10 สุดยอด สถานที่สยองขวัญ รอบโลก

ชวนสัมผัศความลี้ลับ น่าพิศวง หลายมูลเหตุจากคดีฆาตกรรม ใครย่างกายผ่านไป มีอันต้องขนลุก กับ 10 สุดยอด สถานที่สยองขวัญ ของโลก

สถานที่สยองขวัญ รอบโลก

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 10 สุสานมัมมี่ ปานาโม อิตาลี (LAS CATACUMBAS DE LOS CAPUCCINOS)

 

       เป็นสุสานใต้ดินเก่าแก่ ตั้งอยู่ใต้อารามนักบวชคาปูชิน แห่งโบสถ์ฟรานซิสกัน ของคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก ที่เมืองปาร์เลอโม เกาะซิซิลี ที่นี่มีซากมัมมี่กองเต็มไปหมด เปรียบเหมือนชุมชนแออัด ถึงขนาดศพที่มาทีหลัง ไม่มีที่พอให้ยืน ต้องถูกแขวนไว้กับตะขอบนผนัง และถ้าเดินเข้าไปก็จะเจอแต่ศพนั่ง นอน ยืน! บางศพยังคงสวมเครื่องแต่งกายเหมือนเมื่อครั้งยังมีชีวิตด้วย ทั้งยังมีมัมมี่เด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ ชื่อ โรซาเลีย ลอมบาร์โด (ROSALIA LOMBARDO) ที่ดองไว้ 70 – 80 ปีแล้วซึ่งหน้าตานั้นเหมือนเพียงคนนอนหลับ สถานที่นี้เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว (ด้วยหรือ??) เป็นเวลา ใครอยากไปต้องหาข้อมูลเสียก่อน!

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 9 อุโมงค์ที่ฝรั่งเศส กรุงปารีส (Pont de L’Alma)

 

       สถานที่ซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่าประสบอุบัติเหตุรถคว่ำ สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2540 และยังคงเป็นปริศนาค้างคาใจคนทั้งโลก ว่าอุบัติเหตุหรือถูกฆาตรกรรม เพราะในคืนที่เกิดโศกนาฏกรรม มีการเปลี่ยนเส้นทางรถยนต์ไปยังอุโมงค์ Pont de L’Alma อย่างไม่มีเหตุผล ทั้งๆ ที่จุดหมายเดิม คือการเดินทางไปยังอพาร์ตเมนต์ของฝ่ายชาย และทำไมวิทยุสื่อสารของตำรวจในกรุงปารีส เกิดใช้การไม่ได้โดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะที่รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าหญิงเดินทางเข้าสู่อุโมงค์ จนเกิดเหตุร้าย และไม่สามารถติดต่อสื่อสารเพื่อขอรับการช่วยเหลือ เพื่อรักษาพระชนม์ชีพของพระองค์ได้อย่างทันท่วงที เป็นความบังเอิญจริงหรือ? ใครๆ ที่ไปเที่ยวที่อุโมงค์ฝรั่งเศส ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บรรยากาศวังเวง น่ากลัว!

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 8 เทือกเขาร็อกกี้ โคโลราโด (Colorado Rockies)

 

       สถานที่สยองขวัญ คือภูเขา ซึ่งเกิดคดีมนุษย์กินคน ที่ไม่ใช่คนป่า ปี 1874 ในฤดูหนาวที่อากาศหนาวจัด คณะนักสำรวจหกคน ได้ขุดอุโมงค์ในหุบเขาโคโลราโด ต่อมาอุโมงค์เกิดถล่ม การสื่อสารถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิ มีเพียงคนเดียวที่มีชีวิตรอดกลับมาจากหุบเขาโคโลราโด โดยอยู่ในสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดี เขาคนนี้มีนามว่า อัลเฟร์ด แพคเกอร์ แต่สุดท้ายเขาก็ถูกจับกุม ในข้อหากินเพื่อน เพื่อให้ตนเองมีชีวิตรอด หรือเห็นเพื่อนค่อยๆ ตายไปทีละคน จึงเกิดความเสียดาย!

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 7 หมู่เกาะปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea)

 

       ปาปัวนิวกินี เป็นเกาะอยู่ทางเหนือ ของทวีปออสเตรเลีย ประกอบด้วยประชากรกว่า 700 ชนเผ่า แต่ละเผ่าต่างคนต่างอยู่ การเดินทางไปมาหาสู่กันลำบากมาก เพราะพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อน ใครอยากเห็นมนุษย์กินคนก็ต้องเดินทางเข้าไปลึกหน่อย โชคดีอาจไปทันคืนพิธีเฉลิมฉลองชัยชนะและกินซุปเนื้อมนุษย์ ซึ่งวิธีปรุงซุปนั้นง่ายมาก นำน้ำใส่หม้อดินขนาดใหญ่ ต้มให้เดือด บั่นศพมนุษย์ที่ตายทั้งสองฝ่ายให้มีขนาดเป็นชิ้นพอที่จะใส่ลงในหม้อได้ นำผัก มัน และเผือก ใส่ตามลงไป ต้มจนสุกและเปื่อย เป็นอันเสร็จพร้อมกิน ส่วนคนที่ยังไม่ตายก็มัดไว้ก่อนและค่อยๆ ฆ่าให้ตาย นำมาปรุงเป็นอาหาร กินเลี้ยงกันในคืนต่อๆ มารองเท้าหนัง ถุงเท้า ตลอดจน เสื้อผ้า ก็ถูกนำมาต้มจนเปื่อย และกินจนหมดสิ้นเช่นเดียวกัน สำหรับหัวกะโหลก เก็บไว้เป็นเครื่องประดับตามบ้านเรือนสวยงามมาก แต่ปัจจุบันใครไปเยือน อาจอดเจอซุปเนื้อคน เพราะตอนนี้มีกฎหมายออกมาว่า ห้ามกินเนื้อคนไม่ว่าศัตรูหรือนักท่องเที่ยว!

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 6 โรงงานนรก “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz)

 

       สยองที่สุด ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กับ “ค่ายเอาชวิตซ์” (Auschwitz) ใกล้เมืองเอาชวิตซิน ค่ายกักกันนี้สร้างขึ้นเพื่อสังหารชาวยิว ด้วยการรมแก๊สพิษและเผาในเตาเผา ฆ่าเหยื่อมาแล้วถึง 1 ล้านสองแสนคน จากทั่วยุโรป จำนวน 22 ล้านคน โดยขนไปทางรถยนต์ รถไฟ และเรือเดินสมุทร ปัจจุบันสภาพยังเหมือนเดิมทุกประการ ไม่ว่าเตารมแก๊ส เตาเผา ค่ายพัก คุก มีกลิ่นแห่งความตายฝังแน่น พร้อมกัความวังเวง ปัจจุบัน เอาชวิตซ์ เป็นจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดแห่งหนึ่งของ โปแลนด์

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 5 ปอมเปอี (Pompei)

 

       ปอมเปอี เมืองเก่าสมัยกลาง ตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ของคาบสมุทรอิตาลี ริมอ่าวเนเปิล เมืองนี้เป็นชุมชนซึ่งก่อตั้งสมัยก่อนคริสต์ศักราช โดยอยู่ใต้อิทธิพลของกรีก ต่อมาราว 80 ปีก่อนคริสตกาล กลายเป็นเมืองตากอากาศฤดูร้อนของชาวโรมัน หลังตกเป็นอาณานิคมของอาณาจักรโรมัน กระทั่งถูกภูเขาไฟระเบิด ถล่มทั้งเมือง ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สยองขวัญมาก มีการหล่อรูปคนตายในท่าที่ถูกลาวาทับไว้ ปรากฏเป็นท่าหนีตายของชาวเมืองปอมเปอี ความหวาดกลัวต่อความตายยังตราติดอยู่บนดวงหน้าศพ บางซากนั่งเอามือปิดหน้า บางซากซบอยู่กับกำแพง ปอมเปอี จึงได้อีกชื่อว่า“ซากเมืองแห่งความตาย” ปัจจุบันเมืองโบราณ ปอมเปอี ได้รับการฟื้นฟู และขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 1997

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 4 หอคอยลอนดอน (Tower of London)

 

       หอคอยลอนดอน ประเทศอังกฤษ สถานที่เกิดเหตุแห่งประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ยาวนานกว่า 900 ปี นองเลือด ซับซ้อนซ่อนเงื่อน เคยเป็นป้อมปราการ, ปราสาทราชวัง, คุก แดนประหาร เป็นสถานที่ตัดหัวของแอนน์ โบลีน พระสนมในพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ซึ่งทุกวันนี้ วิญญาณแอนน์ โบลีน ยืนหิ้วหัวตัวเองและร้องครวญอย่างทรมาน ผสานเสียงกับอีกหลายวิญญาณที่ทนทุกข์ทรมานอยู่ในหอคอยแห่งนี้ ทั้งเสียงหวีดร้อง เสียงลากโซ่ และปรากฏให้เห็นเป็นระยะ จึงทำให้ที่นี่โด่งดังเรื่องความหลอนตลอดกาล ปัจจุบัน หอคอยลอนดอน เป็นพิพิธภัณฑ์เก็บเครื่องมือทรมาน และเครื่องมือประหารนักโทษแบบสุดโหด ของยุคกลาง

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 3 ปราสาทของวลาด ดารคู ทรานซิลวาเนีย โรมาเนีย

 

       ปราสาทแห่งนี้เป็นที่มาของนิยายผีดูดเลือด แดรกคิวล่า เล่ากันว่า เจ้าชายจอมเสียบ วลาด ดารคูลา ผู้เป็นเจ้าของปราสาท ชอบจับเหล่าเชลยมาเสียบด้วยไม้แหลม จากก้นจนทะลุขึ้นไปซีกบน แล้วนำมาเรียงรายยาวตลอดกำแพงเมือง หรือ สนามหญ้ากว้าง วันไหนครึ้มอกครึ้มใจ เจ้าชายจะเสวยมื้อเย็น พร้อมดูการเสียบประหาร เพิ่มอรรถรส ปัจจุบันปราสาทนี้ยังอยู่บนยอดสูง มีบันไดให้สามารถเดินขึ้นไปชมได้

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 2 อัลคาแทรซ ซานฟรานซิสโก (Alcatraz)

 

       อัลคาแทรซ (Alcatraz) คุกที่มีชื่อเสียงที่สุดของอเมริกา สถานที่คุมขัง อัลคาโปน เจ้าพ่อชื่อดัง ภายในคุกสยอง วังเวง และเรียกกันอีกชื่อว่า เดอะร็อก เป็นคุกที่ไม่มีใครแหกสำเร็จ ถึงแม้จะมีนักโทษพยายามใช้ของชิ้นเล็กๆ ตัดซี่กรงเหล็กและแอบว่ายน้ำหนีออกไป แต่ก็ไม่สามารถรอดไปได้ นักโทษหลายคนตายในห้องขังที่นี่ ส่วนหนึ่งตายเพราะบาดแผลติดเชื้อ และนี่เองเป็นที่มาของเสียงประหลาดมากมาย เช่น เสียงตัดเหล็ก เสียงปิดประตูห้องขัง เสียงหวีดร้องจากใต้ดิน และความรู้สึกถูกจ้องมอง ปัจจุบันคุกนี้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และสามารถค้างคืนได้ด้วย!

สถานที่สยองขวัญ : อันดับ 1 อนุสรณ์สถานแห่งคิลลิ่ง ฟิลด์ (Killing Field)

 

       ใครจะว่าไงไม่รู้ แต่ยกให้สถานที่นี้คือที่สุดแห่งความสยอง อนุสรณ์สถานแห่งคิลลิ่ง ฟิลด์ ประเทศกัมพูชา ตามประวัติศาสตร์อันแสนหดหู่ ที่นี่คือสถานรำลึกความโหดร้ายในยุคเขมรแดง ซึ่งนำโดยเฮียพอลพต ที่สั่งฆ่าชาวเขมรนับล้าน เกิดศพมากมายนับไม่ถ้วน จนกลายเป็นกะโหลกไร้ญาติ ไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายเป็นใคร รวมไว้ที่อนุสรณ์แห่งนี้ วันดีคืนดีอาจได้ยินเสียงกะโหลกร้องระงม ได้ยินแล้วขนลุก อีกหนึ่งสถานต้องยกให้ ตุล สาเลช คุกเถื่อน ซึ่งในอดีตเป็นโรงเรียนมัธยม มีคนถูกฆ่าไม่เว้นวัน และบางรายถูกนำมาทรมานเยี่ยงสัตว์ก่อนตายอย่างสยอง

 

 

Credit: http://www.kinaroi.com/news3401.html
25 ต.ค. 58 เวลา 08:44 1,030 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...