เรียบเรียงโดย Clipmass.com
ในปี 1904 ที่เมืองแฟร์แฟค เคาท์ตี้, คลิฟตัน รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐฯ ยังเป็นถิ่นทุรกันดารมีโรงพยาบาลจิตเวชที่ควบคุมนักโทษโรคจิตไว้มากมาย แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มมีคนเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่เมืองมากขึ้น ดังนั้นจึงมีการย้ายโรงพยาบาลจิตเวชไปยังเรือนจำลอร์ตัน
แต่ในขณะที่ขนย้ายนักโทษโรคจิตกลับมีรถขนย้ายนักโทษคันหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ และมีนักโทษโรคจิต 2 คนสามารถหลบหนีไปได้และยังไม่สามารถตามจับตัวได้คือ มาร์คัส วอลสเตอร์ และ ดักลาส กริฟฟอน
ต่อมาก็มีคนพบซากกระต่ายถูกถลกหนังออกถูกแขวนห้อยลงมาจากต้นไม้มากมาย และบางตัวก็มีรอยถูกกินอีกด้วย หลังจากนั้นไม่นานตำรวจก็พบศพของ มาร์คัส วอลสเตอร์ หนึ่งในนักโทษโรคจิตที่หลบหนีถูกแขวนอยู่ใต้สะพานรางรถไฟในโคสเชสเตอร์ พร้อมทั้งบนตัวมีข้อความเขียนว่า "คุณไม่มีทางหาฉันพบ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม" ดังนั้นทางตำรวจจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นฝีมือของ ดักลาส กริฟฟอน
หลังจากนั้นมาสะพานแห่งนี้จึงกลายเป็นสะพานสยองขวัญที่มีฉายาว่า "สะพาน Bunnyman" หรือสะพานมนุษย์กระต่ายนั่นเอง และต่อมาในปี 1905 ก็มีวัยรุ่น 3 คนไปลองของ แต่กลับต้องกลายเป็นศพไป โดยสภาพศพของพวกเขามีรอยเฉือนยาวมาจนหน้าท้อง คล้ายกับลักษณะการตายของกระต่ายที่ถูกฆ่าในบริเวณนั้น ดังนั้นจึงไม่ค่อยมีคนเข้าไปใกล้กับสะพานแห่งนี้อีกเลย
แต่แล้วคืนฮัลโลวีนในปี 1906 กลับมีวัยรุ่น 7 คนไปจัดปาร์ตี้อยู่ใต้สะพาน และหนึ่งในนั้นคือ "เอเดรียน ฮาตาลา" หญิงสาวที่กลัวฝังใจกับสะพานแห่งนี้ และเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถรอดมาได้ในคืนนั้น โดยเธอเปิดเผยว่าเห็นเงาสลัวๆ เดินเข้ามาใต้สะพาน ตามด้วยเสียงกรีดร้อง จากนั้นเธอก็พบว่าเพื่อนของเธอทั้งหมดถูถแขวนอยู่ใต้สะพาน แต่หลายคนไม่เชื่อเธอทำให้เธอถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมและนำตัวส่งโรงพยาบาลจิตเวช
กลังจากนั้นมาก็มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้นที่สะพานแห่งนี้มากมาย โดยสภาพศพผู้ตายมักจะถูกแขวนทิ้งไว้ใต้สะพานเหมือนที่ผ่านมา บ้างก็ว่ากันว่าฆาตกรสวมชุดกระต่ายสีขาวถืออาวุธเป็นขวานบ้าง มีดบ้าง...จนกลายเป็นตำนานสยองขวัญไปนั่นเอง
ข้อมูลและภาพประกอบจาก