ลิ้นของคนเรา เป็นอวัยวะสําคัญที่แพทย์จีนแผนโบราณใช้ในการตรวจโรค เพราะลิ้นคนเราเป็นอวัยวะที่บอบบาง ลักษณะของลิ้นจึงเปลื่ยนไปตามสภาพร่างกายได้ง่ายโดยตําราแพทย์แผนจีนแบ่งแผนที่ ลิ้น ออกเป็นธาตุทั้ง 5 ดังนี้ครับ
ปลายลิ้น= ธาตุไฟ ระบบหลอดเลือดหัวใจ
ปลายลิ้นจะบ่งบอกถึงสูขภาพหัวใจทั้งกายและจิต สีแดงและจุดแดงที่ปลายลิ้นแสดงถึงความเครืยดต่างๆ โดยธาตุไฟที่พลุ่งพล่านนี้จะสื่อว่าหัวใจของเราทัางานหนักเกินไปเพราะมีความเครียดและแรงดันดันนั่นเอง
ส่วนที่ถัดจากปลายลิ้นเข้ามา= ธาตุเหล็ก ระบบหายใจและระบบภูมิคุ้มกัน
บริเวณนี้หมายถึงแนวโค้งที่อยุ่ถัดจากปลายลิ้นเข้ามา หากมีสีออกแดงหรือมีจุดสีแดงขนาดเท่าหัวเข็ม อาจสื่อถึงการติดเชื้อในปอด สีชีดบ่งบอกว่าระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ถ้ามีสีออกนํ้าตาลอาจแสดงถึงเชื้อราในปอด
กลางลิ้น = ธาตุดิน ระบบย่อยอาหาร
กลางลิ้นจะเกื่ยวข้องกับกระเพาะอาหาร ม้าม และตับอ่อน รวมถึงปัญหาระบบขับถ่าย เช่น คราบสีแดงและเหลืองที่กลางลิ้นบ่งบอกถึงโรคกรดไหลย้อนที่ทําให้เราตื่นขึ้นมากลางดึก การเปลี่ยนแปลงใดก็ตามในบริเวณธาตุดินอาจช่วยชี้ปัญหาในระบบขับถ่ายที่เรายังไม่รุ้ก็ได้
ข้างลิ้น = ธาตุไม้ ระบบของตับ
หากมีรอยฟันที่ข้างลิ้นอาจหมายความว่าพลังงานที่ตับไม่ไหลเวียน บางครั้งจะเห็นเป็นจุดสีเขืยวซํ้าหรือม่วง หากเป้นสีเข้มอาจสื่อถึงปัญหาร้ายแรง เช่น กระดูกซี่โครงด้านล่างขยายตัวหรืออาการปวดบวมบริเวณท้องน้อย
โคนลิ้น = ธาตุนํ้า ระบบปัสสาวะ
โดยหลักแล้วโคนลิ้นจะสื่อถึงไตและกระเพราะปัสสาวะ สี่งที่เราต้องดูคือสีและคราบ ถ้าโคนลิ้นตรงกลางมีคราบสีเหลืองอาจแสดงว่ากระเพาะปัสสาวะติดเชื้อซึ้งบรรเทาอาการได้ด้วยการดื่มนํ้าวันละ 8-12 แก้ว กันไว้ดีกว่าต้องไปพบแพทย์ทีหลังนะครับ
(เจาะลิ้น.....ความสวยงามที่มาคุ่กับอันตราย) หนุ่มๆ สาว ๆ บางคนโปรดจําไว้ว่า การเจาะลิ้นทั้งสวยงามและเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ดังนั้น หลังจากคุณเจาะแล้ว ภายในหนึ่งวันควรใช้นํ้ายาบ้วนปากที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 2-3 ครั้ง หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด และไม่ควรประกบปากกับคนอื่น หากแผลหายดีแล้วจึงแปรงลิ้นและตุ้มลิ้นตามปกติได้ครับ จบ สวัสดีครับ