ยอดตาย “วัณโรค” พุ่งสูง-แซงหน้า “โรคเอดส์”

รายงานล่าสุดขององค์การอนามัยโลก เผย ตัวเลขของผู้เสียชีวิต “โรควัณโรค” จากทั่วโลกพุ่งสูงขึ้น แซงหน้า การเสียชีวิตจาก “โรคเอดส์”

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผย ผลการเก็บสถิติล่าสุดพบว่า “อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยวัณโรคเพิ่มสูงขึ้นเกินผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคเอดส์”

วัณโรคเป็นที่เกิดจากการติดเชื้อไมโครแบคทีเรีย (ที่เกิดจากเชื้อวัณโรค) และก่อให้เกิดอาการป่วยที่ปอด แต่ยังสามารถส่งผลกระทบต่อส่วนอื่นของร่างกายได้เช่นกัน

วัณโรค (Tubercle Bacillus / TB) เป็นโรคที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ หากผู้ป่วยทำตามที่แพทย์สั่ง ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นวัณโรคร้อยละ 95 ต้องเสียชีวิตลงเพราะความปล่อยปะละเลย ไม่ใส่ใจในการรักษาให้ต่อเนื่อง โดยส่วนมากจะเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนาหลาย

ในปี 2557 มีผู้ที่เสียชีวิตจากโรคเอดส์มากถึง 1.2 ล้านคนทั่วโลก ในขณะที่การติดเชื้อของวัณโรคมี 1.5 ล้านคนทั่วโลกที่เสียชีวิต ซึ่งองค์การอนามัยโลกบอกว่าการรักษาโรควัณโรคถือเป็นอะไรที่มีความท้าทายมาก แต่ในปัจจุบันทั่วโลกต้องประสบปัญหากับการขาดเงินทุนในการรักษา ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่สำคัญ

จากรายงานขององค์การอนามัยโลกในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า “การควบคุมและป้องกันวัณโรคมีผลโดยตรงในแง่ของการช่วยชีวิตและการรักษาโรคให้หายขาดได้” โดย ผอ.องค์การอนามัยโลก มาร์กาเร็ต ชาน บอกว่า “ความก้าวหน้าเหล่านี้เป็นกำลังใจ แต่ถ้าโลกคือการสิ้นสุดการระบาดของโรคนี้ก็ ความต้องการที่จะไต่ขึ้นบริการและวิกฤตลงทุนในการวิจัย. “

ความก้าวนี้เป็นเหมือนกำลังใจ ถ้าทั่วโลกช่วยกันปกป้องและยับยั้งการระบาดของโรคนี้ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องใช้งบประมาณในการศึกษาและวิจัยต่อไป การลงทุนเพิ่มเติมจะช่วยในการพัฒนายารักษาใหม่ๆ ซึ่งในปัจจุบันการรักษาสำหรับการติดเชื้อวัณโรคที่ใช้อยู่นั้น ต้องใช้เวลาในการรักษาที่ยาวนานขึ้นอยู่กับอาการของโรค โดยประมาณ 6 – 9 เดือน ต้องอาศัยความอดทนและความต่อเนื่องในการรักษาและทานยาของคนไข้

นอกจากนี้การรักษาแบบใหม่ จะต้องมีกรพัฒนาในส่วนของผู้ป่วยวัณโรคที่ดื้อยาว่าควรปรับเปลี่ยนในการรักษาอย่างไร ในการรักษาวัณโรคดื้อยา (MDR TB,XDR TB) นั้น จะต้องระยะเวลาที่ยาวนานและการรักษาก็มีความยากมากขึ้น ซึ่งจะใช้เวลาในการรักษาประมาณ 20-30 เดือน และในปี 2557 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากวัณโรคดื้อยา (MDR-TB) ประมาณ 190,000 ราย

ถึงแม้ว่าการรายงานครั้งจะแสดงให้เห็นว่า การเสียชีวิตโดยรวมเนื่องจากวัณโรคนั้นลดลงมากจากเมื่อก่อน ในช่วงระหว่างปี 2533 และในปี 2558 อัตราการเสียชีวิตของวัณโรคลดลงถึงร้อยละ 47 แต่กลับมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงมากเกินกว่าโรคเอดส์ อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการวิจัยที่ทำการศึกษาค้นคว้า ตัวยาต่อไป เพื่อช่วยในการรักษาผู้ป่วยและหาวิธียับยั้งการแพร่ระบายของวัณโรค วัณโรค