ไขปริศนาจากหนังดัง 9 เรื่องกับรายละเอียดเล็ก ๆ ที่คุณอาจพลาดไปอย่างน่าเสียดาย (สปอยล์เนื้อหารัว ๆ ) ในขณะที่เราดูหนังแต่ละครั้ง ความตื่นเต้นของเนื้อหาอาจบดบังรายละเอียดบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในเนื้อเรื่อง จึงเป็นหน้าที่ของนักดูหนังอย่างเรา ๆ ที่ต้องหูตาว่องไวให้มากที่สุด เพราะบางครั้งเบาะแสสำคัญก็ซ่อนตัวอยู่จนเข้าทำนองเส้นผมบังภูเขา ด้วยเหตุนี้เว็บไซต์ Screen Rant ได้เปิดเผยความลับจากหนังดัง 9 เรื่องที่หลายคนอาจคาใจมาจนถึงทุกวันนี้ เตือนเอาไว้ก่อนว่าเนื้อหาบางข้อมีสปอยล์แน่นอน

Kill Bill Vol. 1 แม้ผู้กำกับ เควนติน ทารันติโน่ (Quentin Tarantino) จะพยายามปกปิดตัวตนของ อูมา เธอร์แมน (Uma Thurman) โดยใช้นามแฝงว่า เดอะ ไบรด์ แต่ทราบหรือไม่ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่ชื่อจริงของเธอถูกเปิดเผยใน Kill Bill Vol. 1 แบบที่คุณอาจไม่ทันสังเกต โดยชื่อเต็มว่า บีทริกซ์ คิดโด้ ปรากฏอยู่บนตั๋วเครื่องบินที่จะพาเธอไปล้างแค้นยังโตเกียว งานนี้มีเพียงคอหนังสายตาเหยี่ยวเท่านั้นที่จะทราบว่าเธอเป็นใคร

Inception เอกลักษณ์อย่างหนึ่งที่หลายคนอาจไม่สังเกตคือ การใช้เพลง Non, Je ne regrette rien ของศิลปินชาวฝรั่งเศส อีดิธ เพียฟ (Edith Piaf) มาประกอบในช่วงที่ตัวละครกำลังจะตื่นจากความฝัน ยิ่งไปกว่านั้นปริศนาอีกอย่างที่ซ่อนอยู่ใน Inception คือฉากจบซึ่งเป็นที่ถกเถียงว่า คอบบ์ อยู่ในความจริงหรือความฝันกันแน่ ข้อสังเกตอย่างหนึ่งที่คุณควรทราบคือ เมื่อใดก็ตามที่คอบบ์ฝันถึงภรรยาเขาจะสวมแหวนแต่งงานเอาไว้เสมอ และแหวนนั้นจะหายไปเมื่อเขาตื่น จึงสรุปได้ว่าฉากจบดังกล่าวอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงเพราะไม่มีแหวนปรากฏ

Total Recall ก่อนที่ Inception จะทำให้แฟน ๆ สับสนระหว่างโลกความจริงกับความฝันรู้หรือไม่ว่าหนังเรื่อง Total Recall เคยทำใช้วิธีเดียวกันปั่นหัวผู้ชมมาแล้ว โดยครั้งนั้น อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ (Arnold Schwarzenegger) สวมบทชายที่ถูกสร้างความฝันให้กลายเป็นความจริง ซึ่งความฝันของเขาคือการเป็นสายลับบนดาวอังคาร แต่ผลสุดท้ายเขาถูกไล่ล่าจนแยกไม่ออกว่าสิ่งใดคือความจริงหรือความฝัน ประเด็นนี้เองที่ผู้ชมต่างถกเถียงว่า เหตุการณ์ในหนังคือเรื่องจริงหรือความทรงจำในหัวของพระเอกกันแน่ อย่างไรก็ตามประโยคท้ายเรื่องของเจ้าหน้าที่ห้องแลปบริษัท Rekall จะไขปริศนาที่คุณสงสัยทั้งหมด

Fast & Furious : Tokyo Drift นักแสดงจากแดนกิมจิ ซุงกัง (Sung Kang) ร่วมแสดงหนังแฟรนไชส์ Fast & Furious โดยสวมคาแรคเตอร์ที่เรารู้จักชื่อเพียงสั้น ๆ ว่า ฮาน อย่างไรก็ตามฉากหนึ่งในภาค Tokyo Drift ทำให้เราทราบว่าชื่อเต็มของเขาคือ ฮาน โซล คล้ายคลึงกับคาแรคเตอร์เด่นในเรื่อง Star Wars ที่ชื่อว่า ฮัน โซโล

Godzilla ฉากเปิดของหนังเรื่อง Godzilla สอดแทรกอารมณ์ขันไว้อย่างน่าสนใจ หากสังเกตดี ๆ จะพบว่าชื่อของทีมงานคนสำคัญอย่างผู้กำกับ แกเร็ธ เอ็ดเวิร์ด (Gareth Edwards) ถูกนำเสนออย่างแนบเนียนท่ามกลางข้อความว่า Monsters ซึ่งเป็นอีกหนึ่งผลงานสร้างชื่อของเขาเช่นเดียวกับชื่อนักแสดงนำอย่าง ไบรอัน แครนสตัน (Bryan Cranston) ที่ปรากฏต่อจากข้อความ Walter White ซึ่งเป็นชื่อคาแรคเตอร์ของเขาในซีรีส์ Breaking Bad

The Lord Of The Rings หลังจากที่คาแรคเตอร์ โบโรเมียร์ พบจุดจบในช่วงท้ายของภาคแรกอย่าง The Fellowship of the Ring สหายร่วมทุกข์ เอรากอน ตัดสินใจถอดปลอกแขนของเพื่อนเก็บไว้เป็นที่ระลึกถึงความเสียสละ น่าเสียดายที่น้อยคนจะสังเกตว่า เอรอกอนสวมปลอกแขนชิ้นนั้นตลอดการปรากฏตัวอีกสองภาคที่เหลือ แถมไม่มีตัวละครใดในเรื่องพูดถึงมันเสียด้วย

Back to the Future เมื่อตัวละคร มาร์ตี้ แม็คฟลาย จากโลกอนาคต ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พ่อแม่ของเขาตกหลุมรักกัน เขาต้องนำเทคโนโลยีจากโลกอนาคตมาเป็นตัวช่วย หนึ่งในนั้นคือเสียงเพลงจากวง Van Halen แม้เบื้องหลังการถ่ายทำ Van Halen มีมติไม่อนุญาตให้นำเพลงมาใช้ในหนังเรื่องนี้ แต่มือกีตาร์ประจำวงอย่าง เอ็ดดี้ แวน เฮเลน (Eddie Van Halen) คือคนเดียวที่อนุมัติผลลัพธ์ที่ปรากฏคือการใช้ชื่อบนตลับเทปแบบปลอม ๆ ว่า Edward Van Halen ซึ่งในอีกหลายปีถัดมา เอ็ดดี้ แวน เฮเลน ยอมรับว่าเขาบันทึกเสียงกีตาร์ในเทปนั้นด้วยตัวเอง

Jurassic Park งานถนัดของ สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg) คือการสร้างหนังสัตว์ร้ายอย่าง Jaws และ Jurassic Park ออกมาเขย่าขวัญคนดู แต่รู้หรือเปล่าว่าหนังทั้งสองเรื่องมีจุดเชื่อมโยงที่คุณอาจไม่เคยสังเกต โดยการปรากฏตัวของโปรแกรมเมอร์ เดนนิส ในช่วงต้นของ Jurassic Park เขากำลังนั่งดูหนังเรื่อง Jaws ซึ่งเป็นฉากเปิดตัวปลาฉลามโดยเฉพาะ อย่างน้อยนี่คือการส่งสัญญาณว่าอย่าเล่นกับสัตว์อันตรายเป็นอันขาด

The Usual Suspects นักโทษชายผู้พิการ เวอร์บัล คินท์ จากเรื่อง The Usual Suspects อาจได้ชื่อเป็นเจ้าของบทหักมุมที่สะเทือนวงการที่สุด ในช่วงท้ายที่เขาถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนเรื่องตายของ คีตัน ซึ่งถูกฆ่าโดยบุคคลปริศนา และฉากนี้เขาคายความลับออกมาเพียงสั้น ๆ ว่า "ผมทำเอง ผมฆ่าคีตัน" ก่อนถูกเจ้าหน้าที่พูดตัดบทอย่างรวดเร็ว นี่คือจุดที่นักดูหนังหลายคนพลาด จนพาลตั้งคำถามถึงตอนจบที่คลุมเครือ

ถึงตอนนี้หลายคนคงได้คำตอบสำหรับปริศนาที่คาใจมานาน คราวหน้าหากมีหนังเรื่องไหนทำให้คุณสงสัยอีกละก็ เราขอแนะนำให้คุณสังเกตดี ๆ เพราะเบาะแสอาจซ่อนอยู่ใกล้แค่เอื้อมก็เป็นได้ ภาพจาก เว็บไซต์ Screen Rant, เฟซบุ๊ก Kill Bill, เฟซบุ๊ก Inception, เฟซบุ๊ก Total Recall, เฟซบุ๊ก Fast & Furious

ที่มา: http://movie.kapook.com/view123338.html