เจาะแจ๊ะไปกับเรื่องราวของคาวบอย

 

คาวบอย (cowboy) คือคนที่มีอาชีพเกี่ยวกับปศุสัตว์เลี้ยงวัวม้าในฟาร์มปศุสัตว์ ในทวีปอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้มีข้อถกเถียงเกี่ยวกับคำจำกัดความของ อาชีพคาวบอย บ้างก็เจาะจงที่เลี้ยงม้า เพิ่มเติมมาคือการทำงานในฟาร์มปศุสัตว์ การต้อนสัตว์ คาวบอยบางคนก็ทำแค่ต้อนสัตว์

สำหรับคนที่มีอาชีพนี้ที่เป็น เพศหญิงจะเรียกว่า คาวเกิร์ล (cowgirl)

คน ส่วนใหญ่รู้จักคำว่า คาวบอย จากหนังฮอลลีวูดที่เผยแพร่ไปทั่วโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 และโด่งดังเป็นที่นิยมกันมากในช่วง 1960 -1980 และกลายเป็นรูปแบบหนังที่ยังคงผลิตต่อเนื่องของฮอลลีวูด มาจนถึงปัจจุบันนี้ เราจะพบว่ามีหนังคาวบอยสร้างใหม่ประมาณ 2-3  ปีต่อ เรื่อง   ซึ่งมีทั้งหนังที่ใหม่จริงๆ และหนังเก่าที่นำมาสร้างใหม่

    จากหนังเหล่านี้ คนทั่วไปจึงรู้จักคาวบอยในรูปลักษณ์ของชายชาตรีใส่หมวกปีกกว้าง ขี่ม้าพกปืน อันเป็นบุคลิกลักษณะที่สง่างามสุดเท่ห์ของมนุษย์ทั้งหญิงและชาย น้อยคนที่จะไม่ประทับใจภาพลักษณ์ของพวกคาวบอย และยังเป็นเอกลักษณ์ของคนอเมริกันยุคบุกเบิก ที่เข้าไปตั้งรกรากในดินแดนป่าเถื่อนแถบตะวันตกของสหรัฐอเมริกาเมื่อร้อย กว่าปีก่อน



    ถิ่นคาวบอยในประวัติศาสตร์คือภาคตะวันตกของอเมริกา   รัฐเท็กซัส อาริโซนา คาลิฟอร์เนีย แคนซัส  โคโลราโด ดาโกตา ไวโอมิง มอนตานา และรัฐอื่นๆ ดังแสดงอยู่แผนที่สหรัฐอเมริกาที่มีรูปคาวบอยประทับอยู่ใน รูปที่ 1 หนังคาวบอยคลาสสิกส่วนมากจะเน้นเรื่องราวของคนที่มีอาชีพรับจ้างขี่ม้าต้อน วัว  หรือเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ ที่ต้องสู้กับแก๊งโจรผู้ร้าย  นายทุน หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่ชั่วร้าย หรือบางเรื่อง ก็สู้กับพวกอินเดียนแดง  หนังคาวบอยพวกนี้คือหนังคาวบอยที่แท้จริง ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 ดาราผู้โด่งดังจากหนังพวกนี้ได้แก่ ยีน ออทรี(Gene Autry) รอย โรเจอร์ (Roy Rogers) จอห์น เวย์น, คลิ๊นท์ อีสวูด(ใน ยุคเริ่มต้นแสดงหนังทีวีซีรี่)




    ระยะต่อมา มีการสร้างหนังจากประวัติมือปืน โจร หรือมือกฎหมายที่เคยมีชีวิตจริงในอดีต  เช่น บุทช์ แคชสิดี้ (Butch Cassidy), บิล ลี่ เดอะคิด, เจสสี เจมส์, วาย แอทท์ เอิร์ป  หนังพวกนี้เรามักจะเหมาเอาว่าเป็นหนังคาวบอย แต่จริงๆ แล้วน่าจะเรียกว่าหนังเวสเทิร์น(Western) ตามฝรั่ง เขามากกว่า เพราะตัวเอกไม่ได้มีอาชีพคาวบอย

ลักษณะพิเศษของคาวบอยในหนังส่วนใหญ่ก็คือ ขี่ม้าเร่ร่อน ชอบกินเหล้า เล่นการพนัน และมักมีเรื่องชกต่อยกันในบาร์ พอหนักเข้าก็ท้ากันออกไปดวลปืนกลางถนน ใครไวใครอยู่ ใครช้า ตาย และชื่นชมกันตรงความเท่ห์ของเครื่องแต่งกาย ความเก่ง ทั้งในการชกต่อย ขี่ม้า ความไวและความแม่นปืนของคาวบอยนี่เอง  ส่วน พวกโจรหรือมือปืนแม้แต่งตัวเหมือนกัน แต่อาชีพคือฆ่า ปล้น เล่นการพนัน และมักเป็นเรื่องสมมุติเสียมาก

อย่างไรก็ดี ถ้าเทียบกับหนังคาวบอยที่ผลิตสู่ตลาดตั้งแต่ปี 1930 เป็นต้นมา สำหรับคนไทยถือได้ว่าได้ดูหนังคาวบอยดีๆ น้อยมาก  มีหนังที่เข้ามาเข้าโรงฉายในไทยไม่น่าจะถึง 10%  ของที่ฉายในอเมริกา หนังคาวบอยที่เข้าโรง หรือหนังกลางแปลง ที่มีชื่อเสียงและผู้เขียนเคยได้ดูตั้งแต่สมัยเด็กๆ และยังจำได้ ได้แก่ เชน(Shane-1953), สายน้ำไม่ไหลกลับ(River of No Return-1954), Rio Bravo, How the West was Won, เจ็ดสิงห์แดนเสือ (The Magnificent Seven), ขุมทองแมกแคนน่า(Mackenna’s Gold), ตะวันเพลิง(Red Sun), Silverado, True Grit, The Shootist, The Searchers, Dances With Wolves, Unforgiven,  The Out Law Josey Walses หนังเหล่านี้บาง เรื่องจำชื่อไทยไม่ได้ และบางเรื่องไม่ทราบว่าเข้ามาฉายครั้งที่เท่าใดแล้ว เพราะมาดูข้อมูลตอนนี้ เขาสร้างตั้งแต่ผู้เขียนยังเป็นทารกอยู่ หรือยังไม่เกิดก็มี

  
  

ในยุคหนังคาวบอยอิตาลีโด่งดัง ก็มีหนังมาเข้าโรงฉายในไทยอีกจำนวนหนึ่ง ที่ประทับใจจนพอจำได้ เช่น หนังชุดของ คลิ๊นท์ อีสวูด ได้แก่ A Fistful of Dollars (1964),  For A Few Dollars More, The Good The Bad and The Augly และหนังดังอิตาลีอื่นๆ เช่น Django (1966), อย่าแหย่เสือหลับ(They call me Trinity) ภาค 1 (1970)  และ 2, Once Upon A Time in The West   อีกหลายเรื่องที่จำชื่อไม่ได้แล้ว


ตอนเป็นเด็กยังเรียนชั้นประถม ผู้เขียนโชคดีอยู่หน่อย ที่บ้านอยู่ติดค่ายทหาร คือกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 เชียงใหม่   จำได้ว่าแทบทุกคืนวันอังคาร จะมีหนังกลางแปลงของฝ่ายสวัสดิการทหารมาฉายให้ครอบครัวทหารดู เนื่องจากที่นั่นเป็นค่ายใหม่ รอบๆ ยังเป็นป่าอยู่เลย เขาคงกลัวครอบครัวทหารที่ย้ายมาอยู่ใหม่เหงา




จึง มีบริการเช่นนี้อยู่หลายปี ชาวบ้านใกล้เคียงก็เข้าไปดูได้ ผมก็เลยได้ดูหนังฟรีตลอด และในจำนวนนั้น มีหนังคาวบอยคลาสสิกอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เด็กๆ แถวนั้น รู้จักเล่นยิงปืน แบ่งพวกสู้กัน เลียนแบบหนังคาวบอยหรือหนังสงครามตั้งแต่นั้น


 

ลักษณะ หนังคาวบอยอเมริกัน

    หนังคาวบอยอเมริกันที่มีคุณภาพ ส่วนใหญ่จะ เน้นเรื่องคุณธรรมของลูกผู้ชาย ความเป็นสุภาพบุรุษ การเสียสละปกป้องความยุติธรรม การปกป้องช่วยเหลือผู้ที่อ่อนแอกว่า แสดงให้เห็นความตื่นเต้นจากการแสวงโชคและผจญภัยในดินแดนตะวันตก หนังคาวบอยจำนวนหนึ่งสร้างจากตำนานตะวันตก เช่น Red River, How the West was Won, Into The West, The Chisholms, Ghost Riders in the Sky, บัฟฟาโล บิลล์  บิลลี่ เดอะคิด, เจสสี เจมส์, ไวแอตต์ เอิร์ป, และบางเรื่องเน้นถ่ายทอดเรื่องราวการเสียสละของวีรบุรุษในประวัติศาสตร์ยุค บุกเบิกอเมริกา



เช่น ศึกอะลาโม ประวัติการต่อสู้ของนายพลคัสเตอร์  การต่อสู้ และคุณธรรมน้ำมิตรระหว่างคนขาวกับอินเดียนแดง  เช่น The Indian Fighter(ขุมทองอินเดียนแดง). Into The West, Broken Arrows หนังพวกนี้ส่วนใหญ่เน้นให้เห็นความดีความชั่ว ให้เห็นว่าการใช้ปืนฆ่าคนนั้นไม่ใช่สิ่งดีเสมอไป และจะใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น  มีหนังที่ดีมากเรื่องหนึ่ง พระเอกไม่ยอมยิงปืนแม้แต่นัดเดียว แต่ก็สนุกได้รสชาติจนได้รางวัล คือเรื่อง The Big Country (สองสิงห์จ้าวปฐพี)



    นอกจากนี้ หนังคาวบอยอเมริกันยุคต้นๆ ตั้งแต่ปี 1930-1955 ซึ่งเป็นยุคของ ยีน อาทรี (Gene Autry) และ รอย โรเจอร์ส (Roy Rogers) และวงดนตรีที่รอยตั้งขึ้นชื่อ “Sons of the Pioneers”  ซึ่งเป็นยุคที่เรียกว่า Singing Cowboy คือ นักแสดงจะเป็นนักร้อง นักแสดงในตัว ใช้ชื่อตนเองในหนังทุกเรื่อง สร้างเอง แสดงเอง ยิ่งเน้นเรื่องคุณธรรมและความสนุกสนานแบบละครเวที โดยคิดถึงผลที่จะเกิดกับแฟนหนังที่เป็นเด็กๆ อย่างมาก จนกลายเป็นต้นฉบับของหนังคาวบอยชั้นดีในยุคหลัง



    โดยทั่วไป จะเห็นได้ว่า หนังคาวบอยอเมริกันที่มีคุณภาพ เป็นหนังที่ช่วยสร้างจิตวิญญาณของสุภาพบุรุษและความอยากเป็นฮีโร่ ในชายหญิงทุกคนที่ชอบหนังประเภทนี้   รวมทั้งช่วย อัดฉีดความรักในทุ่งโล่งและสัตว์เลี้ยง เช่น ม้า วัว ส่งเสริมความรักในการผจญภัยเพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีกว่า เหมือนคนอเมริกันยุคบุกเบิก ซึ่งทำให้ชาติของเขาเจริญก้าวหน้าจนเป็นอันดับหนึ่งของโลกในหลายๆ ด้าน

 

ความ หมายของคำว่า “คาวบอย”

    ก่อนอื่นเรามาดูความหมายของคำว่า คาวบอยอย่างเป็นทางการสักนิด  จากพจนานุกรม “American Heritage Dictionary” ให้ความหมายขอวงคำว่า cowboy ไว้ว่า

1.    A hired man, especially in the western United States, who tends cattle and performs many of his duties on horseback. Also called cowman, cowpoke, cowpuncher, also called regionally buckaroo, vaquero, waddy.  See Regional Note at vaquero.

2.    An adventurous hero.

3.    Slang. A reckless person, such as a driver, pilot, or manager, who ignores potential risks.

    ถอดความออกมาได้ว่า คาวบอย มีความหมายได้ 3 แบบคือ

1.    คน รับจ้างในแถบตะวันตกของอเมริกา โดยเฉพาะพวกที่ทำงานส่วนใหญ่ตามหน้าที่บนหลังม้า โดยมีชื่อเรียกอย่างอื่นอีกหลายคำ เช่น คาวแมน, คาวโพก, คาวพั๊นเชอร์, และยังมีคำเรียกเฉพาะบางพื้นที่ เช่น  บั๊กการู, วาเคโร และ วาดดี้

2.    วีระบุรุษผู้ นิยมการผจญภัย

3.    คำแสลง หมายถึงพวกบ้าบิ่น เช่น คนขับรถ, นักบิน หรือ ผู้จัดการ ที่ไม่สนใจความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้


 

    นอกจากนี้ พจนานุกรมอื่นๆ ก็ให้ความหมายที่คล้ายกัน  และอาจมากกว่านี้ ในแง่การใช้คำว่า คาวบอย เป็นกริยา ที่มีความหมายว่า การทำงานเป็นคาวบอย (to work as a cowboy)


    ในพจนานุกรม  วิกี้พิเดีย อธิบายลักษณะคนที่ถูกเรียกว่าคาวบอยและที่มาของคำว่าคาวบอยอย่างละเอียด เนื้อหาต่อไปนี้ส่วนใหญ่นำมาจากพจนานุกรมออนไลน์ฉบับนี้ซึ่งเขียนไว้ดีมาก



    ที่น่าสนใจก็คือ คำว่า “คาวบอย(cowboy)“ ซึ่งเกิดจากการนำคำว่า cow มารวม กับคำว่า boy ปรากฏในภาษาอังกฤษครั้งแรก ประมาณปี ค.ศ. 1715-25 โดยเป็นการแปลความหมายมาจากคำว่า วาเคโร(vaquero ออกเสียงสำเนียงสเปนว่า บาเกโร) ในภาษาสเปน ซึ่งหมายถึง คนขี่ม้าเลี้ยงวัว  คำ ว่า vaquero มาจากรากศัพท์ภาษาเสปนว่า vaca ที่แปลว่า วัว (cow) นอก จากนี้ภาษาอังกฤษอีกคำที่แปลว่าคาวบอย ก็คือ บั๊กการู(buckaroo) นั้น ว่ากันว่า เพี้ยนมาจากคำว่า วาเคโร นั่นเอง แต่เป็นการออกเสียงแบบภาษาสเปนสำเนียงอาหรับ

 

 

คาวบอยตัวจริง วายแอ็ท เอิ๊ร์ป




นั้น ตอนเกิดมีชื่อเต็มๆว่า วายแอ็ท เบอร์รี่ สแต๊ป เอิ๊ร์ป
(Wyatt Berry Stapp Earp) มีเชื้อสายเป็นชาวสก๊อต ปู่และพ่อเป็นนัก
กฎหมายที่แต่เดิมตั้งรกรากอยู่ ในรัฐ เคนตั๊คกี้ แต่ นิโคลัส เอิ๊ร์ป ผู้เป็นพ่อหัน
มาบุกเบิกเรื่องเกษตรกรรมในภายหลัง และได้ย้ายถิ่นฐานไปอยู่ที่รัฐ
อิลลินอยส์ หลังจากนั้นได้เข้าร่วมรบในสงครามแม็กซิกัน เมื่อสงครามเลิก
กลับมาบ้าน ก็ตั้งชื่อลูกชายคนใหม่ซึ่งเกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม ค.ศ. 1848
ตามชื่อผู้ บังคับการของตัวเองเมื่อครั้งไปรบนั้นด้วยความภูมิใจอย่างที่สุดว่า
วายแอ็ท เบอร์รี่ สแต๊ป ส่วนลูกชายจะภูมิใจด้วยหรือเปล่านั้นก็น่าสงสัยอยู่

วายแอ็ท มีพี่ชาย3คนได้แก่ นิวตั้น, เจมส์ และ เวอร์จิล มีน้องชาย 2 คน
ได้แก่ มอร์แกน และ วอร์เรน น้องสาวอีก 1 คนชื่อ แอดีเลีย พี่ชายคนหนึ่งคือ
เวอร์จิ ล และน้องชายที่ชื่อ มอร์แกน นั้น เมื่อโตแล้วก็ยังใกล้ชิดกันและ
ใช้ชีวิตผจญภัยดวลปืนกับเหล่าร้ายอย่างดุเดือดร่วมกันอีกด้วย โดยได้เข้า
ร่วมแจมกับวายแอ็ท ในการดวลครั้งประวัติศาสตร์ที่คอกปศุสัตว์ชื่อว่าโอเค
คระราล (OK Corral) เมืองทูมบ์สโตนในรัฐ อริโซนา เมื่อปี ค.ศ.1881
อันจะได้กล่าวถึงในภาย หลังอีกทีนึง



พ่อของวายแอ็ทได้ย้ายนิวาสถานอีกหลายหน เมื่อเกิดสงครามกลาง
เมืองขึ้นในปี ค.ศ. 1861 นั้น พี่ชายทั้ง 3 ได้ออกรบ ส่วน วายแอ็ท ถึงจะไม่ได้
้ไปเนื่องจากเพิ่ง12 ขวบ (คงเพราะสมัยนั้นยังไม่มีกองกำลังก๊อดอาร์มี่
กระมังครับ) แต่ก็ไม่ยอมอยู่เฉย ตอนเย็นเมื่อเสร็จงานในไร่แล้วก็จะนำทั้ง
ปืน สั้นและยาวของพ่อมาฝึกฝนจนแม่นยำ โดยใช้อีแร้งกับกระต่ายป่าเป็นเป้า

พออายุ 17 วายแอ็ท ก็ไปรับจ้างขับรถม้าโดยสารระหว่างเมือง ลอส
แอ งเจลีส กับ ซาน เบอร์นาร์ดิโน ความที่ฝีมือดีและขยันขันแข็ง ก็ได้รับ
ความไว้วางใจให้ไปขับรถสายอริโซนา ที่ต้องเสี่ยงกับโจรและอินเดียนแดง
เผ่าอปาชีอีก




ปรากฏว่าวายแอ็ทใช้ฝีมือแม่นปืนทั้งสั้นและยาว คุ้มครองรถม้าให้อยู่รอด
ปลอดภัยมาได้ตลอด หลังจากนั้นก็ก้าวหน้าในอาชีพไปเรื่อยๆ จนเมื่ออายุ
ยังไม่ถึง 20 ก็ได้เป็นถึงหัวหน้ากองสอด แนมในการรบกับอินเดียนแดง
ให้กับกองทหารม้าประจำ เขตตะวันตกเฉียงใต้

หลังจากย้ายกลับไปอยู่ มิสซูรี่ และโชคร้ายต้องสูญเสียภรรยาสาวไปเพราะ
โรค ไทฟอยด์ วายแอ็ทก็ตัดสินใจออกผจญภัยในทุ่งกว้างอีกครั้ง สมัครเข้า
เป็นอาสาล่าควายเดินทางไปกับคณะสำรวจของรัฐบาลที่กำลังทำแผนที่
ในแถบรัฐ แคนซัส ค่าจ้างในขณะนั้นคือปี ค.ศ.1870 ว่ากันว่าตกวันละ 35
เหรียญ บวกด้วย 10 เซ็นต์ ต่อปอนด์สำหรับเนื้อควาย นับว่าไม่เบาทีเดียว
เลยนะครับ

 




แบ๊ท ม้าสเตอร์สัน คาวบอยมาดลูกกรุง




แบ๊ท เกิดในครอบครัวชาวไร่ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของ ทอม กับ แคเธอรีน มีพี่น้อง
รวมกันทั้งหมด 5 คน พี่ชายคนโตชื่อ เอ๊ด และน้องชายคนถัดไปชื่อ จิม อีก 2 คน
ไม่ทราบชื่อ  แบ๊ทเติบโตในหลายแห่ง ตามพ่อแม่ซึ่งย้ายถิ่นฐานไปอยู่ในรัฐนิวยอร์ค 
อิลลินอยส์ แล้วในที่สุดก็มาปักหลักอยู่ที่แคนซัสแถวๆเมืองวิชิต้า

พอถึงปี ค.ศ.1871 อายุได้แถวๆ 16 ปี แบ๊ทรู้สึกเบื่อที่จะใช้ชีวิตชาวไร่ จึงได้ชักชวน
พี่ชาย เอ๊ด และน้องชาย จิม ออกผจญภัยในดินแดนตะวันตก พิจารณาดูจะเห็นว่า
แบ๊ทนั้นคล้ายกับวายแอ็ท เอิ๊ร์ปเหมือนกัน คือถึงจะออกจากบ้านมาแล้ว ก็ยังใช้ชีวิต
ร่วมเป็นร่วมตายกันกับพี่น้องอยู่ และในที่สุดคนหนึ่งก็จะตายจริงๆด้วยเหมือนกัน



แบ๊ทกับพี่น้องเริ่มชีวิตการผจญภัยในดินแดน
ตะวันตกด้วยอาชีพล่าควาย เริ่มจากในทุ่งหญ้าเขตตะวันตกเฉียงใต้ของแคนซัสซึ่ง
ไม่ไกลจากบ้านนักก่อน

จากนั้น แบ๊ทกับเอ๊ดพี่ชาย ก็เปลี่ยนไปทำงานกับบริษัทผู้รับเหมาสร้างทางรถไฟสาย
แอ๊ทชิสัน โทปีก้า และ ซานตาเฟ่ ทำให้มีโอกาสได้สัมผัสกับเมือง ด๊อดจ์ ซิตี้
(Dodge City) ซึ่งขณะนั้นเป็นเพียงชุมชนเล็กๆที่พวกคนงานมาตั้งแค้มป์รวมอยู่
ด้วยกันและเป็นจุดค้าขายส่งควายขึ้นรถไฟไปขายต่อที่อื่น แบ๊ทเป็น
คนชอบสนุกสนาน ส่วนเอ๊ดป็นผู้มีอัธยาศัยดี

แต่ทั้งสองก็คง ความเข้มแข็งเด็ดขาดเมื่อถึงเวลาเช่นกัน ครั้งหนึ่งถูกผู้รับเหมาเบี้ยว
ค่าแรงหลังจากทวงแล้วทวงอีกไม่สำเร็จ ก็ยังใช้ไม้แข็งเอาปืนจี้เก็บเงินมาจนได้
เป็น ที่ครั่นคร้ามของบรรดานักเลงต่างๆพอสมควร ฝ่ายจิมน้องชายนั้นค่อนข้างจะมี
นิสัยโมโหง่าย และไม่ค่อยสนใจงานสมาคมนัก จึงไม่ค่อยได้มาร่วมวงด้วย

 

 

ด๊อค ฮอลิเดย์ มือปืนประชดชีวิต



"เป็นเซียนพนันที่หาตัวจับยากที่สุด และเป็นนักเลงปืนหกนัดที่บ้าบิ่นที่สุด ไวที่สุด แล้วก็อันตรายที่สุดที่เคยเห็นมา"
วายแอ็ท เอิ๊ร์ป เป็นผู้กล่าวข้อความนี้เมื่อพูดถึง ด๊อค ฮอลลิเดย์

"ลักษณะเด่นที่สุดของ ด๊อค ฮอลลิเดย์ ก็คือ ความกล้าหาญไม่เคยเกรงกลัวอะไรเลย และความจงรักภักดีที่มีต่อต่อ
วายแอ็ท เอิ๊ร์ป อย่างเสมอต้นเสมอปลาย" อันนี้เป็นคำกล่าวของ แบ๊ท ม้าสเตอร์สัน



"ไอ้ปอดเน่าตัวแสบ" เป็นคำที่ ไอ๊ค์ แคลนตัน ใช้เรียก ด๊อค ฮอลลิเดย์ ก่อนที่จะพาน้องชายและพรรคพวกอีก 2 คน
ไปตายในการดวลปืนกับพี่น้องเอิ๊ร์ปและ ด๊อค ฮอลลิเดย์ ที่ โอเค คระราล

"ฮอลลิเดย์เป็นผู้ที่ได้ รับการกล่าวขานกันว่าเป็นนักสู้ เคยเก็บกวาดพวกโจรและเหล่าร้ายลงหลุมไปแล้วหลายคน"
ประโยคนี้ตัดตอนมาจากข่าวในหนังสือพิมพ์ เดอะ เดนเว่อร์ รีพับลิกัน ฉบับประจำวันที่ 22 มีนาคม 1882

"ความที่รู้ตัวว่ากำลังจะตาย ก็เลยทำอะไรหลายอย่างที่หากเป็นปกติแล้วคงไม่กล้าทำ" เป็นข้อสังเกตของนักประวัติ
ศาสตร์ชาวอริโซน่า นามว่า เบ็น ที. เทรย์วิค เขียนไว้ในหนังสือประวัติชีวิตของ ด๊อค ฮอลลิเดย์


cowboy action shooting 2


cowboy action shooting 3


cowboy action shooting 4


cowboy action shooting 5


cowboy action shooting 6


cowboy action shooting 7


cowboy action shooting 8


cowboy action shooting 9


cowboy action shooting 10


cowboy action shooting 11

 

cowboy action shooting 12

คัดลอกข้อมูลจาก

www.trianglecranch.com

www.thailandoutdoor.com

www.gettawa.com

www.davidscottharper.com

www.bloggang.com

 www.curtrich.com
Credit: http://atcloud.com/stories/72857
#คาวบอย
Messenger56
นักแสดงรับเชิญ
สมาชิก VIP
24 พ.ค. 53 เวลา 22:15 7,739 4 54
แชร์สกู๊ป
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...