของเน่าของบูดต่างๆมาผลิตแปรรูปเป็นบะหมี่ขาย ทำให้ผู้บริโภคมีอาการท้องร่วงบางคนอาจถึงขั้นติดเชื้อในลำไส้ได้
ไข่ – นี่ก็เป็นอีกเคสนึงที่ระบาดหนักในไทยเหมือนกันส่งผลกระทบไปทั่วโลก เมื่อพี่จีน ใช้สมองที่ชาญฉลาดแกมโกงในการผลิตไข่ออกมาและส่งขายไปทั่วโลก ซึ่ง เปลือกใครนั้นทางมาจากแคลเซียมคาร์บอเนตที่ใช้ในการผลิตกระดาษและพลาสติกมาทำ ส่วนไข่แดงและไข่ขาวทำมาจากโซเดียมแอลจิเนต สารส้ม เจลาติน แคลเซี่ยมคลอไรต์และน้ำ บวกกับแต่งสีอีกนิดหน่อย ก็เป็นอันเสร็จละ (กินมากก็ตายได้ง่ายๆ)
วอลนัตปลอม – ที่จีนนำเมล็ดเปลือกวอลนัตมา ใส่ปูนซีเมนต์ข้างใน พร้อมติดกาวที่แนบเนียน เพื่อให้มีใกล้เคียงกับของจริง
ต่อไปนี้การที่เราจะเลือกรับประทานอะไร ควรตรวจสอบ และเช็ครายละเอียดให้ดีก่อนซื้อมาบริโภค หรือเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์ขององค์การอาหารและยา เพื่อให้เราได้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์นี้ปลอดภัยและได้มาตรฐานจริง
ที่มา : BBC