หิ้วกระเป๋า ไปโรงเรียน(ในอดีต)

ที่มา: https://www.facebook.com/media/set/?set=a.348803788497538.86043.199476353430283&type=3

กอ เอ๋ย กอ ไก่ ........ ขอไข่ ในเล้า

ฃอ ฃวด ของเรา ....... คอ ควาย เข้านา

ฅอ ฅน ขึงขัง ........ ฆอ ระฆัง ข้างฝา

งอ งู ใจกล้า ....... จอ จาน ใช้ดี

ฉอ ฉิ่ ตีดัง ........ ชอ ช้าง วิ่งหนี

ซอ โซ่ ล่ามที ......... ฌอ กะเฌอ คู่กัน

ญอ หญิง โสภา ........ ฎอ ชฎา สวมพรรณ

ฏอ ปฏัก หุนหัน ........ ฐอ สันฐาน เข้ามารอง

ฑอ นางมณโฑ หน้าขาว ........ ฒอ ผู้เฒ่า เดินย่อง

ณอ เณร ไม่มอง ........ ดอ เด็ก ต้องนิมนต์

ตอ เต่า หลังตุง ....... ถอ ถุง แบกขน

ทอ ทหาร อดทน ........ ธอ ธง คนนิยม

นอ หนู ฝักใฝ่ ........ บอ ใบไม้ ทับถม

ปอ ปลา ตากลม ......... ผอ ผึ้ง ทำรัง

ฝอ ฝา ทนทาน ......... พอ พาน วางตั้ง

ฟอ ฟัน สะอาดจัง ........ ภอ สำเภา กางใบ

มอ ม้า คึกคัก .......... ยอ ยักษ์ เขี้ยวใหญ่

รอ เรือ พายไป ......... ลอ ลิง ไต่ราว

วอ แหวน ลงยา ......... ศอ ศาลา เงียบเหงา

ษอ ฤๅษี หนวดยาว ......... สอ เสือ ดาวคะนอง

หอ หีบ ใส่ผ้า .......... ฬอ จุฬา ภาพผยอง

ออ อ่าง เนืองนอง ......... ฮอ นกฮูก ตาโต

 

เรื่องปองวัยเด็กใช้สอนเด็กตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ที่เป็นแต่พูดภาษาเขมร (เขมรสุรินทร์) - เคยเห็นเหมือนกัน (โดย Moderator Wiz)

 

นิทานเรื่องกระต่ายเจ้าปัญญา ที่ใช้สอนเด็กป. 1 แถวบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ที่มักพูดภาษา เขมรสุรินทร์ เคนเห็น ปกคล้ายๆแบบนี้อยู่ (โดย Moderator Wiz)

 

ตำราภาษาไทย ป. 1 ที่ใช้สอนเด็กที่พูดภาษายาวี (มลายูถิ่นปัตตานี) แถวภาคใต้ ยุคที่ยังมี ป.7 (โดย Moderator Wiz)

 

 

 

 

ตำราภาษาไทย สำหรับเด็กป. 4 เล่ม 2 ในยุคที่ ยังมี ป. 7 และ ม.ศ. 5 (โดย Moderator Wiz)

 

มีดเหลาดินสอ..แบบโลหะ... ถ้าเก็บรักษาไม่ดีก็สนิมกินประจำ

 

อันนี้ต้องท่องจำให้ได้.....จะถูกอาจารย์ภาษาไทย เรียกมาท่องให้ฟัง ไม่งั้น ไม่ผ่าน

 

หนังสือบทอาขยานภาษาไทย ชั้นป.1-2 พ.ศ.2518....นกเอ๋ยนกเอี้ยง

คนเข้าใจว่าเจ้าเลี้ยงซึ่งควายเฒ่า

แต่นกเอี้ยงนั้นเลี่ยงทำงานเบา

แม้อาหารก็ไปเอาบนหลังควาย

... เปรียบเหมือนคนทำตนเป็นกาฝาก

รู้มากเอาเปรียบคนทั้งหลาย

หนีงานหนักคอยสมัครงานสบาย

จึงน่าอายเพราะเอาเยี่ยงนกเอี้ยงเอยฯ

 

กล่องดินสอ มีหลายแบบ มีทั้งแบบพลาสติกหรือเหล็ก ถ้าเป็นแบบธรรมดาชั้นประหยัดก็จะมีชั้นเดียว เปิดมาเจอดินสอนอนรออยู่ แต่ถ้าหรูหน่อยก็จะเป็นกล่องดินสอ 2 ชั้น มีช่องวางยางลบ วางไส้ดินสอเก๋ไก๋ เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ เวลาถึงห้องเรียนก็จะต้องควักกล่องดินสอออกจากกระเป๋ากันถ้วนหน้าใช้ไม่ระวังอาจจะมีแตกหัก น็อตหลุด หรือแถมด้วยสีถลอกเล็กน้อย ซึ่งดินสอปากกาที่อยู่ในกล่องดินสอไม่ใช่ว่าจะใส่อะไรก็ได้นะ เพราะที่มันน้อย ถ้าใส่เยอะมันจะปิดไม่ลง และไประเบิดในกระเป๋าได้ ดังนั้นต้องเลือกแท่งที่ใช้บ่อยๆ แต่ปัจจุบันกล่องดินสอก็เริ่มมีหลายแบบออกมาให้เลือก แต่ก็ไม่นิยมเท่าไหร่ แล้วรูปแบบเปลี่ยนไปเป็นถุงซิปกันหมดแล้ว เพราะเบากว่า ใส่ได้เยอะกว่า เรียกว่ามีแต่ใส่เพิ่ม ไม่เคยเอาออก แต่มันก็ไม่เต็มซักที

 

ถ้าเป็นแต่ก่อนจะเรียกกันว่าดินสออพอลโล่ ลักษณะก็คือเป็นแท่งดินสอพลาสติกข้างในก็จะมีไส้ดินสอเป็นชิ้นๆ เวลาดินสอเริ่มกุดก็จะดึงออกแล้วเอาไปต่อท้าย ให้มันดันอันที่แหลมออกมา ราคาสมัยก่อนแท่งละ 3 บาทแต่ใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือน ไม่ใช้ใช้หมดนะ แต่มันหาย สมัยนี้คนไม่ค่อยใช้กันแล้ว จะว่าสะดวกใช้มันก็สะดวก แต่ว่าเวลามันเริ่มกุดนิดเดียวก็รู้สึกไม่อยากเขียนแล้ว ดังนั้นเป็นดินสอที่เปลืองมากๆ เรียกว่าแต่ละไส้ใช้ไม่เคยถึงครึ่งเลย ส่วนปัจจุบันนี้ก็หันไปใช้ดินสอกดกันแล้ว เพราะสะดวกกว่าแล้วเขียนเส้นเล็ก ใช้ง่ายกว่าเยอะ ที่สำคัญ ซื้อดินสอแค่ครั้งเดียว คุ้ม!

 

อาจจะงงว่าดินสอสีเปลี่ยนไส้มันคืออะไร จริงๆแล้วรูปร่างมันก็คือ ดินสอเปลี่ยนไส้ แต่ไส้ข้างในจะเป็นสี มีทั้งหมด 11 สีเหมือนกันหมดทุกแท่ง เป็นดินสอที่ฮิตมากสมัยประถม เพราะว่าราคาถูก แค่แท่งละ 5 บาท พ่อแม่เลยไม่ค่อยซื้อสีเป็นกล่องๆให้ แถมพกใส่กล่องดินสอสะดวกดีด้วย เวลาจะใช้ก็สะดวกอยากได้สีไหนก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่จะแอบเซ็งนิดหน่อย ตรงที่ถ้าเรากำลังระบายสีต้นไม้สีเขียวอยู่ แล้วอยากระบายลำต้นซึ่งสีน้ำตาลอยู่อันที่ 3 เราก็ต้องดึงทีละอันเพื่อเปลี่ยน แล้วถ้าจะกลับมาระบายสีเขียวอีกก็ต้องเตรียมถอดๆจิ้มๆ ไปอีกเกือบ 10 สี ถึงจะเจอสีที่ต้องการ แต่ตอนที่ใช้ก็ไม่ได้คิดไรหรอก สนุกดี อ้อ..นอกจากดินสอ กับ สีเปลี่ยนไส้แล้ว ยังมียางลบเปลี่ยนไส้อยู่ในตระกูลนี้ด้วยนะ ใครเคยใช้บ้าง

 

เจ้ายางลบปากกาจะเป็นลักษณะ 6 เหลี่ยม สีน้ำเงินแล้วก็มีขนๆพลาสติกไว้ปัดเศษกระดาษที่ขาด เศษขี้ยางลบ หลังๆก็จะมีแบบด้านนึงเป็นยางลบปากกา อีกด้านเป็นยางลบสำหรับดินสอ ประโยชน์ของยางลบปากกานี้ ไม่ได้มีแค่ลบคำผิดนะ แต่ว่ามันช่วยปลูกฝังนิสัยคนได้ดีทีเดียว ช่วยให้เรารู้จักระมัดระวัง มีสติกับการเขียน ที่สำคัญคือให้รู้จักใส่ใจในสิ่งที่เราจะเขียน เพราะถ้าเขียนผิดแค่ครั้งเดียว แต่ต้องใช้ความพยายามลบหลายนาที ใครๆก็ไม่อยากให้เกิดหรอก ส่วนสมัยนี้มีลิควิด แถมแห้งไวอีกต่างหาก คนก็เลยใช้ชีวิตอย่างรวดเร็ว ขาดความระมัดระวังมากขึ้น เห็นมั้ยว่าของโบราณก็ช่วยสร้างนิสัยให้คนในสังคมได้ด้วย

 

ถ้าพูดถึงกบเหลาดินสอที่เป็นเครื่องๆจะว่าเลิกฮิตก็คงไม่ เพราะยังเห็นมีขายกันเยอะเลย แต่จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบที่น่ารักคิกขุขึ้น แต่กบเหลาที่ รู้สึกว่ามันเริ่มหายากแล้วก็คือ กบเหลาดินสอเหล็กอันเล็กๆ เวลาจะใช้ต้องไปยืนหน้าถังขยะ เพราะมันไม่มีที่เก็บขยะให้ ถ้าเหลาทิ้งเรื่อยเปื่อย ได้โดนคุณครูตีแน่ๆ แต่กบเหลาสมัยใหม่เค้าดีไซน์เก๋ขึ้น นอกจากจะน่ารักแล้วยังมีช่องเก็บขยะด้วย ไม่ต้องกลัวเลอะเทอะ สะดวกมากๆ แต่ไม่ว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมาแค่ไหน เราว่าของเก๋าก็เจ๋งที่สุด เพราะทุกวันนี้มันก็ยังใช้งานได้อยู่ ไม่บุบ ไม่พัง ไม่แตก เรียกว่าซื้อครั้งเดียวอยู่กันไปนานเลย

คลาสสิคมากในอดีต ไม้บรรทัดนี้ไมได้มีประโยชน์แค่ขีดเส้นใต้ แต่ยังมีสูตรคูณถึงแม่12 อยู่บนไม้บรรทัดด้วย ตอนเรียนประถมถึงวิชาคณิตทีไร ต้องพกขึ้นมาไว้บนโต๊ะทุกที ลักษณะของไม้ประทัดจะเป็นพลาสติคสีๆ เช่น สีชมพู สีเหลือง สีเขียว แต่จะใสค่ะ สามารถมองเห็นด้านหลังได้ ขนาดความยาวก็มาตรฐาน คือ 1 ฟุต ด้วยความยาวและพลาสติกกรอบๆ ก็เลยทำให้เกิดปรากฏการณ์ไม้บรรทัดหักรายวันกันเลยทีเดียว แต่ไม่เครียดเพราะ อันละ 1 บาทเอง

 

ว่ากันว่า เด็กประถมกับยางลบเป็นของคู่กัน ถึงแม้ว่ายางลบแฟชั่นเมื่อประมาณสิบปีที่แล้วจะไม่ได้น่ารักเท่าสมัยนี้ แต่ก็มีสะสมกันเต็มกระเป๋า โดยยางลบที่กำลังพูดถึงอยู่นี้จะเป็นก้อนสีขาวแบนๆปั๊มลายการ์ตูนด้านหน้า ส่วนด้านบนจะเป็นสีๆ เช่น สีชมพู สีเขียว สีเหลือง ราคาก้อนละบาทเท่านั้นเอง ส่วนคุณภาพก็สมราคา ลบแล้วกระดาษดำปื้ดไปหมด สาเหตุที่ชอบสะสมกันก็เพราะว่ารูปการ์ตูนด้านหน้าแต่ละก้อน มันไม่ซ้ำกัน ใครมีเยอะก็มีลายเยอะ เอามาอวดกันขำๆ ถ้าเป็นสมัยนี้ก็เปลี่ยนจากยางลบมาเป็นอวดโทรศัพท์กันแทน

 

กล่องดินสอมีหลายแบบ มีทั้งแบบพลาสติกหรือเหล็ก ถ้าเป็นแบบธรรมดาชั้นประหยัดก็จะมีชั้นเดียว เปิดมาเจอดินสอนอนรออยู่ แต่ถ้าหรูหน่อยก็จะเป็นกล่องดินสอ 2 ชั้น มีช่องวางยางลบ วางไส้ดินสอเก๋ไก๋ เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ เวลาถึงห้องเรียนก็จะต้องควักกล่องดินสอออกจากกระเป๋ากันถ้วนหน้าใช้ไม่ระวังอาจจะมีแตกหัก น็อตหลุด หรือ แถมด้วยสีถลอกเล็กน้อย ซึ่งดินสอปากกาที่อยู่ในกล่องดินสอไม่ใช่ว่าจะใส่อะไรก็ได้นะ เพราะที่มันน้อย ถ้าใส่เยอะมันจะปิดไม่ลง และไประเบิดในกระเป๋าได้ ดังนั้นต้องเลือกแท่งที่ใช้บ่อยๆ แต่ปัจจุบันกล่องดินสอก็เริ่มมีหลายแบบออกมาให้เลือก แต่ก็ไม่นิยมเท่าไหร่ แล้วรูปแบบเปลี่ยนไปเป็นถุงซิปกันหมดแล้ว เพราะเบากว่า ใส่ได้เยอะกว่า เรียกว่ามีแต่ใส่เพิ่ม ไม่เคยเอาออก แต่มันก็ไม่เต็มซักที

 

บ้านใครมีฐานะก็ใช้เครื่องเหลาดินสอ...ส่วนแบบพกพาก็ต้องมีดเหลาดินสออันละบาท

 

ดินสอสีแบบต่างๆ สีไม้ สีเทียน สีเมจิค...เมื่อก่อนส่วนมากจะมีแค่12สีใน1กล่อง

 

สีเทียน..รุ่นใหม่หน่อยก็จะมีมากกว่า12สี

 

สีน้ำ...ยี่ห้อดัง ตราม้า

 

สมุดระบายสียอดฮิต...ตราวีนัส มีแบบปกอ่อนและปกแข็ง

 

สมุดเรียนที่กระทรวงพิมพ์แจก..หน้าปกรูปในหลวง...มีสูตรคูณด้านหลังปก

 

กระเป๋า...จาร์คอร์ป ไม่รู้ยุคนี้ยังมีหรือเปล่า

 

สมุดลายไทย แบบนี้ก็ยังมีให้เห็นตามโรงเรียน หรือ ร้านเครื่องเขียน เพี่ยงแต่เดี๋ยวนี้หายากกว่าสมุดปกสวยๆ เล่มบางๆของสยามวาลา เจ้าเก่าทีวางขายใน 7-11 และร้านหนังสือชั้นนำ

 

บทอาขยาน....วิชาหนาเจ้า ...

เกิดมาเป็นคน หนังสือเป็นต้น วิชาหนาเจ้า

ถ้าแม้นไม่รู้ อดสูอายเขา เพื่อนฝูงเยาะเย้า ว่าเง่าว่าโง่

ลางคนเกิดมา ไม่รู้วิชา เคอะอยู่จนโต

ไปเป็นข้าเขา เพราะเขาเง่าโง่ บ้างเป็นคนโซ เที่ยวขอก็มี

ถ้ารู้วิชา ประเสริฐหนักหนา ชูหน้าราศี

จะไปแห่งใด มีคนปราณี ยากไร้ไม่มี สวัสดีมงคล.....

.............

อย่าเกียจคร้าน การเรียน เร่งอุตสาห์

มีวิชา เหมือนมีทรัพย์ อยู่นับแสน

จะตกถิ่น ฐานใด คงไม่แคลน

ถึงคับแค้น ก็พอยัง ประทังตน

อันความรู้ รู้กระจ่าง แต่อย่างเดียว

แต่ให้เชี่ยว ชาญเถิด จะเกิดผล

อาจจะชัก เชิดชู ฟูสกล

ถึงคนจน พงศ์ไพร่ คงได้ดี

เกิดเป็นชน ชาวสยาม ตามวิสัย

หนังสือไทย ก็ไม่รู้ ดูบัดสี

จะอับอาย ขายหน้า ทั้งตาปี

ถึงผู้ดี ก็คงด้อย ถอยตระกูล

จะต่ำเตี้ย เสียชื่อ ว่าโฉดช้า

จะชักพา ลาภยศ ให้เสื่อมสูญ

จะขายหน้า ญาติวงษ์ พงศ์ประยูร

จะเพิ่มพูน ติฉิน คำนินทา

หนึ่งหนังสือ หรือตำรับ ฉบับบท

เป็นของล้วน ควรจด จำศึกษา

บิดาปู่ สู้เสาะ สะสมมา

หวังให้บุตร นัดดา ได้ร่ำเรียน

จะได้ทราบ บาปบุญ ทั้งคุณโทษ

ปะบุตรโฉด ต่ำช้า ไม่พาเ...ยร

ให้สมดัง เจตนา ปู่ตาเพียร

เนิ่นจำเนียร เพียรพลัด กระจัดกระจาย

 

สังข์ทองตอนนางจันท์เทวีสลักชิ้นฟักเป็นเรื่องราวนางกับพระสังข์ ......

ชิ้นหนึ่งทรงครรภ์กัลยา .................คลอดลูก ออกมา เป็นหอยสังข์

ชิ้นสองต้องขับเคี่ยวเซซัง ...............อุ้มลูกมายังพนาลัย

ชิ้นสามอยู่ด้วยยายตา ....................ลูกยาออกช่วยขับไก่

ชิ้นสี่กัลยามาแต่ไพร ....................ทุบสังข์ป่นไปกับนอกชาน

ชิ้นห้าบิตุรงค์ทรงศักดิ์ ................ให้รับตัวลูกรักมาจากบ้าน

ชิ้นหกจองจำทำประจาน .............ให้ประหารฆ่าฟันไม่บรรลัย

ชิ้นเจ็ดเพชฌฆาตเอาลูกยา ...........ไปถ่วงลงคงคาน้ำไหล

เป็นเจ็ดชิ้นสิ้นเรื่องอรทัย ..............ใครใครไม่ทันจะสงกา. ..

 

แบบเรียน ภาษาไทย ป3. ประกอบไปด้วย... จันทร์เจ้า... สัตว์สวยป่างาม.... วิชาเหมือนสินค้า...

 

สมุดนักเรียนเก่า..รุ่นภาพปกดารา ด้านหลังมีสูตรคูณ

 

สมุดนักเรียน..ปกเก่า นางสาวไทย คุณ อาภัสรา หงสกุล (นามสกุลในสมัยนั้น)

 

ปกสีน้ำตาล อีกแบบ ที่มีสูตรคูณด้านหลัง

 

ตารางสอน...ส่วนมากจะได้จากของแถม

 

นิทานร้อยบรรทัดเล่ม 1 เป็นบทร้อยกรอง สำหรับนักเรียนชั้น ป.2 หลักสูตรการเรียนปี พ.ศ. 2501 เรียบเรียงโดย หลวงสำเร็จวรรณกิจ จัดพิมพ์โดย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์ครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2515

 

ในเล่มก็จะมีภาพประกอบสวยงาม....นิทานร้อยบรรทัดเล่ม 1 เป็นบทร้อยกรอง สำหรับนักเรียนชั้น ป.2 หลักสูตรการเรียนปี พ.ศ. 2501 เรียบเรียงโดย หลวงสำเร็จวรรณกิจ จัดพิมพ์โดย กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์ครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2515

 

บทร้อยกรองในนิทานร้อยบรรทัด...เป็นภาษาที่ไพเราะ มีคำคล้องจองที่ช่วยให้เด็กๆจดจำได้ดี

 

นิทานร้อยบรรทัดเล่ม 1 เป็นบทร้อยกรอง สำหรับนักเรียนชั้น ป.2 ....ใครที่เคยผ่านเล่มนี้มาแล้วต้องท่องและคุ้นเคยกับบทนี้เป็นอย่างดี

 

เมื่อคุณตาคุณยายยังเด็ก...เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาเรียน..ที่อ่านได้สนุกมากเล่มหนึ่ง เนื้อหาบรรยายถึงวิถีชีวิตของคนในสมัยอดีตได้เป็นอย่างดี มีรวมเล่ม 4 เล่ม เสียดายที่มีรวมเฉพาะปีแรกๆเท่านั้น (Moderator Wiz)

 

หนังสือ แม่เล่าให้ฟัง - พระนิพนธ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา... พระราชประวัติ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ระหว่าง พ.ศ.2443-2481...เป็นหนังสืออ่านนอกเวลาเรียนอีก 1 เล่ม ที่อ่านแล้วรู้สึกสนุกกับเรื่องราวเก่าๆเหมือนกัน

 

สำหรับยางลบสองสีที่เคยใช้....หลังจากจบ ป.4 ในอดีตและมีโอกาสได้ใช้ปากกาในการเขียนภาษาอังกฤษเมื่อก้าวข้ามไปเรียนชั้น ป5 ป6...ต้องใช้ยี่ห้อนี้ สเตทเลอร์ ฝั่งสีขาวไว้ลบดินสอ ฝั่งสีน้ำเงินไว้ลบปากกา...ซื้อมาใหม่ๆก็จะเป็นก้อนเหลี่ยมๆ อย่างที่เห็น ยังลบไม่คล่อง แต่ใช้ไปนานๆก็จะเริ่มกลมและมนลบหนังสือได้คล่องแคล่วยิ่งนัก

 

School notebook...displaying Phibun-era nationalist promotion [early 1940s]....ภาพปกหลังสมุดจดของนักเรียนยุค หลวงพิบูลย์..... ที่ต้องการให้คนไทยเน้นความสามัคคี

 

เครื่องแบบเด็กนักเรียน ชั้นประถม ยุค 70... ใครทันได้ใส่บ้าง

 

เป็นแบบเรียนภาษาอังกฤษชั้นป. สมัยก่อน ชื่อ oxford By H.COULTHARD BURROW พิมพ์ปี 1978

 

รูปเก่า..ห้องเรียนโรงเรียนห้วยหนำ ก่อนปีพ.ศ. 2508 ...เห็นโต๊ะนักเรียนรุ่นนี้ ทำให้นึกถึงตอนเป็นเด็ก ที่คุณครูจะจัดให้นั่งกับคนนั้นคนนี้..ถ้าเราไปนั่งคู่กับเพศตรงข้ามก็จะถูกล้อว่าเป็นแฟนกัน... ถ้าเราเล่นและคุยกันมากก็จะโดนให้ย้ายไปนั่งกับพวกที่เป็นเด็กเรียน แต่ส่วนมากคงจะชอบแถวหลังๆมากกว่า..ไม่ชอบเลยถ้าจะนั่งอยู่แถวที่ติดกับหน้าชั้นเรียนแน่นอนเลย..โต๊ะเรียนรุ่นนี้มีช่องให้วางดินสอและอุปกรณ์เครื่องเขียนตรงข้างหน้าเสียด้วย (โรงเรียนห้วยหนำ 12 ถ.สละชีพ ซ.6 ตำบลประจวบคีรีขันธ์ อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 7700)

 

Credit: https://www.facebook.com/media/set/?set=a.348803788497538.86043.199476353430283&type=3
19 ต.ค. 58 เวลา 06:33 4,762 1 10
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...