ในศาสนาอิสลาม คำว่า "มลาอิกะฮ์" มีรากศัพท์มาจากภาษาอาหรับว่า "มะละกะ" หมายถึง การปกครอง การมีอำนาจ โดยถูกสร้างมาจากรัศมี (นูร) มีจำนวนมากมาย ไม่มีใครรู้จำนวนได้นอกจากอัลลอฮฺ มลาอิกะฮฺไม่มีเพศ ไม่บริโภค และไม่ดื่ม มะลาอิกะฮฺเป็นบ่าวที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮฺ ไม่บิดพริ้ว ไม่ฝ่าฝืนคำสั่ง ไม่มีความคิดที่จะเลือกทำอะไรหรือทำสิ่งใดโดยลำพังได้ เพราะมลาอิกะฮ์มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของอัลลอฮ์เพียงอย่างเดียว มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นมะลาอิกะฮฺในสภาพเดิมได้ เว้นแต่บรรดานบีเท่านั้น
เพราะมลาอิกะฮ์เป็นร่างที่ละเอียดอ่อน เหมือนที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นลมได้ ทั้ง ๆ ที่ลมสามารถพัดใบไม้ไหวได้ แต่มนุษย์สามารถมองเห็นมะลาอิกะฮฺได้ในลักษณะจำแลง กล่าวคือ เมื่อมลาอิกะฮ์ได้จำแลงร่างให้เป็นมนุษย์ ในศาสนาอิสลาม ปรากฏชื่อมลาอิกะฮ์ที่มีบทบาทสำคัญหรืออัครทูตสวรรค์ ดังนี้ กาเบรียล (หรือญิบรีลในภาษาอาหรับ) เป็นอัครทูตสวรรค์ที่มีหน้าที่เปิดเผยกุรอานแก่นบีมุฮัมมัดและสอนท่านอ่าน กาเบรียลมักเป็นที่รู้จักเพราะได้เป็นผู้ติดต่อกับเหล่าผู้เผยพระวจนะ
ทูตสวรรค์องค์นี้จึงมีบทบาทสำคัญมากในศาสนาอิสลามดังเห็นได้จากหะดีษหลายเล่มได้เล่าถึงบทบาทของท่านว่าเป็นผู้ถ่ายทอดพระวจนะหลายบทของพระเจ้าสู่บรรดาผู้เผยพระวจนะ มีคาเอล (หรือมีกาอีลในภาษาอาหรับ) ถือว่าเป็นอัครทูตสวรรค์แห่งความกรุณา และทำให้เกิดฝนและสายฟ้าบนโลก ราฟาเอล (หรืออิสรอฟิล) ตามหะดีษถือว่าเป็นทูตสวรรค์ที่เป่าเขาและแตรเพื่อประกาศสัญญาณของวันพิพากษา ในภาษาฮีบรูมีการแปลชื่อท่านว่าราฟาเอล อิสรออิล เป็นทูตสวรรค์แห่งความตาย ส่วนในกุรอาน (Surah al-Sajdah [อัลกุรอาน 32:11]) ระบุว่าเป็นผู้แยกวิญญาณจากร่าง ริดวาน เป็นผู้เฝ้าสวรรค์ทั้ง 7 ชั้น โดยเฉพาะชั้น 'Jannathul Firdaus' ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดสำหรับผู้ที่ทำความดีมากที่สุด และละเว้นจากความชั่วทั้งทางกายและใจ ชื่อของทูตสวรรค์องค์นี้มักถูกนำไปตั้งเป็นชื่อของเด็กชายมุสลิมในหลายประเทศเพราะเป็นชื่อที่แสดงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ มาลิก เป็นผู้เฝ้าขุมนรกทั้ง 7 ขุม มุนกัรและนกีร
เชื่อกันว่าทูตสวรรค์สององค์นี้มีหน้าที่สอบถามผู้ตายเมื่อศพลงหลุมทันทีเกี่ยวกับความศรัทธาต่อศาสนา ว่าเขาผู้นั้นเชื่อถึงองค์อำนาจสูงสุดอย่างไร ผู้นำด้านศีลธรรมที่เขาถือเป็นแบบอย่างคือใคร และคัมภีร์อะไรที่เขายึดถือ รกิบและอติ๊ด ทูตสวรรค์สององค์นี้มีหน้าที่บันทึกความดีความชั่วที่แต่ละคนทำมาตลอดชีวิต เชื่อว่ารกิบจะสถิตอยู่บนใหล่ขวาของมนุษย์แล้วบันทึกเฉพาะความดีที่คนนั้นทำ ส่วนอติ๊ดจะสถิตบนใหล่ซ้ายบันทึกเฉพาะเรื่องความชั่ว
ในศาสนาคริสต์ คัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาใหม่พูดถึงทูตสวรรค์อยู่หลายครั้ง (เช่น ทูตสวรรค์ได้แจ้งสารแก่นางมารีย์ โยเซฟ และเหล่าคนเลี้ยงแกะ และมีทูตสวรรค์อยู่บริการพระเยซูหลังจากทรงถูกมารทดลองในถิ่นทุรกันดาร มีทูตสวรรค์เยี่ยมพระเยซูขณะทรงรับพระทรมาน ทูตสวรรค์ที่ถ้ำฝังพระศพของพระเยซู ทูตสวรรค์ที่ปล่อยนักบุญเปาโลอัครทูตและนักบุญซีโมนเปโตรอัครทูตออกจากคุก) แต่มีการเอ่ยถึง “อัครทูตสวรรค์” เพียงแค่สองครั้งเท่านั้น คือ "อัครทูตสวรรค์มีคาเอล" ในจดหมายของนักบุญยูดาและในจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเธสะโลนิกา
ฉบับที่ 1 ระบุว่าเราจะได้ยิน "เสียงหัวหน้าทูตสวรรค์" ในเวลาที่พระคริสต์เสด็จกลับมา โรมันคาทอลิก ศาสนจักรโรมันคาทอลิกนับถืออัครทูตสวรรค์ 3 องค์ และยกย่องให้เป็นนักบุญ ได้แก่ มีคาเอล กาเบรียล ราฟาเอล ชื่อสุดท้าย ราฟาเอล ถูกระบุไว้ในหนังสือโทบิต บท 12:15 "ข้าคือราฟาเอล หนึ่งในเทวดาศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ด
ผู้ยืนอยู่เบื้องหน้าพระพักตร์และรับใช้พระสิริรุ่งโรจน์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า" โปรเตสแตนต์ คัมภีร์ไบเบิลฉบับของโปรเตสแตนต์ระบุชื่อทูตสวรรค์เพียง 2 องค์ คือ อัครทูตสวรรค์มีคาเอล และ ทูตสวรรค์กาเบรียล ชาวโปรเตสแตนต์เห็นว่าอัครทูตสวรรค์มีเพียงองค์เดียวเท่านั้นคือมีคาเอล ดังที่ปรากฏคำว่า “อัครทูตสวรรค์มีคาเอล” อย่างชัดเจนเพียงองค์เดียวในสารบบคัมภีร์ฝ่ายโปรเตสแตนต์ส่วนกาเบรียลไม่เคยถูกเรียกว่าอัครทูตสวรรค์เลยแม้แต่ในพระวรสาร มีชาวโปรเตสแตนต์บางกลุ่ม เช่น เซเวนต์เดย์แอดเวนทิสต์ มีทัศนะคล้ายๆ กันนี้[6] และมีแมทธิว เฮนรี นักเขียนอรรถาธิบายคัมภีร์คณะเพรสไบทีเรียนซึ่งเชื่อว่าอัครทูตสวรรค์มีคาเอลจริง ๆ แล้วไม่ใช่ทูตสวรรค์ แต่มีฐานะเป็นพระบุตรพระเป็นเจ้า
ตามทรรศนะนี้เห็นว่าคำว่าอัครทูตสวรรค์หมายถึง “ผู้เป็นหัวหน้าของทูตสวรรค์” ไม่น่าใช่ “ทูตสวรรค์ที่เป็นหัวหน้า” และถือว่าเป็นตำแหน่งเดียวกับ “หัวหน้าดวงดาว” (ที่ปรากฏในหนังสือดาเนียล 8:11) แม้ว่าคริสตจักรเซเวนต์เดย์แอดเวนทิสต์โดยทั่วไปจะยอมรับแนวคิดนี้ แต่ฝ่ายนิกายแบปทิสต์กลับมีแค่ไม่กี่กลุ่มที่ยอมรับ
ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/มลาอิกะฮ์
https://th.wikipedia.org/wiki/อัครทูต