ภาพจาก DoublePHOTO studio / Shutterstock
ก้มหน้าเล่นสมาร์โฟน แท็บเล็ตนาน ๆ เสี่ยงต่ออาการ ปวดศีรษะ เหตุกล้ามเนื้อปวดเกร็งจากการก้มหน้านาน ๆ แถมกระดูกต้นคอยังต้องรับน้ำหนักมากกว่าปกติถึง 6 เท่า
ในยุคสมัยที่การใช้งานสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก ที่แต่ละคนต่างก็ก้มหน้าก้มตาใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้กันตลอดวัน เชื่อว่าหลายคนคงอาจไม่รู้ตัวเลยว่า พฤติกรรมดังกล่าวอาจนำมาซึ่งอาการผิดปกติอย่าง การปวดศีรษะ เนื่องจากการอยู่ในท่าทางที่ไม่เหมาะสมเป็นเวลานาน จนส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบประสาทและกระดูกต้นคอ
โดยเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2558 ร.ท. นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้ข้อมูลว่า อาการปวดศีรษะเป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ซึ่งการใช้งานสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ ที่มากเกินไปหรือใช้งานอย่างไม่ถูกท่านั้น ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้เช่นกัน เนื่องจากการก้มหน้าเป็นเวลานานจะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณคอเมื่อยล้า หรือเกิดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อขึ้นมาเป็นก้อน อาการปวดที่กล้ามเนื้อคอนี้อาจส่งความปวดไปยังส่วนอื่นที่ใกล้เคียง เช่น ท้ายทอย ขมับ รอบกระบอกตา หน้าผาก และส่วนอื่น ๆ โดยเป็นรู้จักกันดีในชื่อ กลุ่มอาการปวดจากกล้ามเนื้อเกร็ง (Myofascial pain syndrome (MFS))
นอกจากนี้ การก้มหน้ายังทำให้กระดูกต้นคอรับน้ำหนักมากกว่าปกติถึง 6 เท่า จนเกิดภาวะกระดูกคอเสื่อมก่อนวัย หรืออาจถึงขั้นหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทได้ ซึ่งในกรณีนี้ถ้าไปกดทับเส้นประสาทสมองระดับที่ 1-4 ก็อาจเกิดอาการปวดศีรษะที่บริเวณท้ายทอย ด้านข้างศีรษะ ขมับ กระบอกตา หน้าผาก รวมถึงกลางกระหม่อม โดยทางการแพทย์จะเรียกโรคนี้ว่า โรคปวดศีรษะจากความผิดปกติของคอ (Cervicogenic headache)
ขณะที่แสงจากหน้าจอยังสามารถกระตุ้นให้คนที่เป็นโรคไมเกรนอยู่แล้ว เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบเฉียบพลันขึ้นมาได้อีก อีกทั้งกล้ามเนื้อที่มีอาการเกร็งปวดบริเวณคอและศีรษะ ยังกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแบบรุนแรงเฉียบพลันได้อีกด้วย ดังนั้นจึงควรใช้งานสมาร์ทโฟน หรือคอมพิวเตอร์ อย่างเหมาะสม อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก