ที่มา: https://www.facebook.com/photo.php?fbid=527023094095154&set=gm.699738463438756&type=1&theater
ปลากระป๋อง เป็นผลิตภัณฑ์ถนอมอาหารที่แปรรูปจากปลาสด ปลาที่ใช้ผลิตปลากระป๋อง ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาแมกเคอเรล เป็นต้น ปลากระป๋องอาจถูกบรรจุในนํ้าเกลือ นํ้ามันพืช ซอสมะเขือเทศ น้ำแร่ หรืออื่นๆ
ตำนานอาหารบรรจุกระป๋อง ได้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 1795 เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสขนส่งเสบียงไปให้แก่ทหารที่อยู่ไกล แต่ระหว่างการขนส่งอาหารนั้นกลับบูดเน่า ทางทหารจึงได้นำปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านี้ไปรายงานแก่นโปเลียนว่า... "ปัญหาขาดเสบียง เกิดขึ้นเพราะเราไม่มีอาหารที่ขนส่งได้สะดวก หรือสามารถเก็บไว้ได้นานๆ" ซึ่งเมื่อทางนโปเลียนรับรู้ถึงปัญหา จึงได้เกิดนโยบายขึ้นว่า... "หากผู้ใดสามารถคิดค้นอาหาร หรือวิธีการเก็บรักษาอาหารไว้ได้เป็นระยะเวลานานๆ และสะดวกต่อการขนส่ง เพื่อเป็นเสบียงให้กับกองทัพที่ต้องไปรบในที่ห่างไกลได้สำเร็จ เมื่อนำผลงานมาเสนอ ก็จะได้รับรางวัลจำนวน 1,200 ฟรังก์"
นับตั้งแต่ที่นโปเลียนประกาศ จนกาลเวลาผ่านพ้นไปนานถึง 15 ปี ก็ยังไม่มีผู้ใดที่สามารถคิดค้นวิธีการเก็บรักษาอาหาร ให้เป็นที่น่าพอใจหรือบรรลุเป้าหมายในการแก้ปัญหาได้ จนกระทั่งวันหนึ่งในปี ค.ศ. 1810 ก็ได้มีชายคนหนึ่งชื่อ "นิโคลัส อัพเพิร์ต" ซึ่งมีอาชีพเป็นคนขายลูกกวาดธรรมดาๆ ได้มานำเสนอวิธีการถนอมอาหารที่เขาคิดค้นขึ้นเอง นั่นก็คือการนำอาหารบรรจุไว้ในกระป๋อง อยากกินเมื่อไรก็เปิดออกมากินได้ตลอดเวลา วิธีทำของเขาคือ... การนำอาหารที่ใช้วัตถุดิบสดใหม่ บรรจุใส่ไว้ในกระป๋อง จากนั้นก็นำไปผ่านกรรมวิธีในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งการคิดค้นของนิโคลัสนั้นจะทำให้เก็บรักษาอาหารไว้ได้นานนับปีเลยทีเดียว นโปเลียนเห็นว่า อาหารกระป๋องที่นิโคลัสคิดค้นขึ้น ตรงตามคุณสมบัติทุกประการ จึงได้มอบเงินรางวัล 1,200 ฟรังก์ให้แก่เขา
สำหรับปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศที่คนไทยคุ้นเคยนั้นถือกำเนิดมาจากประเทศสเปนและอิตาลี มากกว่า 100 ปี
ในอดีต... ปลากระป๋องที่คนไทยบริโภคนั้นเป็นปลากระป๋องนำเข้า จนต่อมา ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2522 บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด จ.ตรัง ได้มีการจัดตั้งบริษัทผลิตปลากระป๋องสัญชาติไทยขึ้นเป็นเจ้าแรกในประเทศไทยในชื่อของ... "ปลากระป๋องตราปุ้มปุ้ยหรือปลายิ้ม" ซึ่งก็จะนำวัตถุดิบภายในประเทศมาผลิตเป็นปลากระป๋อง
โดยยุคแรกๆ ของปลากระป๋องไทย เคยได้มีการทดลองทำปลากระป๋องในซอสมะละกอมาก่อน เหตุเพราะในสมัยนั้นประเทศไทยไม่มีพันธุ์มะเขือเทศเป็นของตัวเอง แต่ต่อมาก็ได้พัฒนามาเป็นปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศที่เรากินกันอยู่จนถึงปัจจุบัน
กระบวนการผลิตปลากระป๋องนั้นเริ่มจากการล้างทำความสะอาดปลา ใช้คนตัดหัวหางปลาด้วยความเร็ว 60 กิโลกรัมต่อคนต่อชั่วโมง และนำมาล้างล้างอีกครั้งก่อนบรรจุลงในกระป๋อง
นำไปนึ่งด้วยความร้อนประมาณ 25 นาที จากนั้นจึงใส่น้ำมันและปรุงรสด้วยซอสมะเขือเทศ ผนึกฝาให้สนิท พร้อมระบุวันผลิตและวันหมดอายุ
จากนั้นปลากระป๋องก็จะถูกลำเลียงเข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพ และนำไปฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อน ติดฉลากให้ชัดเจนถูกต้อง ก่อนจัดส่งไปถึงมือผู้บริโภค
ปลากระป๋องถูกจัดให้เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่มีราคาถูก เพราะมีโอเมก้า 3 เทียบเท่ากับปลาสด นอกจากนี้ยังมีแคลเซียม ซึ่งเป็นส่วนประกอบของกระดูกและฟันในร่างกายมนุษย์ แต่หากอยากจะให้ได้ประโยชน์ของสารอาหารอย่างครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ก็ควรจะรับประทานปลากระป๋องร่วมกับผักชนิดต่างๆควบคู่กันไปด้วยนะคะ
เรื่องโดย... เนรัญชลา NarunChala Phatthranant
ที่มา:https://www.facebook.com/photo.php?fbid=527023094095154&set=gm.699738463438756&type=1&theater