วันนี้ผู้เขียนได้อ่านข่าวที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวรายหนึ่งซึ่งถูกช่วยเหลือโดยชาวบ้านพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ว่า ถูกแก๊งรถตู้ฉุดขึ้นรถขณะที่ออกมาเดินซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ย่านเยาวราชช่วงประมาณ 5 ทุ่ม จากนั้นโดยกลุ่มชายในรถตู้ประมาณ 20 คน หมุนเวียนกันข่มขืนบนรถตู้ขณะรถวิ่งตั้งแต่กรุงเทพจนถึงพัทยาอย่างโหดร้ายทารุณซึ่งเหยื่อทรชนกลุ่มนี้ใช่ว่าจะมีหญิงสาวราย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่มของคืนวันที่ 9 มิ.ย. นี้เองเธอได้ออกจากบ้าน ย่านเยาวราช เพื่อมาซื้อน้ำดื่มในร้านสะดวกซื้อ แต่ขณะที่เดินกลับที่พักอยู่นั้นเธอหารู้ไหมว่ามัจจุราชกำลัง คืบคลานมาหา เมื่อมีรถตู้ 2 คัน สีขาว จอดประกบเปิดประตูลากตัวเธอขึ้นมาบนรถก่อนใช้ผ้าปิดปากไม่ให้ร้องซึ่งในรถตู้เธอบอกว่ามีวัยรุ่นสาวอายุประมาณ 12-15 ปี รวมตัวเองด้วยเป็น 5 คนที่ถูกจับมาก่อน
หน้านี้ทุกคนโดนปิดหน้าและลูกตานั่งกองอยู่กับพื้นรถ และมีผู้ชายวัยรุ่นอายุประมาณ 25-30 ปี จำนวน 10 คน ใส่หมวกแก๊ปปิดหน้ากันทุกคนขณะที่รถเริ่มวิ่งออกจากกรุงเทพฯ ผู้ชายในรถเริ่มบังคับให้ผู้หญิง ถอดเสื้อผ้า แล้วจับนอนหงายบนเบาะรถทำการหมุนเวียนกับข่มขืนจนครบคน และมีการโทรศัพท์สอบถามเพื่อนในรถตู้อีกคันว่าข่มขืนครบคนหรือยัง เธอบอกว่า ขณะรถวิ่งอยู่ชายในรถก็จะทำการข่มขืนกันอย่างเมามันสนุกสนาน ผู้หญิงทุกคนส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด เพราะผู้หญิงส่วนมากยังไม่เคยเสียความบริสุทธิ์
เมื่อมีการส่งสัญญาณกัน ว่าข่มขืนครบทุกคนแล้ว ก็จะมีการจอดรถสับเปลี่ยนผู้ชายภายในรถ เพื่อมาข่มขืนผู้หญิงอีกคัน ปฎิบัติกันอย่างนี้ตลอดเส้นทางเธอจำได้ว่าตัวเธอเองถูกข่มขืนไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ต่อผู้หญิง 1 คน เหมือนคนซาดิสส์ รุนแรง เหมือนคนกินยาหรือเสพยาเสพติดกันด้วยส่วนสาเหตุที่ทำให้หนีรอดมือมัจจุราชออกมาได้นั้นเธอบอกว่าเขาได้จอดรถให้ผู้หญิงลงไปฉี่ชายป่าละเมาะ
เมื่อสบโอกาสจึงได้บอกเพื่อนผู้หญิงด้วยกันให้วิ่งหลบหนี เพื่อเอาตัวรอด ก่อนที่จะถูกนำไปฆ่าทิ้งหรือถูกนำไปขาย ทำให้ทุกคนตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า วิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ซึ่งขณะนี้ไม่ทราบว่าผู้หญิงอีก 9 คน หนีรอดหรือไม่ และยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นอย่างไรสภาพเหยื่อสาวรายนี้หนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิดในสภาพที่อิดโรย บอมช้ำอย่างหนัก เพราะเธอคิดว่ายอมตายไปดาบหน้าดีกว่าให้พวกเหล่านี้รุมขยี้กามเธอจนตาย แต่เพื่อนๆอีกหลายคนยังไม่รู้เบาะแสชะตากรรมว่าหนีรอดไดหรือไม่ หรือหลงอยู่ในป่าข้างทางอย่างไรเรื่องนี้ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่าเป็นภัยร้ายแรง และอันตรายอย่างมากสำหรับหญิงสาวแล้วรู้สึกหดหู่อย่างมากเหมือนกับว่าบ้านเมืองนี้ไม่มีกฎหมาย หรือพวกที่กระทำไม่ยำเกรงกฎหมายซะเลย
ณ เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังติดตามจับกุมกลุ่มทรชนเหล่านี้ไม่ได้ และยังติดตามช่วยเหลือหญิงสาวที่วิ่งหนีเอาตัวรอดบางส่วนยังไม่ได้เช่นกัน ชะตากรรมเธอเป็นอย่างไรบ้างไม่รู้ตามคำให้การพอทราบว่ารถตู้ 2 คันนี้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ ตำรวจน่าจะหาเบาะแสไม่ยากเพราะสามารถไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากด่านเก็บเงินเพื่อทราบทะเบียนรถในการตามจับคนร้ายนะครับผู้เขียนเห็นว่าตำรวจต้องเร่งติดตามจับกุมกลุ่มคนพวกนี้มาให้ได้โดยเร็ว เพราะหากจับไม่ได้ หรือ ปล่อยให้หนีลอยนวลอย่างนี้เป็นภัยร้ายแรงของสังคมอย่างมากไม่รู้ว่าต่อไปจะไปก่อนเหตุเช่นนี้ซ้ำซากอีกกี่ครั้ง หรือจะมีหญิงสาวต้องตกเป็นเหยื่อกลุ่มมัจจุราชเหล่านี้อีกกี่ราย นำมาลงโทษให้สาสมกับการกระทำผิดมนุษย์คดีนี้จะเป็นตัวชีวัดผลงานของตำรวจสภ.อ.บางละมุง ว่ามีความสามารถขนาดไหนในการติดตามลากคอทรชนเหล่านี้มาลงโทษโดยเร็ว
ที่มา: http://www.khaojing.com/10554/