"เรื่องลึกลับของเด็กชายในกล่อง ปริศนาที่จนบัดนี้ไม่มีคำตอบ"

      "America's Unknown Child" หรือ "The Fox Chase Boy เป็นคดีสยองลึกๆ ที่ยังคงเป็นปริศนาจนถึงปัจจุบัน ด้วยคำถามที่ว่า การตายของเด็กชายลึกลับในคดีดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่น่าเศร้าหรือการฆ่าที่โหดร้ายโดยเจตนากันแน่? ใครฆ่าเขาและฆ่าทำไม? ทำไมต้องจัดศพในสภาพพิศวง ด้วยการเปลือยร่างเด็กชายยัดใส่ในกล่องกระดาษแข็ง แล้วนำทิ้งในที่รกร้าง และที่น่าพิศวงคือเด็กชายคนที่ตายคนนี้เป็นใครกันแน่? ทำไมไม่มีรายงานเด็กหายไป? ทำไมถึงไม่มีใครเลยที่มาแสดงตัวเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กผู้ตาย?

       แม้ว่าคำถามเหล่านี้จะเป็นคำถามง่ายๆ แต่กลับทำให้หลายฝ่ายที่พยายามไขปริศนาต่างงงงวยกว่าสี่ทศวรรษที่ผ่านมา ความตายลึกลับของเด็กชายไม่ได้การไข จนกลายหนึ่งคดีที่ลึกลับที่สุดในแฟ้มอาชญากรรมในประเทศสหรัฐอเมริกา ในศตวรรษที่ยี่สิบ ที่แม้แต่นี้นักสืบคดีฆาตกรรมในฟิลาเดลเฟีย เอฟบีไอ หรือแม้กระทั้ง Vidocq Society องค์กรที่มีความเชี่ยวชาญในการไขปริศนาคดีฆาตกรรมก็ไม่สามารถไขคดีนี้ได้

       ในปี 1957 ณ ถนน Susquehanna ถนนแคบๆ ที่พบกระจัดกระจายทั่วไปในใน Fox Chase ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ของฟิลาเดลเฟีย ในตอนนั้นถนนแห่งนี้ยังไม่ค่อยมีสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์เท่าใดนัก อย่างมากก็มีเสาไฟฟ้า ทำให้สองข้างทาง เต็มไปด้วยป่ารกเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์เล็กจำพวกกระต่ายหรือหนูจึงจะเป็นที่นิยมของคนในแถบนั้นที่นิยมมาล่าสัตว์เป็นงานอดิเรก นอกจากนั้นยังเป็นที่ทิ้งขยะอีกส่งผลทำให้บรรยากาศที่แห่งนี้ค่อนข้างจะรกร้างและวังเวงจึงไม่แปลกอะไรที่จะมีใครสักคน ที่จะเอาศพมนุษย์ไปทิ้งบริเวณพื้นที่แห่งนี้

จุดที่พบเด็กชายในกล่อง

 

 

       วันที่ 25 กุมภาพันธ์ เฟรเดอริก เจ. เบโนนิค นักเรียนจากมหาลัยอายุ 26 ปี ได้ขับรถตามถนนทางทิศตะวันตกในช่วงบ่าย ของวันจันทร์เวลา 15:15 น. เจาได้เห็นกระต่ายกระโดดออกจากพุ่มไม้เขาคิดว่าจะหยุดรถเพื่อไล่ล่ามัน ในขณะที่ออกนอกรถ เขาก็วางที่ดักหนูมัสคแร็ต(หนูขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง)ในป่าแถบนั้น ในตอนนั้นเองเขาได้เห็นกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่ และเขาก็สะดุดสิ่งที่อยู่ยื่นออกมานอกกล่องตอนแรกเขาคิดว่าอาจเป็นตุ๊กตายาง แต่หากมองดีๆ แล้วกับเป็นศพเด็กของจริง หากแต่ชายหนุ่มคนนั้นกลับไม่แจ้งตำรวจเพราะว่าการหาหนูมัสคแร็ตนั้นผิดกฎหมาย(ตำรวจยังสืบทราบอีกว่าเด็กหนุ่ม คนดังกล่าวมีนิสัยชอบแอบมองผู้หญิงในบริเวณสถานศึกษาที่ตั้งอยู่แถวนั้น) จนกระทั้งเช้าวันถัดมา เวลาสิบโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงจะได้รับแจ้งว่าพบศพเด็กชายในกล่องจากนักศึกษาวิทยาลัยคนเดียวกับพบศพรายแรก เนื่องจากเขา ได้ยินข่าวเด็กหญิงถูกลักพาตัวในนิวเจอร์ซีย์เลยคิดว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวคือเด็กที่เขาเห็น เขาเลยโทรไปหาตำรวจดังกล่าว

       เมื่อตำรวจรับแจ้งความ ก็รีบรุดมาที่เกิดเหตุ มีการพบศพเด็กชายลึกลับไม่ทราบชื่อชาวคอเคเซียน(ฝรั่งขาว) อายุประมาณ 4 ถึง 6 ปี อยู่ในสภาพเปลือยกายห่อด้วยผ้าห่มเก่าลายสก็อตราคาถูก นอนหงายหน้าอยู่ในกล่องกระดาษ ขนาดใหญ่ที่มองคร่าวๆ คิดว่าจะเป็นตุ๊กตาถูกทิ้งมากกว่าศพคนจริงเนื่องจากกล่องและผ้าห่มปิดมิดทำให้มองเห็นไม่ถนัด อีกทั้งสถานที่ทิ้งเป็นที่รกร้างและเป็นที่ทิ้งขยะข้างทาง ร่างกายของเด็กแห้งและสะอาด แขนของเด็กถูกพับอย่างระมัดระวัง เล็บมือและทรงผมถูกตัดสั้นและเรียบร้อยแม้ผมนั้นขาดแหว่งหายๆ คาดว่ามีคนตัดฝีมือการตัดไม่ดีนักและน่าจะตัด ในช่วงที่เขาตายแล้ว เด็กมีส่วนสูงประมาณ 40 ½ นิ้ว หนักประมาณ 30 ปอนด์ มีตาสีฟ้าผิวขาวซีดคาดว่าน่าจะเป็นโรค ขาดสารอาหาร(จากการตรวจสอบเด็กไม่ได้กินอาหารสองหรือสามชั่วโมงก่อนตายของเขา) เด็กมีผมสีน้ำตาลอ่อน หรือผมสีบลอนด์และมันพึ่งได้รับการตัดเมื่อเร็วๆ นี้ เหมือนกับว่าเจตนาพยายามปกปิดตัวตนของเด็ก แต่กระนั้นก็เชื่อว่า เด็กผู้ตายน่าจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีในครั้งที่มีชีวิตอยู่พอสมควร

สภาพศพเด็กชายในกล่อง

 

 

       ศพเด็กผู้ตายมีบาดแผลทั่วร่างโดยเฉพาะบนหัวและใบหน้าที่ดูรุนแรงมากที่สุด ส่งผลทำให้ใบหน้าของเด็กบอบซ้ำ และบวมคาดว่าจะได้แผลรุนแรงนี้เด็กน่าจะรับในช่วงเวลาเดียวกันและนี้คงเป็นสาเหตุทำให้เด็กเสียชีวิต นอกจากนี้ ยังมีรอยแผลบนร่างกายเด็กถึงเจ็ดแห่งแต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิตแต่อย่างใด

       ที่น่าพิศวงคือร่างกายของเด็กคนนั้นแห้งและสะอาด มีรอยย่นหยาบที่ฝ่าเท้าที่บ้านเราเรียกว่า หญิงรับจ้างซักผ้า แสดงให้เห็นว่าเด็กชายถูกแช่น้ำในระยะยาวนานก่อนหรือเสียชีวิต ส่วนการชันสูตรระยะเวลาเสียชีวิตของเด็กนั้น ระบุได้ยากเพราะว่าสภาพอากาศที่พบศพนั้นเย็นสบาย ทำให้การระบุระยะการตายของเด็กเป็นไปได้หลายทางคือ เด็กอาจจะตายมาแล้วสองหรือสามวัน หรือ สองหรือสามสัปดาห์ก็ได้ทั้งนั้น

       ด้วยสภาพศพของเด็กชายนั้นดูรู้เลยว่าน่าพิศวงและน่าเวทนา ทำให้ตำรวจบางคนได้บรรยายในวันนั้นไว้ว่า ผมเคยมีประสบการณ์ร่วมรบในสงครามโลกครั้งที่สองมาก่อน ผมเห็นคนจำนวนมากที่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่กรณีนี้ผมได้สัมผัสอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

       แต่กระนั้นตำรวจบางนายคิดว่าคดีนี้คงจะเป็นคดีธรรมดาที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เด็กผู้ตายน่าจะเป็นคนแถวๆ นี้ และคดีคงจบเพียงไม่กี่เดือน ปรากฏว่าหนึ่งเดือน สองเดือนผ่านไป สามเดือนผ่านไป คดีเด็กชายลึกลับ ก็ไม่สามารถไขกระจ่างได้ และมันได้กลายเป็นคดีลึกลับคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาในที่สุด สาเหตุที่ทำให้คดี เด็กชายในกล่อง นี้ลึกลับ นอกเหนือจากหลักฐานกายภาพที่ตำรวจพบจะไม่สามารถสาวตัว ที่มาของเด็กหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีแล้ว

ใบประกาศหาเบาะแสเด็กชายในกล่อง

 

       ในด้านหลักฐานสำคัญของคดี สิ่งแรกเลยคือกล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่(15x19x35)ที่เด็กชายถูกยัดนั้น เป็นกล่องบรรจุผลิตภัณฑ์เปลเด็กทารกจาก JC Penney ผลิตเมื่อวันที่ 11/25/56 และน่าจะถูกขายระหว่าง 12/03/56 และ 02/16/57 ตัวกล่องค่อนข้างเปราะปรางในตอนพบศพเด็กในกล่องนั้นกล่องยังอยู่ในสภาพดี และแห้งแม้ชื้นด้านนอกแต่ยังคงสภาพอยู่ และไม่สามารถสาวตัวผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ได้เนื่องจากไม่มีการระบุผู้ซื้อ ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว กล่องถูกนำไปห้องแล็บเอฟบีไอเพื่อวิเคราะห์ ผลปรากฏว่าไม่พบรอบนิ้วมือที่น่าสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น

       ส่วนผ้าห่มที่ใช้คลุมตัวเด็กชายนั้น ตัวผ้าทำมาจากผ้ากำมะหยี่สีจางจากผ้าฝ้ายเกรดต่ำราคาถูก ออกแบบ ลายสก็อตลายเพชรมีทั้งสีเขียว น้ำตาล และสีขาว ผ้าห่มถูกซักทำให้สะอาดสะอ้าน แต่กระนั้นบางส่วนของตัวผ้าก็หายไป จากการตรวจสอบที่มาของผ้า พบว่ามาจากโรงงานทอผ้าสักแห่งในแคนนาดา แต่กระนั้นผ้าห่มนี้ไม่สามารถ เจาะจงผู้ซื้อได้เพราะว่าผ้าห่มดังกล่าวได้รับการผลิตและส่งขายไปทั่วประเทศ

       ใกล้ๆ พุ่มไม้ที่พบหมวกของเด็กชาย เจ้าหน้าที่พบหมวกลูกฟูกสีฟ้ากับสายหนังและหัวเข็มจัดด้านหลัง ซึ่งน่าจะเป็น ของเด็กชาย หมวกดังกล่าวถูกส่งไปยังห้องแล็บเอฟบีไอในการวิเคราะห์ แต่ไม่พบอะไรที่สำคัญ เกี่ยวกับรูปคดีเท่าไหร่นัก แต่กระนั้นหมวกดังกล่าวก็ถูกนำมาลงพร้อมกับโปสเตอร์เด็กชายเพื่อตามหาตัวตนที่แท้จริง ของเด็กชายไปด้วย

       มีการเพิ่มตำรวจหลายนายเข้ามาในพื้นที่แห่งนั้นเพื่อตรวจสอบค้นหาหลักฐานที่น่าจะสาวตัวไปถึงเด็กชายในกล่อง ผู้ลึกลับนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งกินพื้นที่อาณาเขตจากพื้นที่พบศพถึง 12 กิโล พวกเขาค้นหาป่ารกร้าง ไปจนถึงอาคารร้าง และพื้นที่อาศัยบริเวณนั้นเกือบทุกจุด แต่ไม่พบอะไรที่น่าสนใจ หลักฐานที่พอเก็บได้คงจะเป็นหลักฐานที่ตกอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ไม่ว่าจะ ผ้าเช็ดหน้าสีขาว, รองเท้าเด็กสีดำ, ผ้าพันคอของเด็ก และผ้ากำมะหยี่สีเหลืองที่เป็นเสื้อของเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งขนาดของเสื้อพบว่ามีขนาดพอดีกับศพเด็กผู้ตาย แต่กระนั้นผลจากการตรวจสอบห้องปฏิบัติการทางเคมีของตำรวจ ผลทดสอบคือลบ

       สิ่งที่เป็นความพิศวงของคดีก็คือการตายของเด็กชายที่ไม่รู้ว่าเด็กตายเพราะอะไรระหว่างถูกฆ่าหรือได้รับอุบัติเหตุ คาดว่าก่อนตายเขาคงถูกเลี้ยงดูอย่างดี ส่วนสาเหตุการตายถูกทำร้ายที่ใบหน้าและหัวอย่างรุนแรง แต่ปัญหาก็คือ บาดแผลพวกนี้เกิดจากอะไรกันแน่ เด็กคนนี้ถูกฆาตกรรมหรือเป็นอุบัติเหตุ แต่กระนั้นสิ่งที่บ่บอกว่าเด็กน่าจะถูก ฆาตกรรมคงจะเป็นร่องรอยการตัดผมขาดๆ หายๆ

       จากการชันสูตรศพอย่างถี่ถ้วน พบว่าเด็กชายกระดูกไม่หัก แต่มีกากน้ำตาลเข้มภายในหลอดอาหารซึ่งคาดว่าเด็ก มีการอาเจียนก่อนตาย ไม่มีร่องรอยถูกทำร้ายทางเพศ ร่างกายมีบาดแผลเป็นคือแผลหน้าอกด้านซ้าย ข้อเท้า และขาหนีบที่น่าจะเกิดการผ่าตัด นอกนั้นเป็นแผลเป็นซึ่งเป็นแผลปกติที่พบในเด็กที่ชอบเล่นซน จากข้อสันนิษฐาน จากผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายได้ระบุว่า เด็กชายคนนี้ได้รับอาหารน้อยและอาจมีการเข้าเฝือกก่อนหรือตาย อายุของเขา น่าจะประมาณ 4 หรือ 5 ปี และชาติกำเนิดของเขาน่าจะมาจากประเทศในตะวันตกเฉียงเหนือหรือตะวันตกกลางยุโรป อาจเป็นสแกนดิเนเวีย เยอรมันตะวันตก อังกฤษ หรือสกอตแลนด์

       สิ่งที่พิศวงไม่แพ้กันคือการหาชื่อจริงของเด็กชายในกล่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ในฟิลาเดลเฟียพยายามหาข้อมูลของเด็ก จากหลายๆ แหล่ง ที่ตอนแรกคาดว่าน่าจะเป็นเด็กที่ถูกลักพาตัวแล้วถูกนำมาฆ่า ไม่ก็เด็กเป็นคนแถวนั้น แต่ปรากฏว่า สืบไปสืบมาก็มือแปดด้าน ไม่มีรายงานเด็กหาย ไม่มีใครระบุตัวตนของเด็กชาย ข้อมูลหลักฐานที่จะระบุตัวตน ของเด็กชายก็ไม่มี ผลสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบก็จนปัญญากับคดีนี้ในที่สุด

       เมื่อคดี เด็กชายในกล่อง มืดแปดด้าน หลายฝ่ายก็เริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามาช่วยกันพยายามไขปริศนาว่าศพเด็กชาย ในกล่องผู้ลึกลับคนนี้คือใครกันแน่ ยังได้รับความสนใจจากเอฟบีไอสมาคมแพทย์อเมริกัน สื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศ และรวมไปถึง Vidocq Society องค์กรที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมสาขาต่างๆ เด็กชายในกล่องมี รอยนิ้วมือ รอยนิ้วเท้า นอกจากนี้ยังรอยแผลเป็นของเด็กซึ่งน่าจะมีประวัติการรักษาพยาบาลที่ไหนบ้าง(นอกจากนี้จากการใช้ แสงอุลตร้าไวโอเลตส่องที่ตาซ้ายพบว่าเด็กน่าจะมีการรักษาโรคตาเรื้อรัง) ข้อมูลของเด็กชายถูกส่งไปยังโรงพยาบาล ทั่วประเทศ แล้วยังขยายไปยังเม็กซิโก แคนาดา และยุโรปแต่น่าพิศวงเพราะจนบัดนี้ก็ไม่มีคำตอบเลยว่าเด็กชาย ในกล่องคนนี้เป็นใคร?

       ส่วนฝ่ายสื่อมวลชนก็มีการลงภาพเด็กผู้ตายลงสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรืออินเตอร์เน็ต โปสเตอร์ของเด็กชายในกล่อง ที่ถูกถ่ายด้านหน้า ด้านซ้ายและด้านขวา รูปผ้าลายสก็อตและหมวกเด็กพร้อมข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ถูกแปะไปทั่วสถานที่ ทุกแห่งในฟิลาเดลเฟียไม่ว่าจะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ ร้านเหล้า และหน่วยงานตำรวจทั่วประเทศ แต่ก็ไม่มีใครที่แสดงตัวเป็น เด็กชายคนนี้เป็นใคร จนมีบางคนถึงขนาดนำศพเด็กชายมาสวมใส่เสื้อผ้าเด็กและถูกจัดวางท่านั่งเพื่อหวังว่ามันจะช่วยคน มีคนจำเด็กชายผู้ตายคนนี้ได้บ้าง(เป็นความคิดของนักสืบเจ้าของคดี ในเดือนพฤศจิกายน 1998) แต่ก็ยังคงดำมืดเหมือนเดิม

       แน่นอนว่าคดีดังแบบนี้คงหนีไม่พ้นพวกอยากดัง ที่ชอบมาอ้างว่าตนเป็นฆาตกร คดีนี้มีหลายคนที่พยายามจะให้ตำรวจเชื่อว่า ตนเป็นฆาตกรฆ่าเด็กชาย ไม่ว่าจะเป็นพวกที่อ้างว่าผมเป็นพี่ชายของเด็กที่ถูกลักพาตัวไป หรือคนแสดงพ่อแม่ของเด็กก็มี แต่ตำรวจมักปล่อยคนเหล่านี้ไปหลังจากตั้งคำถามไม่กี่คำถาม

       เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1955 บุตรชายของทหารอากาศที่ประจำการอยู่ที่ มิทเชล แอร์ ฟอร์ซ เบส นิวยอร์ก ชื่อ สตีเวล เคร็ก ดัมมัน อายุ 34 เดือน ได้หายตัวไปในขณะช็อปปิ้งกับแม่ในซุปเปอร์มาร์เก็ต ลอง ไอส์แลนด์ในนิวยอร์ก ตอนแรกหลายฝ่ายเชื่อว่าเด็กชาย ในกล่องน่าจะเป็นคนเดียวกับสตีเฟ่นเนื่องจากเขามีดวงตาสีฟ้าเหมือนกัน ทั้งสองมีรอยแผลเป็นเล็กๆ ใต้คางเหมือนกัน และภาพเอ็กซ์เรย์ พบรอยแตกหักเก่าที่แขนซ้ายเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้พวกเขาเชื่อว่าคดีนี้น่าจะปิดลงได้เสียที แต่หลังจากที่เปรียบเทียบ รอยเท้าของเด็กที่ตายแล้วไปให้กรมตำรวจที่นิวยอร์กก็พบว่ามันไม่ตรงกับรอยเท้าของสตีเฟ่น ทำให้กรณีของสตีเฟ่นก็ไม่นำมาพูด ในคดีเด็กชายในกล่องอีกเลย จนกระทั้งในปี 2003 ก็มีการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบกับเด็กสองคนอีกครั้ง ผลปรากฏว่าเด็กชาย ในกล่องไม่ใช้คนเดียวกับสตีเฟ่นแน่นอน(ส่วนคดีการหายตัวของสตีเวล เคร็ก ดัมมันก็เป็นคดีที่ปิดไม่ได้เช่นกัน)

       ในปี 1961 เคนนีต อี. และไอรีน อเดล ดัดลีย์ เป็นคนงานในเทศกาลคาร์นิวัลที่ถูกจับกุมและจำคุกใน ลอว์เรนซ์ มลรัฐเวอร์จิเนีย ในข้อหาเป็นต้นเหตุทำให้ลูกสาววัยเจ็ดปีอดอาหารและปล่อยปะละเลยจนตาย ภายใต้การสอบสวนที่เข้มข้น ทั้งสองสารภาพอีกว่า เขามีส่วนทำให้เด็กถึง 10 คนตายเพราะขาเดสารอาหารและปล่อยปะละเลย พวกเขาทิ้งศพในสถานที่ต่างๆ ในรัฐทางใต้ ในที่ร้าง ตอนแรกที่บางคนพยายามเชื่อมโยงคดีนี้กับเด็กชายในกล่อง แต่สุดท้ายก็พบว่าทั้งสองคดีนี้ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

       นอกจากยังมีการเชื่อมโยงหลายคดีที่หลายฝ่ายคาดว่าเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่อง ไม่ว่าจะเป็น คดีเด็กหาย ฆาตกรต่อเนื่อง ที่ฆ่าเฉพาะเด็ก คดีทารุณเด็ก หากแต่ผลสุดท้ายก็ไม่มีคดีไหนเกี่ยวข้องกับคดีเด็กชายในกล่องแม้แต่น้อย

หลุมศพของเด็กชายในกล่อง

 

 

       ศพของเด็กถูกฝังในสุสานพอตเตอร์ฟิลด์พร้อมกับโลงเล็กสีขาวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 1957ซึ่งศพของเด็กอยู่ในชื่อของบุตรชาย ของนักสืบเจ้าของคดีนี้ โดยที่หน้าป้ายจารึกหลุมศพมีคำจารึกว่า "Heavenly Father, Bless This Unknown Boy."

       ในช่วงปี 1967 มีการนำศพเด็กชายขึ้น โดยหลายฝ่ายพยายามเอาเทคโนโลยีการสืบสวนสมัยใหม่มาใช้ในการไขคดีนี้ให้กระจ่าง โดยตรวจ ดีเอ็นเอ เพื่อเชื่อมโยงหาประวัติเด็กชายในฐานข้อมูล ดีเอ็นเอ ระดับชาติ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด ว่าเด็กชายคนนี้คือใครกันแน่ และทำไมเขาต้องถูกฆ่า??

       (หมายเหตุ. เนื่องจากตอนตรวจสอบดีเอ็นเอของเด็กชายในกล่องนั้นเนื้อเยื่อส่วนใหญ่เสื่อมสภาพไม่สามารถตรวจสอบได้ ดังนั้นวิธีการแก้ปัญหาคือการสกัดดีเอ็นเอจากฟัน) เช่นเดียวกับคดีฆาตกรรมอื่นๆ หลายฝ่ายพยายามหาทฤษฏี ข้อสันนิษฐานต่างๆ เพื่อเชื่อมโยงในการแก้คดีนี้ โดยคดีเด็กชายในกล่องได้ถูกตั้งข้อสันนิษฐานสองประการคือ

เรมิงตัน บริสโตวผู้ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการพยายามไขคดีนี้

 

 

ข้อสันนิษฐานที่ 1 บ้านเด็กข้อสันนิษฐานดังกล่าวมีน้ำหนักมากและน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด โดยข้อสันนิษฐานนี้เป็นของ เรมิงตัน บริสโตวพนักงานสอบสวนจากสำนักงานผู้ตรวจสอบทางการแพทย์ที่พยายามแก้ปริศนาที่ครอบงำจิตใจตลอดชีวิต ถึงขั้นใช้เงินส่วนตัวในการติดตามคดีนี้

       จากการสืบสวนของเรมิงตัน ในปี 1960 เขาได้ค้นพบบ้านบ้านอุปถัมภ์ที่เชื่อว่าเป็นที่อยู่อาศัยเด็กชายนี้ตั้งอยู่ในที่เกิดเหตุ 1.5 กิโลเมตรเท่านั้น บ้านหลังดังกล่าวที่ตอนนี้ไม่มีคนอยู่และกำลังอยู่ช่วงขายอสังหาริมทรัพย์ โดยสิ่งที่พบคือเปลเด็ก JC Penney นอกจากนี้เขายังพบผ้าห่มแขวนอยู่บนราวตากผ้าซึ่งคล้ายกับผ้าห่มที่ห่อตัวเด็ก ทำให้เชื่อว่าเด็กเป็นลูกของลูกสาวใจแตก ที่นำเด็กไปทิ้งเพราะไม่อยากมีมลทินและเชื่อว่าครอบครัวอุปถัมภ์น่าจะมีส่วนในการตายของเด็ก แม้ข้อสันนิษฐานนี้จะมีน้ำหนัก แต่กระนั้นตำรวจไม่หาหลักฐานใดๆ มายืนยันได้ นอกจากนี้จากการตรวจสอบ สอบถามพยานที่เป็นครอบครัวที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ก็ไม่สามารถยืนยันว่าครอบครัวนี้เกี่ยวข้องกับเด็ก ทำให้ข้อสันนิษฐานนี้ตกไปในที่สุด

ข้อสันนิษฐานที่ 2 เรื่องราวของ เอ็ม ทฤษฏีที่สองเริ่มต้นขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2002 เมื่อมีผู้หญิงคนหนึ่งใช้ชื่อเล่นว่า เอ็ม เธอได้อ้างว่าเป็นแม่ของเด็กที่ตาย โดยเล่าว่าในช่วงฤดูร้อนปี 1954 เธอได้ซื้อตัวเด็กจากพ่อแม้ที่แท้จริงแล้วตั้งชื่อเด็กคนนี้ว่า โจนาธาน ในช่วงสองปีครึ่งเด็กคนนี้ก็ถูกล่วงละเมิดทางร่างกายและทางเพศอย่างสุดขีด ก่อนที่จะถูกฆ่าโดยการทุบและจับกด ในอ่างอาบน้ำ จากนั้นแม่ของเด็ก เอ็ม ก็ได้ตัดผมยาวของเด็กชายออก (ในรายงานของตำรวจระบุว่าคนที่ตัดผมเด็กชายไม่เป็นมืออาชีพ) และทิ้งร่างกายของเด็กชายในพื้นที่เงียบสงบในฟ็อต เซส ตำรวจพิจารณาเรื่องที่ เอ็ม เล่าจนเกือบจะเชื่อเพราะมีหลายจุดที่เหมือน ข้อเท็จจริงของคดี แต่ก็มีปัญหาคือ เอ็ม มีพยานหลักฐานที่อยู่ นอกจากนี้เธอยังมีประวัติอาการป่วยทางจิต อีกทั้งเมื่อสอบถาม เพื่อนบ้านก็ปฏิเสธว่าไม่เคยพบเห็นเด็กคนดังกล่าวอาศัยในบ้านของเธอดังกล่าว สรุปคือเรื่องที่ เอ็ม คือเรื่อง ไร้สาระ

       ในตอนเย็นของวันเสาร์ วันที่ 3 ตุลาคม 1998 รายการ Americas most Wanted รายการโทรทัศน์แนวตามล่าหาความจริง ของคดีดังที่ได้รับความนิยมในอเมริกา เปิดเวทีสาธารณะ ให้ผู้ชมทางบ้านส่งข้อความความคิดเห็นหรือความรู้สึกของคดี เด็กชายในกล่อง นี้ได้ในเว็บไซต์ www.amw.com ผลปรากฏว่าคดีนี้ได้เสียงตอบรับอย่างมหาศาลจากผู้ชมทางบ้าน แม้คดีนี้จะผ่านไปนานหลายปีแล้วก็ตาม จนต้องขยายเวลาอีก 2 สัปดาห์เพิ่มเติม โดยข้อความส่วนใหญ่ที่ถูกส่งมาเป็น ข้อสันนิษฐานหากหลายที่นิยมของประชาชน เช่น

-เด็กชายคนนี้น่าจะมาจากโรงพยาบาลที่รักษาคนยากไร้และนำไปทิ้งเพราะไม่อยากเสียค่าใช้จ่าย

-คนที่ทิ้งเด็กน่าจะเป็นคนในท้องถิ่นและอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ

-เด็กชายในกล่องเป็นเด็กจรจัดที่ถูกเลี้ยงดูในบ้านอุปถัมภ์แต่ผู้ปกครองเด็กนั้นเป็นคนโหดร้ายที่ชอบทุบตีเด็ก จนกระทั้งวันเกิดเหตุได้ทุบตีเด็กคนนี้ตายเข้าเลยเอาศพ

-เด็กชายในกล่องน่าจะเป็นเด็กที่อยู่ในบ้านหรือสถานที่ตัดขาดจากสังคมภายนอก ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครสักคนที่จำเด็กได้ นอกเสียจากคนที่เลี้ยงดูเด็กชาย

-เด็กชายในกล่องเป็นเด็กในคณะละครสัตว์

-ทางการได้ปกปิดข้อมูลลับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเด็กชายในกล่องไม่ให้ประชาชนรับทราบ ฯลฯ

       (หลังจากออกรายงานทีเจ็ดรายออกมาอ้างตัวว่าเป็นผู้ปกครองของเด็กชายในกล่อง แต่หลังจากสอบสวนพบว่าเป็นเท็จทั้งหมด)

       ปัจจุบันเรื่องราวของเด็กชายในกล่องถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ละครซีรีย์มากมาย เช่น Cold Case, CSI: Crime Scene Investigation และ Law & Order: SVU ท่านใดที่มีข้อมูลหรือมีความเกี่ยวข้องกับคดีนี้สามารถโทรติดต่อกับตำรวจในฟีเดลเฟียได้ที่ (215)686-3336 (หากข้อมูลนั้นเป็นประโยชน์ ทางการยินดีให้เงิน 1,000 ดอลลาร์เป็นการตอบแทน)

ที่มา:http://www.cmxseed.com/cmxseedforumn/index.php?PHPSESSID=cbi853vikbri8a39vilqj2nd92&topic=94422.0

credit :: Cammy@dek-d.com

Credit: http://board.postjung.com/923397.html
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...