หลายคนมักจะตั้งคำถามว่านักเดินทางนั้นได้อะไรจากการเดินทางท่องเที่ยว เพราะมันมีแต่จะทำให้ต้องควักเงินในกระเป๋าออกไป แต่เชื่อหรือไม่ว่าคนที่เขาเดินทางด้วยใจรักนั้น มักจะได้บางสิ่งบางอย่างกลับมาคุ้มค่าเกินกว่าเงินที่เสียไปเสียอีก Annie Daly เธอเป็นหนึ่งในทีมงานของเว็บไซต์ buzzfeed เธอได้รวบรวมเหตุผลว่าเหตุใดเราควรจะออกไปหาประสบการณ์ในโลกใบใหม่ หากคุณได้อ่านมันรับรองได้เลยว่าคุณจะต้องรีบแพ็กกระเป๋าและจองตั๋วเครื่องบินแน่นอน จะมีอะไรบ้างไปชมกัน
1. การท่องเที่ยวจะพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ การศึกษาของ Academy of Management Journal พบว่าคนที่ทำงานต่างบ้านต่างเมืองจะมีความคิดสร้างสรรค์มากกว่าคนที่ทำงานอยู่แต่ในประเทศของตัวเอง เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะว่าคนที่ทำงานอยู่แต่ในประเทศตัวเองจะได้รับรู้แต่วัฒนธรรมเก่า ๆ มองเห็นแต่สิ่งแวดล้อมเก่า ๆ มันจึงทำให้กลุ่มคนที่ทำงานอย่างเดียว ไม่ออกไปหาประสบการณ์ยังสถานที่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง ไม่มีการพัฒนางานให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไปหรือไม่มีอะไรแปลกใหม่เข้ามาในตัวงาน แต่คนที่ทำงานหรือมีโอกาสไปเรียนรู้วัฒนธรรมที่อื่น ๆ จะเห็นอะไรที่แตกต่างและมากขึ้น จึงสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาประยุกต์จนเกิดเป็นสิ่งใหม่ ๆ ทั้งด้านการเรียนและตัวงาน แล้วแบบนี้เราจะยังควรนอนคุดคู้อยู่แต่ในบ้านอีกไหม ออกไปหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ได้แล้ว
2. ทำให้อดทนมากขึ้น เหตุการณ์ต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้นเพื่อให้เราได้แก้ปัญหาและฝึกความอดทนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการต้องนั่งรอนาน ๆ ก่อนที่เครื่องบินจะออก การต้องตามล่าหาฟรีอินเทอร์เน็ตไร้สายทั่วเมืองที่ไปเที่ยว การยืนรอต่อคิวเพื่อเข้าชมสถานที่สุดฮิต หรือแม้กระทั่งการอดทนต่อความหิวเพื่อรอคิวเข้าไปลิ้มรสอาหารพื้นเมืองจากร้านดัง ซึ่งเมื่อผ่านพ้นสิ่งเหล่านี้ไปเราก็จะกลายเป็นคนที่มีความอดทนมากขึ้น และที่สำคัญยังทำให้เรารู้วิธีรับมือที่จะทำอย่างไรให้ไม่เบื่อเมื่อต้องอดทนรอคอยบางสิ่งบางอย่างนาน ๆ อีกด้วย
3. คุณจะเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเรียน หรือการท่องเที่ยวในต่างแดน เพียงแค่คุณก้าวออกไปจากที่ที่คุณคุ้นเคย ไปสู่โลกที่ไม่คุ้นชิน มันก็จะทำให้คุณต้องตื่นตัวตลอดเวลา และพร้อมที่จะรับมือกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ในทุกรูปแบบ เพราะในต่างแดนจะไม่มีใครมาให้ความช่วยเหลือคุณเหมือนตอนอยู่บ้าน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก เมื่อเกิดปัญหาในเบื้องต้นก็ต้องใช้สมองอันน้อยนิดนี่แหละช่วยคิดแก้ไขเสียก่อน ซึ่งมันเหมือนกับการบังคับคุณเสียด้วยว่าต้องแก้ปัญหาให้ได้ด้วยตัวเอง นี่แหละที่จะทำให้คุณเข้มแข็งและแข็งแกร่ง พร้อมเผชิญกับปัญหาในทุกรูปแบบจริง ๆ
4. ทำให้คุณอ่อนน้อมถ่อมตน การไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง ไม่มีใครที่สามารถพูดกับเราได้เข้าใจ หรือให้ความช่วยเหลือได้เท่ากับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทมิตรสหาย มันจะทำให้เราเรียนรู้ที่จะเข้าสังคมใหม่ และการที่จะเข้าไปยังสังคมใหม่ได้นั้น เริ่มแรกคุณก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน จะไปวางกล้ามหรือเบ่งว่าพ่อข้าใหญ่เหมือนตอนอยู่บ้านเกิดตัวเองก็คงจะไม่มีใครสนใจ เพราะไม่มีใครรู้จักฐานะทางสังคมของคุณเมื่ออยู่ในประเทศหรือในเมืองของคุณ โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้ว ประชาชนทุกคนจะมีความเท่าเทียมกัน แต่เขาจะให้เกียรติซึ่งกันและกัน รักษามารยาททางสังคมต่อกันได้อย่างดีเยี่ยม เพราะฉะนั้นการออกไปเจอโลกใหม่ ๆ คุณก็จะได้ความอ่อนน้อมถ่อมตนกลับมาด้วย
5. เปิดกว้างได้รับและทำสิ่งใหม่ ๆ คงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้เล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดกับหิมะจริง ๆ ในเมืองไทย เพราะฉะนั้นเมื่อคนที่มีโอกาสได้ไปเยือนประเทศที่มีหิมะในฤดูหนาว จึงไม่พลาดที่จะทำกิจกรรมเหล่านี้ เป็นการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เป็นประสบการณ์ที่ต้องจำไปตลอดชีวิต ในอีกมุมหนึ่งเมื่อฝรั่งมาเที่ยวบ้านเรา เขามีโอกาสได้สัมผัสกับช้าง ได้ขี่ช้าง ซึ่งมันไม่สามารถทำได้ในบ้านเมืองเขา มันก็เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่กับชีวิตของเขาเช่นกัน เพราะฉะนั้นออกไปตามล่าหาสิ่งที่ไม่มีในบ้านตัวเอง ให้ได้ลองทำ ได้เรียนรู้ ก็จะทำให้ชีวิตมีสีสันไม่น้อยเลยทีเดียว
6. คุณจะเป็นคนที่เจ๋งมาก ลองนึกดูสิว่าคุณได้เล่าเรื่องราวการเดินทางสุดประทับใจ ที่ได้ทั้งสูดอากาศบริสุทธิ์ ฟังเสียงทะเลและนกร้อง พร้อมทั้งสัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย ให้กับเพื่อนร่วมงานของคุณที่ยังคงนั่งสูดอากาศจากเครื่องปรับอากาศในออฟฟิศ คุณจะกลายเป็นคนที่เจ๋งมากแค่ไหน และมันไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะการออกไปเที่ยวพักผ่อน จะทำให้ร่างกายของคุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ คุณก็จะสามารถทำงานได้ดี เจ๋งทั้งการใช้ชีวิตและเจ๋งทั้งเรื่องงานอีกด้วย
7. เปลี่ยนคุณเป็นคนใหม่ เมื่อการได้ไปพบเห็นสิ่งที่แตกต่างจากสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ ที่เคยเห็น สิ่งที่ไม่คุ้นชินตาหรือความรู้สึก มันจะทำให้คุณเกิดแรงบัลดาลใจ อยากที่เปลี่ยนแปลงตัวเอง บางประเทศพนักงานออฟฟิศจะมีพฤติกรรมการทำงานที่เคร่งเครียดเมื่ออยู่ในเวลางาน เขาจะทำมันสุดความสามารถและเต็มที่ แต่เมื่อหมดเวลางานแล้ว เขาจะทิ้งทุกอย่างไว้ในออฟฟิศ แล้วไปใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ นั่นจึงทำให้พวกเขาทำงานได้อย่างมีความสุข ซึ่งอาจจะแตกต่างจากวัฒนธรรมในบ้านเราที่ชอบทำงานล่วงเลยเวลา แต่ในเวลางานกลับทำไม่เต็มที่ ปล่อยเวลาให้เลยผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์ การออกไปเห็นสิ่งเหล่านี้ก็จะทำให้เราได้เปลี่ยนแปลงตัวเองเช่นกัน
8. ไม่มีคำว่า "กลัว" อยู่ในใจ การออกไปผจญภัยกับโลกกว้าง มันจะทำให้คุณก้าวพ้นกำแพงคำว่ากลัวออกไปได้ง่ายมากขึ้น เมื่อคุณต้องไปยืนอยู่ในต่างที่ต่างถิ่น เสียงที่เกิดขึ้นในใจจะมีเพียงแค่ 'ลองสิ' กล้าที่จะเดินไปในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะหลงมากแค่ไหน คุณก็จะรู้สึกสนุก เพราะมันทำให้คุณได้พบกับเส้นทางใหม่ ๆ ร้านกาแฟที่อยู่ในซอกหลืบสุดอร่อย หรือมุมถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร และเมื่อคุณกลับมายังบ้านเกิด มันก็จะทำให้คุณติดนิสัยแบบนั้นกลับมา จึงกล้าที่จะเผชิญกับทุก ๆ สิ่ง กล้าทำสิ่งที่แตกต่าง และกล้าที่จะออกเดินทางอีกหลายร้อยพันครั้ง
9. ระดับความสุขเพิ่มขึ้นสูงปรี๊ด แค่การที่ไม่ต้องรีบตื่นนอนเพื่อไปผจญกับการจราจรที่ติดขัดในเมืองใหญ่ เท่านี้ก็ทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นมากแล้ว แต่การออกเดินทางไปเที่ยวมันจะทำให้คุณได้รับความสุขมากกว่านั้น เพราะมันจะทำให้คุณได้ยินเสียงนกที่อยู่บนต้นไม้ได้อย่างชัดเจน ได้สัมผัสกับลำธารหรือทะเลเย็นฉ่ำ ได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ ได้ทานอาหารแปลกใหม่ ทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ ได้คุยกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จัก จนกลายเป็นสหายที่ดีอีกคนในชีวิต ฯลฯ แล้วแบบนี้จะไม่เรียกว่ามีความสุขถึงขั้นขีดสุดได้อย่างไร
10. คุณจะรู้ว่าคุณยังหายใจ เมื่อได้ออกไปยังอีกโลกหนึ่ง ประสบการณ์ต่าง ๆ จะไหลพรั่งพรูเข้ามาหาเรามากมาย นั่นจึงให้ชีวิตที่เคยเฉื่อยชาได้กลับมาชีวิตชีวาอีกครั้ง รู้สึกกระปรี้กระเปร่า ต้องตื่นตัว และอยากที่จะเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ทั้งระบบหายใจและความคิดก็จะกลับมาทำงานอย่างมีความสุขอีกครั้ง แล้วคุณล่ะไม่อยากกลับมาหายใจอีกครั้งหรือ ไม่ว่าจะการเดินทางใกล้หรือไกล เชื่อได้เลยว่ามันจะทำให้คุณได้รับสิ่งเหล่านี้แน่นอน แค่ขอให้เปิดโอกาสให้กับตัวเองได้เดินก้าวออกจากประตูบ้าน และเดินไปบนทางเดินที่ไม่คุ้นเคย คุณก็จะได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย แล้วจะรออะไรเก็บกระเป๋าไปล่าขอบฟ้ากันดีกว่า
ที่มา: http://travel.kapook.com/view124871.html