http://variety.teenee.com/foodforbrain/71273.html
"แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด" หลายคนคงจะจำประโยคนี้ได้จากสุนทรภู่ หลายๆคนคงคิดว่าบทความนี้มันอยุ่แค่ในบทประพันธ์ แต่คุณๆเคยรู้ไหมว่าจะมีคนไข้ที่อยู่ในตำนานคนหนึ่งที่มีอาการคล้ายกับประโยคข้างบนนี้เลย วันนี้ teenee.com จะขอพาทุกคนไปทำความรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งในตำนานที่ถูกเรียกว่าเป็น "ผู้หญิงที่มีจิตใจซับซ้อนที่สุดในโลก" ผู้ที่พลิกโฉมเปลี่ยนแปลงวงการแพทย์ของโลก!!!
นางมีชื่อว่า Shirley Mason ป่วยเป็นโรค Multiple Disorder หรือที่หลายๆคนรู้จักกันในชื่อว่า โรคหลายบุคลิก เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 1970 ในสมัยนั้นทางการแพทย์ยังไม่มีการรองรับด้วยว่าโรคนี้เป็นโรคทางจิตที่ต้องรักษา ทำให้อาการของนางยิ่งซับซ้อนรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้มาพบกับคุณหมอ Wilbur คนที่รักษานางด้วยเซรุ่มเค้นความจริง ระหว่างการรักษาก็ได้มีการบันทึกบทการสนทนานี้เอาไว้ด้วย จากการที่รักษาด้วยการใช้ยาเซรุ่มนี้ไปได้เพียง 10 นาที ก็ทำให้ได้เห็นถึงความประหลาดบางอย่าง เมื่อเธอเริ่มพูดจาแปลกๆ เช่น เธอกำลังอยู่กับผู้หญิงอีกคน
บทสนทนาโดยประมาณ
หมอ - คุณคุยอยู่กับใคร รู้จักชื่อเค้าไหม?
คนไข้- ไม่ ฉันไม่รู้จักชื่อของเค้า แต่ฉันไม่ได้เห็นเธอมานานมากแล้ว
หมอ- เธอกำลังจะทำอะไรคุณ
คนไข้- เธอคุยกับฉัน
หมอ- คุยเรื่องอะไรกัน
คนไข้- ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย
หมอ- โอเคงั้นเริ่มใหม่ ตัวของเธอชื่ออะไร
คนไข้- ฉันชื่อ Shirley
หมอ- อายุล่ะ
คนไข้- 11 ขวบ
.................
เมื่อมาถึงจนนี้หมอถึงออกอาการสับสนกับตัวตนของคนไข้ และนี่ก็เป็นเพียงเทปการสัมภาษณ์แบบคร่าวๆ เพราะแค่นี้หมอก้ได้พบความจริงที่น่าตกใจแล้ว่าเธอมีความซับซ้อนร่วมกันอยู่ถึง 16 นิสัยอยู่ในคนๆเดียวกัน พูดง่ายๆก็คือเหมือนว่าเธอจะคุยกับใครสักคนอยู่ตลอดเวลา หมอจึงตั้งข้อสงสัยถึงสาเหตุนี้ไว้ว่าเธอน่าจะมีปัญหาที่ซ่อนอยุ่ในจิตใจอันซับซ้อนเพราะในวัยเด็กเธอถูกแม่กระทำสิ่งอันเลวร้ายใส่มากมาย และจากเรื่องราวของเธอได้ถูกทำออกมาเป็นหนังสือที่ชื่อว่า Sybill ถูกจำหน่ายไปแล้วกว่า 6,000,000 เล่ม และเพราะเรื่องราวของเธอถูกแพร่หลายออกไปทำให้ โรคบุคลิกซับซ้อน กลายเป็นเรื่องจริงจังที่วงการแพทย์ทั่วโลกต่างก็ให้ความสนใจ และมีคนไข้กล้าที่เข้ารับการรักษาอาการนี้ถึง 1,000 ราย ทุกวันนี้เรื่องราวของ Sybill ยังได้มีการทำเป็นซีรี่ย์ เพื่อยกย่องเธอในฐานะคนไข้ระดับตำนานที่เปลี่ยนแปลงวงการแพทย์ของโลก!!!
ขอบคุณคลิปจาก ::: youtube :: The New York Times
เครดิต: เนื้อหาโดย :
โพสโดย :Nu-Bird (ทีมงาน TeeNee.Com)