"ไครโอนิกส์ -Cryonics" แช่แข็ง"มนุษย์"รอวันคืนชีพ!?

"ไครโอนิกส์ -Cryonics" แช่แข็ง"มนุษย์"รอวันคืนชีพ!?

ข้อมูลจากบทความเรื่อง Cryonics A Passport to a Future World. วารสารสื่อพลัง ฉบับเม.ย.-มิ.ย. 2553

 


ห้องปฏิบัตืการแช่แข็งมนุษย์ เพื่อรอวันคืนชีพของอัลคอร์

"เกิด-แก่-เจ็บ -ตาย เป็นสัจธรรมของมนุษย์ตามกฎธรรมชาติที่ไม่มีใครหนีพ้น แต่นับวันเมื่อเทคโนโลยียิ่งเจริญก้าวหน้า ก็มีนักวิทยา ศาสตร์บางกลุ่มเริ่มเชื่อมั่นว่าศาสตร์แช่แข็งเนื้อเ ยื่อ อวัยวะ รวมถึงสมองของมนุษย์ ในนาม "ไครโอนิกส์" (Cryonics) จะช่วยชุบชีวิตเราให้ฟื้นคืนจากโรคภัยไข้เจ็บและความ ตายได้อีกคำรบเพื่อเป็น อมตะในร่างของหุ่นยนต์แอนดรอยด์ หรือ ร่างโคลนนิ่ง แม้จะดูเหมือนแค่เรื่องเล่าและความฝันในภาพยนตร์ไซ-ไฟ ฮอลลีวู้ดก็ตาม!"

ว่ากันว่า อายุขัยโดยเฉลี่ยของมนุษย์นั้นส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่ได ้โดยปกติสุขไม่ถึง 70 ปี การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นสัจธรรมยากจะเลี่ยง

ตาม หลักการแพทย์บางสำนักที่เชื่อว่า "สมอง" เป็นศูนย์รวมความคิด ความรู้ ความจำ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือตัวตนของเรานั่นเอง ดังนั้น ความหวังที่จะกลับฟื้นคืนชีพหลัง ความตายจึงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน

เรื่อง ราวที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ "the Prospect of Immortalitty" เขียนโดย โรเบิร์ต ซี. ดับเบิลยู. เอ็ตทิงเกอร์ บิดาแห่งไครโอนิกส์ ศาสตร์แขนงหนึ่งในวิชาฟิสิกส์ว่าด้วยคุณสมบัติของวัต ถุในอุณหภูมิต่ำได้ สร้างแรงบันดาลใจอย่างใหญ่หลวงจนเกิดการก่อตั้งองค์ก รเพื่อค้นคว้า-พัฒนาการ เก็บรักษาเนื้อเยื่อด้วยวิธีไครโอนิกส์อย่างจริงจัง


1.ภายในห้องแล็ป
2.ภาพจำลองไครโอนิกส์จากจินตนาการโลกไซ-ไฟ
3.ห้องแล็ปกับการทำงาน
4.อุปกรณ์แช่แข็งร่างมนุษย์ของมูลนิธิอัลคอร์



โดย นำเอาร่างกายหรืออวัยวะของมนุษย์และสัตว์ไปแช่ใน "ไนโตรเจนเหลว" ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า -196 องศาเซลเซียส เหมือนกับฝากธนาคารเอาไว้จนกว่าวิทยาการในอนาคตจะก้า วหน้าพอสำหรับการ "โคลนนิ่ง" ร่างใหม่จากเซลล์เดิม รวมถึงสร้างร่างจักรกลแบบไซบอร์ก หรือร่างเทียมแบบแอนดรอยด์ เมื่อถึงวันนั้นเราจะฟื้นขึ้นมาเป็นคนเดิมในร่างใหม่ เอี่ยมได้ไม่รู้จบ

แนวคิดของไครโอนิกส์ ตั้งอยู่บนหลัก 3 ประการ ได้แก่

1. ชีวิตสามารถหยุดและเริ่มต้นใหม่ได้อีก หากโครงสร้างของเซลล์ได้รับการเก็บรักษาอย่างดี และหยุดกระบวนการเคมีทั้งหมด ดังจะเห็นได้จาก "ตัวอ่อนมนุษย์" ที่แช่แข็งได้หลายปี การแช่งแข็งอสุจิ รวมทั้งผู้ป่วยที่รอดชีวิตด้วยการแช่แข็งให้อวัยวะบา งส่วนหยุดทำงานในระยะ เวลาสั้นๆ

2. ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Vitrification ทำให้สามารถแช่แข็งเนื้อเยื่อให้อยู่ในสภาพที่แข็งเห มือนแก้ว โดยใช้สารเคมีช่วยยับยั้งการก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็งใน ขณะที่อุณหภูมิลดลง อย่างรวดเร็ว ทำให้เซลล์ไม่เสียหายจากการขยายตัวของน้ำแข็งเหมือนก ารแช่แข็งปกติ

3. มีความเป็นไปได้ในการซ่อมแซมโครงสร้างของเซลล์ในระดั บโมเลกุล โดยดูจากแนวโน้มความก้าวหน้าด้าน "นาโนเทคโนโลยี" ซึ่งทำให้สามารถแก้ไขความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ได้อย่างเฉพาะเจาะจง


ต้นแบบหุ่นแอนดรอยส์ของญี่ปุ่น พัฒนาโดยศ.ฮิโรชิ อิชิกุโระ ม.โอซากา



ทันทีที่หัวใจหยุดเต้น "สมอง" คนไข้จะ ได้รับการปกป้อง โดยมีอุปกรณ์เติม "ออกซิเจน" สู่สมอง เพื่อป้องกันสมองตาย

และต่อเส้น เลือดดำเข้ากับอุป กรณ์เติมสารเคมีเพื่อรักษาระดับความดันโลหิต

เมื่อ อุณหภูมิของร่างกายถูกลดลงจนใกล้ถึง 0 องศาเซลเซียส จึงแทนที่เลือดด้วยสารเคมีที่ป้องกันการจับตัวเป็นผล ึกน้ำแข็ง แล้วลดอุณหภูมิลงเรื่อยๆ ประมาณ 3 ชั่วโมง ให้ร่างกายทั้งหมดอยู่ที่อุณหภูมิ -124 องศา ซึ่งเป็นสถานะปลอดน้ำแข็งอย่าง สิ้นเชิง

ขั้นต่อมา ใช้เวลาอีกกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อลดอุณหภูมิจนถึง -196 องศา หลังจากนั้นจึงเก็บรักษาระยะยาวโดยใช้ "ไนโตรเจนเหลว" ควบคุมอุณหภูมิ

เมื่อ เซลล์ ซึ่งเป็นโครงสร้างสิ่งมีชีวิตได้รับการเก็บรักษาเป็น อย่างดี ทั้งยังมีแนวโน้มว่าวิทยาการในอนาคตจะสามารถ "ซ่อม" ความเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้น "การคืนกลับของชีวิต" จึงย่อมเป็นไปได้เช่นกัน

แม้ยังไม่เคยมีข้อมูลว่า มนุษย์รอดชีวิตจากอุณหภูมิต่ำกว่าจุด เยือกแข็ง หรือวิทยาการซ่อมสร้างร่างกายใหม่จะเกิดขึ้นในโลกเมื ่อใด

"สมอง มนุษย์" ที่ถูกแช่แข็งด้วยวิธีดังกล่าวจะสามารถปลุกให้ฟื้นโด ยที่ยังเก็บข้อมูลเดิม ได้สมบูรณ์หรือไม่ ล้วนยังคงเป็นเรื่องรอคอยการพิสูจน์

แม้หลักการไครโอนิกส์ ให้ความกระจ่างในแง่ของกระบวนการเก็บรักษาสมองด้วยวิ ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่า ในการ "เกิดครั้งใหม่" เราจะมีชีวิตที่น่าพอใจดังที่เป็นอยู่

การกลับจากความตายในตัวตนเดิมอาจเป็นทางเลือกที่มั่น ใจได้มากกว่า

ปัจจุบัน องค์กรซึ่งศึกษาค้นคว้าและให้บริการไครโอนิกส์ เช่น "มูลนิธิอัลคอร์ ไลฟ์ เอ็กซ์เทนชั่น" ที่ก่อตั้งโดยนางลินดา และนายเฟร็ด แชมเบอร์เลน วิศวกรอวกาศของสำนักงานอวกาศสหรัฐ อเมริกา (นาซ่า) มีสมาชิกกว่า 900 คน และมีคนไข้ 89 ราย

ส่วน "สถาบันไครโอนิกส์" ของโรเบิร์ต ซี. ดับเบิลยู. เอ็ตทิงเกอร์ ที่มีบริการแช่แข็งมนุษย์ทั้งร่าง สัตว์เลี้ยง และเฉพาะเนื้อเยื่อบางส่วน หรือดีเอ็นเอ ก็มีคนไข้กว่า 90 ราย นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายองค์กร เช่น สมาคมไครโอนิกส์อเมริกัน แสดงถึงแนวโน้มว่าผู้คนหันมาสนใจในกระบวนการไครโอนิก ส์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในคำถามที่ไครโอนิกส์ยังมิอาจตอบได้อย่างชัดเจน ก็คือ

ถึงจะสร้างปาฏิหาริย์ สร้างมนุษย์ไม่มีวันตายขึ้นมาได้จริง

แต่ "จิตวิญญาณ" แห่งความเป็นมนุษย์ของคนๆ นั้นจะยังคงดำรง อยู่ด้วยหรือไม่!?!

26 พ.ค. 53 เวลา 09:08 3,786 15 114
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...