แหล่งข่างวงในเผย ผู้นำ ISIS หวั่นเอดส์ระบาดในหมู่นักรบ สั่ง 16 นักรบที่ติดเชื้อ HIV จากการข่มขืนทาสกามคนเดียวกัน ปฏิบัติงานระเบิดพลีชีพ ยืนยันมีรายหนึ่งถูกฆ่า หลังพบว่าจงใจแพร่เชื้อให้กลุ่มนักรบกันเอง
เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยเรื่องความหวาดหวั่นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส HIV หรือเชื้อโรคเอดส์ ภายในหมู่นักรบ ISIS อ้างอิงตาม ARA News สำนักข่าวอิสระของซีเรีย ที่ได้สัมภาษณ์แพทย์รายหนึ่งที่ถูกบังคับปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลของกลุ่มรัฐอิสลาม ในเมือง อัล-มายาดีน ทางตะวันออกของซีเรีย ระบุว่า โรงพยาบาลที่นี่กลายเป็นที่ตรวจหาเชื้อ กักกัน และรักษานักรบที่ติดโรคเอดส์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักเป็นนักรบต่างชาติ และในช่วงที่ผ่านมามีนักรบ 16 รายแล้ว ที่ได้รับคำสั่งบังคับให้ปฏิติการระเบิดพลีชีพ หลังทั้งหมดถูกตรวจพบว่ามีเชื้อ HIV ในร่างกาย โดยติดเชื้้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับนักโทษหญิงชาวโมรอคโค 2 คน ที่กลายเป็นทาสกามแก่กลุ่มนักรบ ซึ่งในตอนนี้หญิงทั้ง 2 รายหลบหนีออกไปยังประเทศตุรกีแล้ว ด้วยกลัวว่าจะถูกนำตัวไปสังหาร
นอกจากนี้แหล่งข่าวยังระบุว่า ที่ผ่านมามีนักรบรายหนึ่งถูกประหารชีวิตไป หลังจับได้ว่าเขาจงใจแพร่เชื้อ HIV ให้คนอื่น โดยนักรบรายนี้เป็นชาวอินโดนีเซีย มาเข้าร่วมกับกลุ่ม ISIS เมื่อเดือนกันยายน 2556 และเจ้าตัวเป็นโรคเอดส์มาอยู่แล้ว แต่เขาได้บริจาคเลือดให้กับโรงพยาบาลของกลุ่มรัฐอิสลาม ส่งผลนักรบชาวอียิปต์รายหนึ่งที่รับเลือดจากเขาติดเชื้อ นอกจากนี้ยังมีเพศสัมพันธ์กับเด็กสาวชาวยาซิดีวัย 15 ทาสกาม จนเธอติดเชื้อ และแพร่เชื้อต่อไปให้นักรบชาวซาอุดีอาระเบียอีก 2 รายที่บังคับให้เธอร่วมหลับนอนด้วย
กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้าน ISIS ชื่อ Raqqa is Being Slaughtered Silently ยังเผยอีกว่า โรงพยาบาลของ ISIS ในเมืองรักกา เผชิญภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ในการตรววจหาเชื้อ HIV มาร่วม 2 ปีแล้ว และได้ตั้งโรงพยาบาลเมืองอัล-มายาดีนขึ้น เพื่อไว้เป็นสถานที่กักกันและรักษาโดยเฉพาะ แสดงให้เห็นว่า ทางกลุ่มนักรบรัฐอิสลามเองก็มีความหวาดหวั่นต่อการติดเชื้อโรคเอดส์ในกลุ่มนักรบไม่น้อย ขณะที่กลุ่มนักรบก็เข้าข่ายมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยง ทั้งการที่ส่วนใหญ่มักเป็นบุคคลที่มีประวัติการใช้ยาเสพติดและเป็นอาชญากรมาก่อน รวมทั้งการผลัดเปลี่ยนใช้ภรรยาและทาสกามร่วมกันด้วย
ติดตามข่าว กลุ่ม isis ไอซิส แบบอัพเดททั้งหมด คลิกเลย
ภาพจาก ISIS