คุณปู่ เค. จัตตู กุตตัน ดอร์แมนเก๋ากึ้ก ที่กระทบไหล่คนดังมากมาย ตั้งแต่ประมุขประเทศต่างๆ จนถึงนักบินอวกาศ กระทั่งสาวๆ ของเจมส์บอนด์ก็ด้วย
ความคร่ำหวอดในการทำหน้าที่ต้อนรับแขกมานานถึง 70 ปีที่โรงแรมกัลเล เฟซ ในศรีลังกา ทำให้ คุณปู่ เค. จัตตู กุตตัน ผู้มีอาชีพดอร์แมน หรือคนเฝ้าประตู ได้กระทบไหล่ผู้คนมามากมายนับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ประมุขของประเทศต่างๆ ไปจนถึงบรรดาสาวๆ ของสายลับเจมส์ บอนด์ ในภาพยนตร์เรื่องดัง และนักบินอวกาศโซเวียต
คุณปู่กุตตัน มีอายุครบ 90 ปีไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การผ่านร้อนผ่านหนาวมาเกือบหนึ่งศตวรรษประกอบกับการทำงานมากว่าครึ่งทศวรรษ ทำให้คุณปู่ได้เป็นพยานการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งหลายหนของโรงแรม ตั้งแต่ยุคอาณานิคม จนกระทั่งได้รับอิสรภาพ และแม้กระทั่งยุคมืดของความขัดแย้งเกี่ยวกับชนกลุ่มน้อย
ด้วยวัยร่วม ร้อยทำให้คุณปู่ผ่านโลกมามากจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการเห็นเครื่องบินรบซีโรของญี่ปุ่นประสบอุบัติเหตุขณะลงจอด บริเวณโรงแรมในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือดาราสาวเออร์ซูลา แอนเดรสส์ ผู้รับบทผู้หญิงคนแรกของเจมส์ บอนด์ เต้นรำในห้องบอลรูมช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของปี 2519
ย้อน หลังไปดูประวัติคุณปู่จะพบว่าถือกำเนิดที่จังหวัดคาเรลาของอินเดีย แต่หลังจากนั้นก็ได้ละทิ้งบ้านเกิดและลงเรือเฟอร์รี่ เดินทางไปยังเมืองท่าทาไลมันนาร์ ทางเหนือของศรีลังกา จากนั้นก็มุ่งหน้าไปกรุงโคลัมโบเมื่อปี 2481
คุณปู่เริ่มทำงานเป็นคน รับใช้ของครอบครัวมั่งคั่งแห่งหนึ่งของกรุง โคลัมโบ ก่อนขยับไปหางานที่โรงแรมกัลเล เฟซ เมื่อปี 2485 หรือไม่กี่สัปดาห์หลังจากญี่ปุ่นทิ้งระเบิดเข้าใส่เมืองหลวงศรีลังกา โดยในตอนแรกคุณปู่รับหน้าที่บ๋อย จากนั้นก็ใช้เวลา 50 ปีต่อมา ยืนเฝ้าและต้อนรับแขกที่ประตูหน้าโรงแรม
"ซีลอนในสมัยก่อน หรือศรีลังกาในสมัยนี้ แตกต่างจากปัจจุบันมาก เพราะคนดังอย่างสมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ของญี่ปุ่น อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ของสหรัฐ เซอร์ลอเรนซ์ โอลิเวีย นักแสดงชื่อดัง และจอร์จ เบอร์นาร์ด ชอว์ นักประพันธ์ชื่อก้องโลก ล้วนเคยไปพักที่โรงแรม" คุณปู่รำลึกถึงความหลัง พร้อมบรรยายภาพยุคอาณานิคม ซึ่งพื้นที่ติดกับโรงแรมที่มองลงไปเห็นมหาสมุทรอินเดีย เคยเป็นสนามแข่งม้า
"สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ผิวขาวมักชมการแข่งขันจากระเบียงโรงแรมของเรา บรรดาสุภาพสตรีล้วนสวมหมวกและมีผ้าลูกไม้กันแดด"
การปฏิบัติหน้าที่ มาอย่างช่ำชอง ทำให้กุตตันเป็นเหมือนเอกลักษณ์ของโรงแรม โดยเฉพาะเมื่อรวมกับลักษณะท่าทาง ไม่ว่าจะเป็นผมสีดอกเลาที่ถูกหวีจนเรียบแปล้ หนวดที่โง้ง ชุดสีขาวติดกระดุม โสร่ง และเข็มที่ระลึกจากหลายสิบประเทศที่กลัดไว้เป็นแผงบนเสื้อ ล้วนดึงดูดแขกเหรื่อให้มาขอถ่ายรูปกับคุณปู่
มีแขกเพียงไม่กี่คนที่ใจแข็งพอจะเดินผ่านคุณปู่ไปได้โดย ไม่เหลียวมองหรือ ขอถ่ายรูปด้วย และรูปภาพรวมถึงเรื่องราวในชีวิตที่ยืนยงเกือบร้อยปีของกุตตันก็ไปปรากฏตาม หน้าปกและในนิตยสารท่องเที่ยวชั้นนำบางฉบับของโลก
"คุณปู่น่า จะเป็นคนแก่เพียงไม่กี่คนในโลกที่ยังทำงานอยู่อย่างกระฉับ กระเฉง แถมยังเป็นหนึ่งในพนักงานโรงแรมที่ชื่อเสียงเลื่องลือที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วย" ลาลิธ โรดริโก ผู้อำนวยการโรงแรม ระบุ
ไฟสงครามสงบ ไฟในใจคุโชน
แม้มีอายุล่วงเข้าวัย 90 ปีแล้ว แต่คุณปู่ก็ยังเดินไปทำงานทุกเช้าด้วยระยะทาง 1.6 กิโลเมตร ส่วนขากลับจากโรงแรมตอนบ่าย คุณปู่นั่งรถโดยสาร ที่สำคัญคือคุณปู่บอกว่ายังสนุกกับการทำงานและไม่คิดเกษียณตัวเองเร็วๆ นี้
"การเดินไปทำงานและการได้ ต้อนรับแขกที่โรงแรมตลอดทั้งวัน ทำให้ชีวิตของปู่ไม่หยุดนิ่ง" คุณปู่ผู้มีลูกสาว 2 คน หลาน 5 คน และเหลน 1 คน อธิบาย
เมื่อมองย้อน ไปในอดีตของคุณปู่ ก็ล้วนมีแต่เรื่องน่าภูมิใจและน่าจะทำให้คุณปู่เพลิดเพลินกับการทำงานอย่าง ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพราะเมื่อครั้งเริ่มทำหน้าที่บ๋อย กุตตันได้มีโอกาสรับใช้บุคคลระดับผู้นำและราชวงศ์อย่างลอร์ดเมาต์แบตเทน ผู้ตรวจราชการคนแรกของอินเดียก่อนกลายฐานะมาเป็นสาธารณะรัฐอินเดีย เจ้าหญิงเอลิซาเบธ, เยาวฮาร์ลัล เนห์รู, อินทิรา คานธี และ อาร์เธอร์ ซีคลาร์ก นักแต่งนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง
เงินเดือนของคุณปู่ช่วงนั้นอยู่ที่ 20 รูปี แต่ปัจจุบันคุณปู่ได้เงินเดือน 30,000 รูปี หรือประมาณ 21,000 บาท
อย่าง ไรก็ตาม วันเวลาหลายสิบปีที่ผันผ่านทำให้ความรุ่งเรืองของโรงแรมกัลเล เฟซ ลดน้อยลง และเหล่าคนดังอันดับต้นๆ รวมถึงนักการเมืองก็หันไปพักที่โรงแรมหรูหราและทันสมัย ซึ่งสร้างขึ้นใหม่ในย่านต่างๆ ของกรุงโคลัมโบ
กระนั้น ความอลังการของโรงแรมแห่งนี้ยังสามารถดึงดูดลูกค้าเก่าๆ ที่เป็นขาประจำ รวมถึงลูกค้าใหม่ๆ ที่ตื่นตะลึงกับภาพของบรรดาแขกชื่อดังที่เคยมาพักยังโรงแรม และชี้ชวนกันให้ดูภาพของบุคคลที่ไม่คาดว่าจะมาเป็นลูกค้า อย่าง ยูริ กาการิน นักบินอวกาศโซเวียต
ย้อนกลับมาที่คุณปู่กุตตันอีกครั้ง คุณปู่บอกว่าดีใจที่ได้มีชีวิตอยู่จนเห็นจุดสิ้นสุดของความขัดแย้งภายในของ ศรีลังกาที่ยืดเยื้อมานานถึง 37 ปี โดยสงครามกลางเมืองปิดฉากลงเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว พร้อมกับการจบชีวิตของหัวหน้ากลุ่มพยัคฆ์ทมิฬหลังจากพ่ายแพ้สูญเสียฐานที่ มั่นสุดท้ายให้กองทัพ
"มีคนตายไปเยอะ ปู่ได้เห็นระเบิดหลายลูกรอบกรุงโคลัมโบ ชาวบ้านหวาดกลัวไม่กล้าไปไหน แม้แต่นักท่องเที่ยวยังไม่อยากจะมา ดังนั้นปู่จึงดีใจที่สงครามจบสิ้นลงได้ในที่สุด"
ความฝันของคุณปู่ ผู้ไม่สูบบุหรี่และเลิกเหล้าแล้ว แถมยังชอบทานผัก คือการได้กลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เคราลาในเดือนเมษายนนี้ และเยี่ยมพี่สาวน้องสาว วัย 93 และ 73 อันจะเป็นการกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดครั้งที่ 2 ของคุณปู่ตั้งแต่มาตั้งรกรากที่ศรีลังกา
สังขารที่ร่วงโรยไม่ได้ทำ ให้สุขภาพของคุณปู่ย่ำแย่ไปด้วย เพราะคุณปู่ต้องใช้แว่นตาเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น และงดของหวานเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้ต่ำ
แต่สิ่งที่ทำให้คุณ ปู่รำคาญคือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคุณปู่บอกว่าไม่ชอบพวกเสียงริงโทนเลย เพราะรู้สึกว่าทำให้แก้วหูลั่น
................................................
(หมาย เหตุ : เรียบเรียงจากสำนักข่าวเอเอฟพี)