ประสบการณ์หนีตายจากเงื้อมมือไอเอสของเกย์หนุ่มชาวอิรัก

ประสบการณ์หนีตายจากเงื้อมมือไอเอสของเกย์หนุ่มชาวอิรัก

ทาอิม นักศึกษาแพทย์วัย 24 ปี เปิดเผยประสบการณ์อันโหดร้ายในช่วงที่เขาต้องหลบหนีออกจากอิรักไปยังเลบานอน เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) สังหารเพียงเพราะเขามีรสนิยมชอบคนเพศเดียวกัน

ทาอิม เล่าว่า ในสังคมอิรัก การเป็นเกย์หมายถึงความตาย และเมื่อกลุ่มไอเอสสังหารเกย์ คนส่วนใหญ่มักเห็นดีเห็นงามและชอบใจ เพราะมีความคิดว่าการรักชอบคนเพศเดียวกันเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ซึ่งตัวเขาเองเริ่มรู้ว่าชอบผู้ชายด้วยกันเมื่ออายุราว13-14 ปี และต้องการกลับไปเป็นปกติจึงเข้ารับการบำบัด ซึ่งนักบำบัดได้แนะให้เขาขอกำลังใจและการสนับสนุนจากเพื่อนๆ ด้วยการเล่าให้เพื่อนฟังว่า เขากำลังอยู่ใน “ช่วงเวลาที่ยากลำบาก”

แม้จะเป็นมุสลิม แต่ทาอิมก็เคยมีแฟนและเพื่อนเป็นชาวคริสต์หลายคน แต่แล้วฝันร้ายของทาอิมได้เริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 โดยตอนนั้นเขาทะเลาะกับเพื่อนนักเรียนคนหนึ่งที่ชื่อโอมาร์ ซึ่งภายหลังได้เข้าร่วมกลุ่มไอเอส และทราบเรื่องที่เขาเข้ารับการบำบัดการเป็นเกย์จากเพื่อนคนหนึ่ง ทำให้โอมาร์ยกพวกมาทำร้ายแล้วจับเขาโกนหัวเพื่อสั่งสอน แต่ได้ไว้ชีวิตทาอิมไว้ก็เพราะเห็นแก่พ่อของเขา ซึ่งเป็นคนที่เลื่อมใสในศาสนาอิสลามอย่างมาก และทั้งครอบครัวก็เป็นมุสลิมที่เคร่งครัด

เมื่อกลุ่มไอเอสเข้ายึดครองเมืองที่ทาอิมอาศัยอยู่ เขาก็ได้รับโทรศัพท์จากโอมาร์ให้เข้าร่วมกลุ่ม แต่ทาอิมวางหูใส่ ทำให้โอมาร์ยกพวกมาที่บ้านแล้วแจ้งกับพ่อของทาอิมเรื่องที่เขาเป็นเกย์ และจะมารับตัวเขาไปลงโทษตามคำสอนของพระเจ้า แม้พ่อของทาอิมจะช่วยปกป้องไม่ให้โอมาร์พาตัวเขาไปลงโทษในวันนั้น แต่พ่อก็โกรธมาก แล้วบอกว่า หากข้อกล่าวหาของโอมาร์เป็นจริง พ่อก็จะส่งตัวเขาไปให้ไอเอสด้วยความยินดี

คำพูดของพ่อทำให้ทาอิมช็อกจนทำอะไรไม่ถูก โชคดีที่แม่ตัดสินใจว่า เขาต้องหนีออกจากบ้านทันทีแล้วโดยแม่จัดหาตั๋วเครื่องบินและวีซ่าเข้าตุรกีให้ แต่เหตุไม่สงบในประเทศทำให้ต้องเปลี่ยนแผนเดินทางไปยังกรุงเบรุต ของเลบานอนแทน

ทาอิม บอกว่าตนโชคดีที่หนีเอาชีวิตรอดมาได้ และเชื่อว่าหากยังอยู่ในอิรักก็จะต้องประสบชะตากรรมเดียวกับเกย์คนอื่นๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเพื่อนนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งของเขา ที่ถูกไอเอสจับโยนลงมาจากยอดตึกจนเสียชีวิต ซึ่งเป็นวิธีตามหลักกฎหมายอิสลามที่ให้จับคนชอบเพศเดียวกันโยนลงจากหน้าผา แต่หากยังมีชีวิตอยู่ก็ให้จุดไฟเผา หรือปาหินใส่จนตาย

ปัจจุบัน ทาอิม ขาดการติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูง เพราะเกรงเรื่องความปลอดภัย แต่เขายังโทรศัพท์คุยกับแม่ทุกสัปดาห์ และหวังว่าวันหนึ่งจะได้กลับไปกอดแม่อีกครั้ง นอกจากนี้เขายังอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ และกลับไปเรียนหนังสืออีกครั้ง ซึ่งโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของอิรัก กำลังทำเรื่องให้เขาได้ที่พักพิงในประเทศอื่นต่อไป

Credit: https://www.facebook.com/BBCThai/photos/a.1527194487501586.1073741828.1526071940947174/1678957672325266/?type=1&theater
กรุณา Login เพื่อแสดงความคิดเห็น
ส่ง Scoop ให้เพื่อน
แจ้งลบไม่เหมาะสม
ความคิดเห็น

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...