http://board.postjung.com/895919.htmlเรื่องราวของหน้ากากนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนใจและมีที่มาลุ่มลึกกว่าที่เราคิดมาก :

สำหรับคนที่เป็นแฟนมวยปล้ำฝั่งญี่ปุ่น เม็กซิโก หรืออเมริการวมถึงแฟนการ์ตูนรุ่นเก่าอย่าง “หน้ากากเสือ” คงจะสงสัยกันว่านักมวยปล้ำเหล่านี้บางคนก็แต่งตัวปกติ บางคนก็ใส่หน้ากาก พวกเขาเหล่านี้ใส่ทำไม? และใครเป็นคนบอกให้พวกเขาใส่มีที่มาอย่างไร? ดังนั้นวันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันครับ

จริงๆ แล้วหน้ากากนั้นมีที่มาจากประเทศเม็กซิโก ในช่วงที่เม็กซิโกประสพปัญหาทางการเมืองอย่างหนักตั้งแต่ปี 1857 ในสมัยรัฐบาล Porfirio Diaz ตอนนั้นทำให้ประชาชนอดอยากปากแห้งมาก มีการโจมตีประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการทำงาน และนั่นเองทำให้ประชาชนหันมาจัดการแสดงต่อสู้ด้วยตนเอง เหมือนเป็นการประท้วงว่า “รัฐบาลไม่ต้องเล่นงานพวกเราหรอก เราเล่นงานกันเองก็ได้” ตอนนั้นเองที่หน้ากากถูกสร้างมาให้นักต่อสู้ใช้ ส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันการถูกดึงผม และอีกส่วนนึงเพื่อความสวยงามและเป็นเอกลักษณ์

ตอนนั้นหน้ากากก็กลายเป็นสิ่งที่ฮิตแล้ว และมันก็ลิงค์ไปสู่บริบทของประเทศญี่ปุ่นตรงที่ “ทั้งสองประเทศล้วนมีที่มาจากปัญหาการเมือง” อย่างที่ผมเคยเขียนไปในหลายๆ ครั้งว่าญี่ปุ่นหลังภาวะสงครามนั้นต้องการสิ่งที่เป็นฮีโร่ และตอนนั้นเองที่นักมวยปล้ำถือกำเนิดขึ้นมา “แต่” เมื่อสถานการณ์มันดีขึ้น การเอานักมวยปล้ำต่างชาติมาถล่มก็ไม่ดึงดูดอีกต่อไป การทำธุรกิจจึงต้องแสวงหาอะไรใหม่ๆ และนั่นย่อมหนีไม่พ้นบางสิ่งบางอย่างที่ออกจากแฟนตาซี บางสิ่งบางอย่างที่เหมือนกับฮีโร่ในการ์ตูน นั่นคือจุดเริ่มต้นครับ เกริ่นนำสักนิดนึงก่อนว่าหน้ากากมวยปล้ำนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่มากๆ โดยเฉพาะในเม็กซิโกนั้นถึงกับมีสถาบันรับรองนักมวยปล้ำหน้ากากเลยทีเดียว คือถ้านักมวยปล้ำคนไหนถอดหน้ากากแล้ว ก็จะต้องถอดทันที นั่นเพราะพวกเขาถือว่านักมวยปล้ำต้องปกปิดหน้าตาอย่างชัดเจน นักมวยปล้ำสวมหน้ากากจะเป็นคนละคนกับคนในชีวิตประจำวันอย่างเด็ดขาด ตรงนี้เองที่ญี่ปุ่นต่างออกไปครับ ญี่ปุ่นไม่มีสถาบันอะไรควบคุมตรงนี้ หรือจะเรียกง่ายๆ ว่าความเป็นหน้ากากของญี่ปุ่นเกิดจากสิ่งที่ค่อนไปทางธุรกิจมากกว่า ดังนั้นเราจะเห็นนักมวยปล้ำญี่ปุ่นที่ปล้ำวันนึงใส่หน้ากาก ผ่านไปอีกวันก็ถอดหน้ากากขึ้นปล้ำได้เช่นกัน

“หน้ากาก” นั้นเปรียบเสมือน “ชีวิต” ของนักมวยปล้ำครับ กล่าวคือในการต่อสู้สมัยก่อนนั้น หน้ากากเป็นเหมือน “การประท้วงเชิงสัญลักษณ์” การแสดงไม่สามารถฆ่าคนตายจริงๆ ได้ แต่เขาใช้วิธีการ “ถอดหน้ากากผู้แพ้” ซึ่งพวกใส่หน้ากากก็จะมีหน้ากากแตกต่างกันไป เช่นมนุษย์เสือ มนุษย์ค้างคาว ฯลฯ การถูกถอดหน้ากากออกไป จึงเหมือนกับว่าเสือตัวนั้นได้ตายไปแล้วนั่นเอง อนึ่งตอนนี้มวยปล้ำเม็กซิโกและญี่ปุ่นก็ยังมีการต่อสู้เดิมพันหน้ากากกันอยู่เรื่อยๆ ซึ่งทุกครั้งก็สร้างความตื่นตาตื่นใจเสมอ

ในญี่ปุ่นนั้นคนที่ได้รับเครดิทว่าใส่หน้ากากขึ้นปล้ำก็คือนักมวยปล้ำชื่อ The Destroyer ในช่วงยุค 60 ก่อนที่จะมี Mil Mascaras มาทำให้หน้ากากดังเป็นพลุแตก และเขาคนนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญให้กับ Satoru Sayama หรือ “หน้ากากเสือ” ที่ทำให้มนุษย์มวยปล้ำหน้ากากของญี่ปุ่นโด่งดังจนเป็นตำนานไปทั่วโลกนั่นเอง ปัจจุบันนักมวยปล้ำของญี่ปุ่นกว่า 30% เป็นนักมวยปล้ำใส่หน้ากากและหน้ากากเหล่านี้เองที่ช่วยดึงดูดแฟนมวยปล้ำได้อย่างมากมาย เพราะบางอย่างหน้าคนปกติก็ไม่สามารถดึงความเป็นตัวตนของสิ่งต่างๆ ออกมาได้ทั้งหมด บางคนก็ใส่หน้ากากเป็นสัตว์ บางคนก็ใส่หน้ากากเป็นคนแก่ ฯลฯ คนญี่ปุ่นถือว่า “หน้ากาก” ถือเป็นการคิดค้นที่ยอดเยียมที่สดอย่างหนึ่งในวงการมวยปล้ำ และมันเป็นส่วนสำคัญมากที่ทำให้วงการมวยปล้ำยังหาสิ่งใหม่ๆ มาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนๆ อยู่เสมอ

อย่างไรก็ตามสำหรับนักมวยปล้ำหน้ากากแล้ว พวกเขาจะแยกตัวตนภายใต้หน้ากากออกจากตัวตนเดิมอย่างชัดเจน เวลาสัมภาษณ์ เขาจะไม่ตอบคำถามแบบ “ใส่หน้ากากแล้วไม่ร้อนเหรอ ... มองเห็นชัดไหม?” อะไรเทือกนี้อย่างเด็ดขาด เพราะเขาถือว่าเขาได้ “กลายเป็น” สิ่งๆนั้นไปแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่มีปัญหาในสิ่งที่ควรจะเป็น “พื้นฐาน” ของตัวละครนั้นๆอย่างเด็ดขาด!! ที่มา: ปูมิ http://xn--www-ellaa1l6a5g.marumura.com/talkative/?id=7522