ตำนาน ขุนส่า ราชายาเสพติดโลก

http://variety.teenee.com/world/72925.html

ตำนาน ขุนส่า ราชายาเสพติดโลก

               

เสียงปืนนานาชนิด ทั้งปืนกลเบา เอ็ม 60 ปืน ค.88 ค.81 จรวดอาร์พีจี ดังกึกก้องสะท้อนกลบไปทั้งขุนเขาบ้านหินแตก ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กองกำลังตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) เขต 6 จำนวน 800 นาย ภายใต้การนำของ พ.ต.อ.ทองอุณห์ เจริญสม ที่โอบล้อมฐานที่ตั้งกองกำลังขุนส่าราชายาเสพติดโลก ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 900 ชีวิต 400 ครัวเรือน ต้องอพยพหนีตายกันจ้าละหวั่น

เสียงการต่อสู้ห้ำหั่นกินเวลานาน 2 วันเต็ม ยุทธภูมิบ้านหินแตกจึงสิ้นสุดลง พร้อมกับชัยชนะของทางการไทยที่สามารถผลักดันกองกำลังนอกดินแดนพ้นอธิปไตยของไทยได้อย่างเบ็ดเสร็จ จับกุมกองกำลังได้บางส่วนและยึดอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ได้รวมน้ำหนักกว่า 5 ตัน ทั้งปืนเอ็ม 16 ปืนยิงจรวดเอ็ม 79 ระเบิดมือเอ็ม 26 และกระสุนปืนนับหมื่นนัด แต่ไร้วี่แววของขุนส่าที่หลบหนีออกจากฐานที่มั่นไปก่อนการกวาดล้างจะเกิดขึ้น ไปตั้งฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองกาน ประเทศพม่า

นั่นคือภาพยุทธภูมิบ้านหินแตกเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2525 หรือเมื่อ 25 ปีก่อนหน้านี้ ปัจจุบันขุนส่าพร้อมสมุนกว่า 2 หมื่นชีวิต ตัดสินใจเข้ามอบตัวกับทางการพม่า ยุติบทบาทอันลือเลื่องเมื่อ

ครั้งอดีตให้เหลืออยู่แต่ในความทรงจำและบันทึกที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งบนโลกใบนี้ หนึ่งในนั้นคือพิพิธภัณฑ์บ้านหินแตก ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย "คม ชัด ลึก" จะพาไปพบกับตัวตนของขุนส่าตั้งแต่เกิด กระทั่งเข้ามามีบทบาทอยู่ในแถวหน้าในฐานะราชายาเสพติดโลกว่า มีความเป็นมาอย่างไร

"พิพิธภัณฑ์บ้านหินแตก" หรือจะพูดให้ถูกคือฐานที่ตั้งของกองกำลังขุนส่าในอดีต มาถึงวันนี้ยังหลงเหลือร่องรอยแห่งการต่อสู้ที่ยาวนาน แข็งแกร่ง มั่นคง และมีมนต์ขลัง เต็มไปด้วยกลิ่นอายของการต่อสู้ ที่ปรากฏอยู่ตามโรงเรือนฝึกทหาร โรงครัว คุกดิน สถานที่ประชุมก่อนปฏิบัติการแต่ละครั้ง รวมไปถึงบ้านพักของขุนส่าบนเนื้อที่ 12 ไร่

ณ สถานที่แห่งนี้เองเมื่อครั้งอดีตจะมีกองกำลังของขุนส่าประจำอยู่ 2,000 คน ทุกๆ 6 เดือนจะมีกองกำลังผลัดใหม่จากพม่าผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาฝึกยุทธวิธี ก่อนจะกลับไปปฏิบัติการตามฐานที่มั่นต่างๆ สถานที่ที่ครั้งหนึ่งเต็มไปด้วยผู้คน มาบัดนี้กลับว่างเปล่า มีเพียง "เครือเดือน ตุงคำ" นักวิจัยท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาดอยตุง อยู่ดูแลในฐานะผู้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับขุนส่าเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้

ขุนส่า เกิดเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2477 (ค.ศ. 1934) ที่บ้านผาผึ้ง อ.ดอยหม่อ อ.เมืองใหญ่ จ.ล่าเสี้ยว แคว้นแสนหวี (รัฐฉาน) เป็นบุตรของขุนอ้าย (จีน) กับนางแสงชุ่ม (ไทยใหญ่) ขุนอ้ายเป็นอดีตมะโยจา (กำนัน) ดอยหม่อ จึงมีคำนำหน้าว่า "ขุน" เครือเดือนอธิบายว่าหมายถึงคนที่สืบเชื้อสายมาจากตระกูลชาวไทยใหญ่ ขุนส่าเกิดได้ไม่นานพ่อก็เสียชีวิต แม่ไปแต่งงานใหม่ จึงตกไปอยู่ในความดูแลของพ่อเลี้ยง

ต่อมา "ขุนยี่" ปู่ได้นำขุนส่าไปเลี้ยงที่เมืองดอยหม่อ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เขาจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ ตั้งแต่เรื่องภาษาจีน การเลี้ยงม้า ผสมพันธุ์ม้า ล่อ รวมไปถึงการปลูกข้าว ไร่ชา ตลอดจนไร่ฝิ่น

เมื่อโตเป็นหนุ่ม "ขุนจ่า" ผู้เป็นอาได้สอนยุทธวิธีการต่อสู้และปรัชญาชีวิต "ยอมหักไม่ยอมงอ" เพื่อไม่ให้ถูกทหารญี่ปุ่น พม่า หรือแม้แต่ทหารก๊กมินตั๋ง (เคเอ็มที) กองพล 93 รังแก แต่กระนั้นเขาก็ยังจำภาพความโหดร้ายเมื่อครั้งหมู่บ้านถูกปล้นสะดมได้ติดตา

กระทั่งปี 2491-2505 พม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษ ขุนส่าจึงรวบรวมสมัครพรรคพวกต่อต้านขับไล่ทหารก๊กมินตั๋ง ที่เข้ามารุกรานชาวไทยใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าใช้จ่ายในการสู้รบจากการปลูกฝิ่นและขายฝิ่น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชื่อของขุนส่าก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าของขบวนการปลดแอกไทยใหญ่

"กองกำลังเขาแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทางการพม่าต้องการตอบโต้ทหารก๊กมินตั๋ง จึงจับมือกับขบวนการปลดแอกไทยใหญ่ใช้ชื่อว่า กากวยเย (เคเควาย) หรืออาสาสมัคร แต่ขุนส่าเองก็ถูกลอบทำร้ายหลายครั้ง ครั้งที่โด่งดังที่สุดก็คือช่วงสงครามฝิ่น เมื่อวันที่ 6-9 กรกฎาคม 2510 ทหารก๊กมินตั๋งวางแผนถล่มขุนส่าที่บ้านขวัญ ประเทศลาว" เครือเดือน เปิดลิ้นชักความรู้ ไม่นานขุนส่าก็ขยายอาณาเขตด้วยการตั้งฐานที่มั่นอยู่ตามแนวชายแดนไทย-พม่า-ลาว ซึ่งขณะนั้นยังเต็มไปด้วยป่าเขายากแก่การเข้าปกครองของทางการ ปี 2506 กองกำลังติดอาวุธของขุนส่าก็เข้ามาบุกเบิกบนดอยหินแตก ภายหลังเกิดไข้ป่าระบาดผู้คนล้มตายลงจำนวนมาก

เครือเดือน อธิบายว่า สาเหตุที่ขุนส่าเลือกเอาบ้านหินแตกเป็นฐานที่มั่น ก็เพราะบ้านหินแตกเป็นที่ที่ชาวไทยใหญ่อพยพเข้ามาตั้งรกรากอยู่ก่อนแล้ว เป็นที่พักแรมของบรรดาพ่อค้าวัว และยังเป็นจุดศูนย์กลางการค้าระหว่างรัฐฉานกับรัฐโยนก ไม่นานนักบ้านหินแตกก็เจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการสร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน บูรณะซ่อมแซมวัดวาอารามต่างๆ โดยนำเงินที่ได้จากการขายฝิ่นมาสร้างสิ่งเหล่านี้

ขุนส่าลักลอบขนฝิ่นจากรัฐฉานมายังบ้านหินแตก ด้วยการปะปนมากับคาราวานม้าต่างๆ ของพ่อค้านายทุน จากฐานที่มั่นเมืองดอยหม่อเข้าเมืองต้างยาน บ้านผาผึ้ง บ้านหนองคำ ข้ามแม่น้ำสาละวินที่ท่าวัวนอง ปางกันฮ่อก ข้ามถนนใหญ่เส้นทางเชียงตุง-ตองจีที่เมืองเปียง เข้าเมืองขอน เมืองปั๊ก เมืองลุง ข้ามแม่น้ำสายเข้าประเทศไทยที่บ้านผาจี ห้วยอื้น บ้านหินแตก เขาทำการค้ายาเสพติดมานานและด้วยปริมาณที่มากมายที่กระจายไปทั่วโลก ชื่อของขุนส่าจึงติดอันดับราชายาเสพติดโลกในชั่วเวลาไม่นาน

เมื่อขุนส่ามาสร้างหลักปักฐานอยู่ที่บ้านหินแตก ทางการพม่าก็เริ่มไม่ไว้วางใจราชายาเสพติดโลกคนนี้เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับรัฐบาลไทยมีนโยบายปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากราชอาณาจักร โดยได้รับความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) การกวาดล้างผลักดันครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้น

ขณะที่ทางการพม่าเองก็พยายามกันตัวเองให้พ้นจากข้อครหาของประชาคมโลกว่า เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้ายาเสพติดของขุนส่า เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจจึงจับกุมขุนส่าไปจำคุก ทว่าก็เป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เพียง 5 ปีเท่านั้น เพราะลูกสมุนขุนส่าได้ลักพาตัวแพทย์ชาวรัสเซีย 2 คน ไปกักตัวไว้ที่บ้านหินแตก พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้แลกเปลี่ยนตัวประกันกับราชายาเสพติดโลก

พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ นายกรัฐมนตรีของไทยสมัยนั้น ร่วมกับเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย เป็นตัวแทนช่วยเจรจากับทางการพม่า นำมาสู่การแลกเปลี่ยนตัวประกันในที่สุด แต่กระนั้นก็ยังกินเวลานานถึง 6 เดือนกว่าการเจรจาจะเป็นผลสำเร็จ จากนั้นการแลกเปลี่ยนตัวประกันจึงเกิดขึ้นที่บ้านหินแตก

เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ประเทศไทยตื่นตัวและเริ่มดำเนินนโยบายผลักดันกองกำลังติดอาวุธของขุนส่าอย่างจริงจัง นำมาสู่ยุทธการบ้านหินแตกเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2525 นั่นเอง ขุนส่ามอบตัว

 

7 มกราคม 2509 เป็นวันที่ชาวไทยใหญ่และทุกคนทั่วโลกต่างงุนงงสงสัยกับข่าวหนึ่ง ขุนส่าพร้อมกองกำลังยอมวางอาวุธและจำนนต่อรัฐบาลพม่า โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่สำหรับ "เครือเดือน ตุงคำ" แล้ววิเคราะห์ได้ว่า เกิดจาก 5 ประเด็นหลัก คือ 1.สหรัฐร่วมมือกับทางการไทยปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง 2.สหรัฐประกาศต่อประชาคมโลกว่า ต้องการตัวขุนส่าไปดำเนินคดีที่สหรัฐ 3.ถึงเวลารามือของขุนส่า 4.พ.อ.เจ้ากานยอดแยกตัวไปตั้งกองกำลังใหม่ทำให้กองทัพเมืองไตอ่อนกำลังลง 5.กองกำลังต่อต้านพม่า 16 กลุ่ม เจรจาหยุดยิงกับพม่า "ทั้ง 5 เหตุผลข้างต้นนี้ทำให้ขุนส่ากดดันอย่างหนัก จนหาทางออกไม่ได้" เครือเดือน ให้ความคิดเห็นส่วนตัว ตำนาน ขุนส่า ราชายาเสพติดโลก

ที่มา Facebook :: ตำนาน คดีดัง

 

Credit: ที่นี่ดอดคอม
31 ต.ค. 58 เวลา 03:58 2,376
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...