เรียบเรียงโดย Clipmass.com
ในอดีตนั้นมีสูตรยามากมายที่แตกต่างไปจากปัจจุบัน แต่ที่แปลกประหลาดนั้นคงเป็นการนำอวัยวะภายในร่างกายของซากศพมนุษย์มาใช้เป็นส่วนผสมในการปรุงยาเพื่อใช้รักษาโรค ซึ่งน่าแปลกเป็นอย่างมากที่พวกเขาเชื่อกันว่ามันสามารถใชัรักษาได้จริงๆ และมีมายาวนานเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละสูจรการปรุงยานั้นจะน่าสยองและแปลกประหลาดขนาดไหน ไปชมกันเลย
1. ยาของพระมหากษัตริย์ - กษัตริย์ Charles II มีปัญหาในเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้นเขาจึงชอบนำกะโหลกศีรษะของมนุษย์ที่ตายแล้วเข้าไปไว้ในห้องส่วนตัว เพื่อช่วยกระตุ้นอารมณ์มากขึ้น และเพื่อเพิ่มความสุขให้มากขึ้น
2. มอสบนกะโหลกศีรษะ - ในอดีตนั้นกะโหลกศีรษะจะถูกเก็บไปขายให้กับกษัตริย์ Charles II แต่ถ้ากะโหลกอันไหนที่ไม่ได้นำไปขายก็จะถูกนำมาใช้ปลูกมอส เพื่อนำมอสที่ได้ไปใช้รักษาอาการเลือดกำเดาไหล
3. Gladiator Blood - ชาวโรมันมีความเชื่อสุดแปลกว่า การดื่มเลือดของนักสู้จะช่วยรักษาโรคลมชักได้ และน่าแปลกใจที่ความเชื่อนี้สืบต่อไปทั่วยุโรป
4. Mellified Men - ในศตวรรษที่ 16 มีชายชราในอะราเบียที่มักจะนำศพคนตายไปแช่ไว้ในน้ำผึ้ง หลังจากนั้นก็นำมากิน
5. สมองคน - ในศตวรรษที่ 17 มีนายแพทย์ชาวอังกฤษชื่อว่า Dr. French นำสมองมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วมาให้ผู้ป่วยโรคลมชักกินในปริมาณที่กำหนด ซึ่งสมองที่นำมาใช้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นสมองสดๆ ของคนที่เพิ่งเสียชีวิต
6. ไขมันมนุษย์ - ในปี 1920 มันเป็นเรื่องธรรมดาปกติของประเทศฮอลแลนด์ที่จะนำไขมันมนุษย์มาเป็นส่วนผสมในเบียร์
7. เหงื่อของคนตาย - ย้อนไปในปี 1800 มีการนำเหงื่อของคนตายมาใช้รักษาโรคริดสีดวงทวาร
8. เศษกระดูกเป็นผุยผงของมัมมี่ - ระหว่างศตวรรษที่ 12 และ 17 มีการใช้เศษเถ้ากระดูกของมัมมี่มาใช้ปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ โดยเชื่อว่าจะช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร รวมทั้งเนื้องอกได้
9. รกเด็ก - โดยเชื่อกันว่ารกเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากมายซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ดังนั้นจึงนิยมนำมาบดเป็นผงแล้วกินเพื่อรักษาโรคหอบหืด
ข้อมูลและภาพประกอบจาก "creepybasement.com"