ประวัติความเป็นมาของเอฟบีไอ
FBI ย่อมาจาก Federal Bureau of Investigation สำนักงานสอบสวนกลางแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ก่อตั้งโดยนายชาร์ลส์ โบนาปาร์ด รมว.ยุติธรรมและประธานาธิบดีธิวดอร์ รูสเวลต์ เมื่อ 26 ก.ค. 2451 ในนาม Special Agents of Department of Justice (หน่วยงานเฉพาะกิจแห่งกระทรวงยุติธรรม)
รูสเวลต์และโบนาปาร์ตรู้จักกันก่อนหน้าที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสำคัญของประเทศ โดย 6 ปีก่อนการก่อตั้งนั้นทั้งสองเป็นสมาชิก ของคณะกรรมการปฏิรูปหน่วยงานด้านพลเรือน Civil Service Reform ซึ่งเป็นช่วงที่ชาวอเมริกันเรียกร้องให้รัฐบาลปรับปรุง กระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพโดยให้มีคนที่เป็น"ผู้เชี่ยวชาญ"เข้ามาร่วมในกระบวนการด้วย
เมื่อรูสเวลต์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐก็แต่งตั้งโบนาปาร์ตเป็นรมว.ยุติธรรม จากนั้นโบนาปาร์ตก็เริ่มปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ออกกฎหมาย แยกอำนาจของกระทรวงยุติธรรมออกจากหน่วยงานด้านข่าวกรอง Secret Service และจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจสังกัดกระทรวงยุติธรรมขึ้นมาใหม่ ซึ่งนั่นก็คือเอฟบีไอในเวลาต่อมา ทั้งนี้ในช่วงต้นๆเอฟบีไอก็ได้อดีตเจ้าหน้าที่สืบส่วนและเจ้าหน้าที่สืบข่าวลับฝีมือดีมาเป็นทีมงานสำคัญ และตอนนั้นหน่วยงานก็แบ่งเป็น24แผนก
ต่อมาในปี 2452 จอร์จ วิกเคอร์แมน ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็นรมว.ยุติธรรมคนใหม่ได้เปลี่ยนชื่อกองกำลังเฉพาะกิจนี้เป็นสำนักงานสืบสวนสอบสวน Bureau of Investigation มีหน้าที่สืบสวนคดีที่ผู้ต้องหาละเมิดกฎหมาย ไม่ว่าโกงแบงก์ โกงที่ดิน โกงทรัพย์ จนกระทั่ง 1 ปี ต่อมาเมื่อพ.ร.บ.ทาสผิวขาวผ่านสภา เอฟบีไอก็มีอำนาจสืบสวนคดีอาชญากรรม จากนั้นไม่กี่ปี เอฟบีไอก็ขยายขอบเขตงานและหน่วยงาน ย่อยมากกว่า 300 แผนก มีสำนักงานตามรัฐต่างๆ เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2475 เปลี่ยนชื่อเป็นเอฟบีไออย่างเป็นทางการ
ขอบเขตงานของเอฟบีไอแต่ละสมัยจะแตกต่างกันไม่มีตายตัว เพราะงานประเภทนี้ต้องเป็นงานที่ทันสังคมอย่างสมัยสงครามโลกก็เน้นคดีจารกรรม พอถึงยุคต่อมาก็เน้นคดีอันธพาลครองเมือง สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เน้นคดีสอบองค์กรคอมมิวนิสต์ ฟาสซิสต์ ต่อมาก็เน้นคดีอาชญากรรมการเงิน พอยุคปัจจุบันก็เน้นคดีอาชญากรรมข้ามประเทศ ผู้ก่อการร้าย ยาเสพติดและฟอกเงิน สำหรับนักสืบเอฟบีไอนั้นจะมาจากตำรวจที่เข้าฝึก ที่สถาบัน FBI National Academy เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ ไม่ว่าการสืบสวนสอบสวนคดีฆาตกรรม คดีการเงิน คดีก่อการร้าย ฯลฯ
5 คดีสุดยอดเอฟบีไอ
ในอดีตนั้นเอฟบีไอต้องเจออาชญากรตัวเอ้ๆ แบบสุดๆ เหมือนกัน จนแทบระดมทั้งกรมเพื่อตามล่า สืบสวนกันเลยที่เดียวครับ พวกเขาเหล่านี้ อาจเป็นฮีโร่หรือตัวช่วยสร้างสีสันให้กับความฝันของผู้คนในภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ แต่สำหรับรัฐแล้ว พวกนี้มันถูกหมายหัว เพราะมันทำให้ "รัฐ" เสียหน้า คนเหล่านี้จึงต้องถูกขึ้นบัญชีของ FBI ทำการลบชื่ออกไปจากสังคม
อัล คาโปน เจ้าพ่อที่เหนือเจ้าพ่อ
อัล คาโปน เขาเป็นนักธุรกิจ หัวหน้าแก๊ง และจอมวายร้าย ในช่วงทศวรรษที่ 20-30 เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในทำเนียบ "เจ้าพ่อมาเฟีย"ในสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ที่ FBI มีแฟ้มประวัติอาชญากรรมของเขาหนานับพันหน้า แต่ไม่เคยเอาผิดเขาได้เลยสักครั้ง และความฉลาดเอาตัวรอดของเขา แต่อัลคาโบน ดันมาตายน้ำตื้นจากข้อหาที่เจ้าหน้าที่ที่ยัดความผิดข้อหาเดียวคือ "หลีกเลี่ยงภาษี" จนกระทั้งถูกส่งตัวไปยังคุกอัคาทราซแบบไม่เกิดเลย
แต่ถึงอย่างไร อัล คาโปน ยังมีนิสัยน่ารักอย่างหนึ่งคือเขาไม่เคยทำให้ผู้บริสุทธิ์เดือดร้อนเลยยกเว้นกับคู่อริที่เห็นเมื่อไหร่เป็นต้องยิงทิ้ง แต่เขาก็สั่งไม่ให้ฆ่าเด็ก ผู้หญิง คนแก่ และครอบครัวของคู่อริด้วย โอ้ช่างน่ารักจริงๆ
จอห์น ดิลลิงเจอร์ สุภาพบุรษจอมโจร
อันนี้เป็นสื่อมวลชนตั้งฉายากันไปเอง เพื่อเป็นสัญลักษณ์การค้าครับ กับ จอห์น ดิลลิงเจอร์ หัวหน้าแก๊งโจรปล้นธนาคารที่โด่งดังที่สุดในเขตรัฐโอไฮโอ และอินเดียน่า ในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพราะตลอดเพียงปีเดียวของการก่ออาชญากรรม จอห์น ดิลลิงเจอร์ และแก๊งของเขาปล้นธนาคารถึง 22 ครั้ง ได้เงินไปราว 3 แสนกว่าดอลลาร์ นอกจากนั้นยังยิงเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนบริสุทธิ์เสียชีวิตอีก 15 คน บาดเจ็บอีก 17 คน เขาเคยถูกจับ 3 ครั้ง แต่หนีออกมาได้ทุกครั้ง จนทำให้ผู้อำนวยการ FBI ถึงกับต้องออกประกาศทางวิทยุด้วยตนเองประกาศจับว่า
"มันคือขุนโจรร้ายแห่งยุคและเป็นศัตรูอันดับหนึ่งของชาติ"
บอนนี และไคลด์ คู่แท้จอมโจร
พวกเขาเป็นสองคู่หูจอมโจรชื่อดังที่เคยสร้างความปั่นป่วน แก่ตำรวจทั่วทั้งเท็กซัสและละแวกรัฐใกล้เคียงมาตลอด 2 ปี วีรกรรมของพวกเขาน่ะสุดยอดเลย ทั้งยิงนายอำเภอและผู้ช่วยนายอำเภอ และฆ่าคนจำนวนมากเพียงแค่เงินจำนวนน้อยนิด แต่ถึงแม้พวกเขาจะตายไปนานแล้ว พวกคนในท้องถิ่นก็ยังไม่ลืม ความทรงจำของพวกเขาได้ ถึงกับสร้างรูปปั้นเป็นวีรบุรุษในท้องถิ่นเลยที่เดียว
เพร็ทตี บอย ฟลอยด์ ฆาตกรหมู่ที่แคนซัส
เช้าตรู่วันที่ 17 มิถุนายน ปี ค.ศ. 1933 ประวัติศาสตร์ต้องจารึกว่า นี้เป็นอาชญากรรมของ FBI ก็เป็นบันทึกลงในแฟ้มอาชญากรรมของ FBI เมื่อเจ้าหน้าที่ 3 คน สารวัตรสืบสวนตำรวจโอคลาโฮมา 1 นาย ถูกฆาตกรรมกลางแจ้งขณะควบคุมจอมอาชญากรที่ก่อคดีมากมายคนหนึ่งกลับสู่เรือนจำ หลังจากหลบหนีมานานถึง 3 ปี
คดีนี้ช็อกคนทั่วแคนซัส ซิตีทั้งเมืองเพราะมันเกิดขึ้นกลางเมืองต่อหน้าสาธารณชนมากมาย ทำให้นำไปสู่การจับตายมือปืนที่เป็นต้นเหตุนาม ชาร์ลส์ อาร์เธอร์ ฟรอยด์ หรือฉายา เพร็ตตี บอย ในเวลาต่อมา แบบไล่ล่าแบบพลิกแผ่นดินเลยครับ
คดีลักพาตัวหนูน้อย ลินด์เบริก
หลังอาทิตย์ตกดินวันที่ 1 มีนาคม ปี ค.ศ. 1932 ราวสองทุ่มที่เย็นฉ่ำด้วยฝนตกโปรยปราย คฤหาสน์ของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงชื่อ ชาร์ลส์ ออกุสตุส ลินด์เบิร์ก ใกล้กับโฮปเวลล์ นิวเจอร์ซี ถูกบุกรุกโดยคนแปลกหน้า มันเข้าไปลักพาตัวหนูน้อย ชาร์ลส์ เอ. ลินด์เบริร์ก จุเนียร์ วัย 1 ขวบ โดยที่ทุกคนในบ้านไม่รู้ตัว พร้อมมีจดหมายเรียกค่าไถ่เงินนับล้านดอลลาร์ถ้าไม่ทำไม่งั้นเด็กตาย
ตำรวจทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแลกตัวหนูน้อยแต่ผลสุดท้ายกับได้ศพสยองแทน หนูน้อยนั้นตายตั้งแต่วันที่รักษาตัวแล้วล่ะ ดังนั้นทาง FBI จึงตั้งสืบสวน อย่างหนักเพื่อสืบสวนคดีที่ซับซ้อนนี้ให้ได้ด้วยการเดิมพันกับชื่อเสียงของ FBI เลยทีเดียว
และมาถึงปัจจุบัน เอฟบีไอก็ยังพบอาชญากรตัวเอ้ทุกน่ะครับ เช่น บินลาเดน , ไดเวอร์ ขุนส่า ฯลฯ แต่งานของพวกเขาไม่มีทางจบลงง่ายหรอกครับ ตราบใดที่ยังมีมนุษย์อยู่บนโลกนี้....
ที่มา: http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?topic=85654.0