บริษัทประกันชีวิตทุกบริษัท เตรียมถอดโฆษณาผู้สูงอายุไม่ต้องตรวจโรค เริ่ม 1 กันยายนนี้ พร้อมปรับปรุงเนื้อหาให้มีรายละเอียดชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้ผู้ซื้อเข้าใจง่าย

      หลังจากก่อนหน้านี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เตรียมยื่นเรื่องให้มีการตรวจสอบบริษัทประกันชีวิต กรณีมีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าบริษัทประกันชีวิตโฆษณาลวงผู้สูงอายุซื้อประกันสุขภาพโดยไม่ต้องตรวจโรคแต่เงื่อนไขไม่เป็นไปตามโฆษณา ตามที่ได้มีรายงานไปแล้วนั้น [อ่านข่าว : จี้ตรวจสอบบริษัทประกันโฆษณาหลอกลวง ผู้สูงอายุไม่ต้องตรวจสุขภาพ]

      ความคืบหน้าล่าสุด (31 สิงหาคม 2558) นางบุษรา อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทยพร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ กล่าวชี้แจงรายละเอียดจากกรณีดังกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ บริษัทประกันชีวิตทุกบริษัทจะถอดโฆษณาการขายประกันชีวิตอาวุโสทั้งหมดและภายใน 2 เดือน จะมีการปรับปรุงข้อความโฆษณาให้มีความชัดเจนมากขึ้น ซึ่งข้อความโฆษณาที่ต่างกันจะต้องมีการวงเล็บไว้ว่า เป็นประกันสำหรับผู้อาวุโส ส่วนรายละเอียดเงื่อนไขของกรมธรรม์จะใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกบริษัท โดยเฉพาะด้านการคุ้มครองประกันชีวิต หากเสียชีวิตภายใน 2 ปีแรก จะมีการคืนเบี้ยประกันพร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 2-5 ให้ผู้เอาประกัน แต่หากพ้น 2 ปีไปแล้วจะมีการคืนเงินทั้งหมดตามทุนประกันที่ทำไว้กับบริษัทประกันชีวิต

      ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ อุปนายกฝ่ายการตลาด กล่าวว่า แต่ละบริษัทจะต้องปรับเปลี่ยนถ้อยคำโฆษณาที่ขายทางโทรทัศน์ให้มีความชัดเจนมากขึ้น และในส่วนของเนื้อหารายละเอียดต้องผ่านคณะกรรมการบริหารวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ (กบว.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พิจารณาเห็นชอบก่อน รวมทั้งต้องมีตัววิ่งเป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่แจ้งรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าเพื่อให้เห็นง่ายขึ้น

     สำหรับการซื้อประกันชีวิตผ่านทางโทรศัพท์หรือเทเลมาร์เกตติ้งจะมีการบันทึกเสียงระหว่างเจ้าหน้าที่และลูกค้าในแต่ละครั้ง และหากพบว่ากรมธรรม์ที่ซื้อไปไม่ตรงกับความต้องการก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อขอยกเลิกกรมธรรม์ได้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ต้องแจ้งรายละเอียดเงื่อนไขกรมธรรม์ให้กับลูกค้าได้รับทราบข้อเท็จจริง หากพบว่าเจ้าหน้าที่มีเจตนาขายกรมธรรม์อย่างเดียวหรือพูดตามสคริปท์ที่บริษัทวางไว้ ทำให้ลูกค้าไม่ได้รับทราบข้อเท็จจริงตามเงื่อนไขการคุ้มครอง เบื้องต้นอาจถูกตักเตือน ภาคทัณฑ์ แต่หากเกิดกรณีร้ายแรงจะได้รับโทษสูงสุดคือการไล่ออก

     ด้านนายโชน โสภณพนิช เหรัญญิก กล่าวว่า จะต้องเพิ่มข้อความโฆษณาและทุนประกันลงไปในโฆษณาให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนไม่ให้ลูกค้าหรือประชาชนเข้าใจผิด ตนเชื่อว่าการปรับปรุงรายละเอียดของโฆษณาจะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นต่อบริษัทมากขึ้น หลังจากนี้ทางสมาคมฯ จะกลับไปหารือให้ทุกบริษัทนำคำอธิบายหลักเกณฑ์และเงื่อนไขสำคัญในสัญญามาอยู่ในหน้าแรกของกรมธรรม์จากเดิมที่อยู่ด้านใน เพื่อให้ผู้เอาประกันสังเกตง่ายขึ้น

ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก