ถ้าขับรถเข้าเมืองพัทลุง แล้วผ่านไปทางตำบลลำปำ ทางด้านขวามือก็จะพบเรือนไทยโบราณ 2 หลัง ที่ตั้งตระหง่านบนเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ ที่ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ซึ่งอดีตเคยเป็นบ้านพักของเจ้าเมืองพัทลุง ที่ปัจจุบันถูกกำหนดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม มีความสวยงาม และสร้างความประทับใจต่อผู้มาเยือนเป็นอย่างมาก..
ตลอด..
วังเจ้าเมืองพัทลุง ตั้งอยู่ในหมู่ที่ ๔ ตำบลลำป่า อำเภอเมืองพัทลุง ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๘ กิโลเมตร เป็นอาคารทรงไทยแบ่งเป็น ๒ กลุ่มอาคาร ตั้งอยู่ในบริเวณพื้นที่เดียวกันกลุ่มอาคารที่ตั้งอยู่ติดกับ ถนนราเมศวร์อภัยบริรักษ์ เรียกกันว่า วังเก่า เป็นบ้านพักของ พระยาอภัยบริรักษ์ (น้อย จันทโรจวงศ์) เจ้าเมืองพัทลุง ระหว่างปี พ.ศ.๒๔๐๙ - ๒๔๓๑
ส่วนอาคารที่ตั้งอยู่ริมคลองลำห่า ห่างจากวังเก่า ไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ เมตร เรียกว่า วังใหม่ หรือชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วังใหม่ชายคลอง เป็นบ้านพักของ พระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) ซึ่งเป็นบุตรชายของ พระยาอภัยบริรักษ์ (น้อย) เจ้าเมืองพัทลุงใน พ.ศ.๒๔๓๑ - ๒๔๔๖ ซึ่งเป็นเจ้าเมืองคนสุดท้ายในสมัยโบราณ
ต่อมาใน พ.ศ.๒๕๒๔ ทายาทของพระยาอภัยบริรักษ์ (เนตร) โดย นายวิเวก จันทโรวงศ์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้มอบวังใหม่ พร้อมที่ดิน ๒ ไร่ ๓ งาน ๗๕ ตารางวา ให้เป็นโบราณสถานของชาติ ในความดูแลของกรมศิลปากรอีกแห่งหนึ่ง กรมศิลปากรในฐานะ ผู้ดูแลรักษา ได้เล็งเห็นถึงคุณค่าโบราณสถานวังเมืองพัทลุง..
จึงได้จัดสรรงบประมาณทำการบูรณะอาคารพร้อมทั้งจัดภูมิทัศน์ เพื่อให้โบราณสถานแห่งนี้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรม
และเป็นอนุสรณ์สถานเมืองพัทลุงต่อไป
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิด "วังเจ้าเมืองพัทลุง" อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๖
"เจ้าเมือง" ในสมัยโบราณ คือ "ผู้เป็นเจ้าแห่งเมือง" เนื่องจากมีอำนาจ สิทธิ์ขาดในการปกครองบ้านเมืองแบบ "กินเมือง" เมื่อเจ้าเมืองมีอำนาจในฐานะเป็นผู้แทนต่างพระเนตรพระกรรณเช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นเสมือนเจ้า หรือ คือเจ้าแห่งเมืองเมืองนั้น ที่อยู่ของท่าน ที่เป็นเจ้าเมืองจึงต้องเรียกว่า "วัง" ด้วย
และที่เรียกว่า "วัง" ก็มิใช่เฉพาะ "วังเก่า" และ "วังใหม่" ดังกล่าว แต่มีเรียกว่าวังอีกหลายแห่ง เช่น ที่เมืองนครศรีธรรมราช หรือที่เมืองพัทลุงนี้เองก็เคยมี "วังกลาง" และ"วังสวนดอกไม้" อยู่ไม่ไกลจากกลุ่มอาคาร "วังเก่า" และ "วังใหม่"
ปัจจุบันยังเหลืออยู่ส่วนหนึ่ง คือ วังเก่าสร้างในสมัยพระยาพัทลุง (น้อย จันทโรจนวงษ์) เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด ต่อมาวังได้ตกทอดมาจนถึงนางประไพ มุตามะระ บุตรีของหลวงศรีวรฉัตร ส่วนวังใหม่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2432 โดยพระยาอภัยบริากษ์จักราวิชิตพิพิธภักดี (เนตร จันทโรจนวงษ์)
วังเจ้าเมืองพัทลุงหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “วังเก่า-วังใหม่” เนื่องจากมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนคือ วังเก่าและวังใหม่ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน
ในอดีตเคยถูกใช้เป็นที่ว่าราชการและเป็นที่พักอาศัยของเจ้าเมืองพัทลุง แต่ในปัจจุบันทายาทตระกูล “จันทโรจวงศ์” ซึ่งเป็นตระกูลของเจ้าเมืองพัทลุงผู้สร้างวังนี้ขึ้นมาได้มอบวังนี้ให้เป็นสมบัติของชาติ และกรมศิลปากรซึ่งได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานวังเก่า เมื่อวันที่ 16 กรกฏาคม 2535 และวังใหม่ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2526
ปัจจุบันได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน เว้นวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 09.00-12.00 น.และ13.00-16.00น.
คนไทยเสียค่าเข้าชม 5 บาท ส่วนชาวต่างประเทศ 30 บาท
วังหลังใหม่....ใหญ่กว่า แต่ไม่มีอะไรในนั้นมากนักค่ะ...
ด้านหลังวังเป็นริมน้ำ...ชอบและอยากมีบ้านแบบนี้บ้างจังเลย...เรือนไทย ด้านหลังติดน้ำ...เย็นและได้บรรยากาศมากๆค่ะ
..
ใต้ถุนวังยังเก็บเรือโบราณที่แกะจากไม้ทั้งต้นไว้ด้วยนะคะ...ชาวบ้านไปพบมา..และเก็บมาไว้ที่วังเพื่อรวมไว้เป็นสมบัติคนพัทลุงค่ะ...
ขอบคุณข้อมูล และภาพจาก
http://travel.sanook.com/trip/trip_10250.php
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=auau-py&month=07-03-2010&group=3&gblog=73
Credit : ตำรวจสาว เเห่ง Atcloud.com ^^
Credit:
ตำรวจสาว แห่งบ้าน @cloud