รอดนีย์ มาร์ติน
นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดังซึ่งเป็นอดีตทหารผ่านศึกของสหรัฐฯ ออกโรงแฉ ในวันเสาร์ ( 4 ก.ค.) ระบุ รัฐบาลอเมริกันอยู่เบื้องหลังการจัดส่ง “ทหารรับจ้างชาวต่างชาติ” เข้าไปยังซีเรีย เพื่อทำการล้มล้างระบอบการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
รายงานข่าวล่าสุดซึ่งอ้างการเปิดเผยของรอดนีย์ มาร์ติน อดีตทหารผ่านศึกชาวอเมริกันจาก “สงครามโซมาเลีย” ซึ่งในปัจจุบันทำหน้าที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดังของสหรัฐฯ มีขึ้นหลังจากที่หนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์นำเสนอรายงานพิเศษซึ่งระบุว่า ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) กำลังเตรียมวางแผนส่งหน่วยรบชุดแรกที่ผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดี เข้าไปยังแผ่นดินซีเรียภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ในฐานะ “กองกำลังภาคพื้นดิน” เพื่อต่อกรกับกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส)
ด้านแหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกันนายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยตัวตนระบุว่า สหรัฐฯและชาติพันธมิตรได้เสร็จสิ้นการฝึก “นักรบสายกลาง” กลุ่มแรกจากค่ายฝึกในตุรกี และเตรียมส่งนักรบซึ่งมีจำนวนไม่ถึง 100 ชีวิตกลุ่มนี้เข้าไปยังแผ่นดินซีเรียภายในช่วงปลายฤดูร้อนกลางปีนี้
อย่างไรก็ดี มาร์ตินเปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์เพรสส์ทีวีของอิหร่านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยระบุ กระแสข่าวเรื่องการส่งนักรบสายกลางชุดแรกที่ผ่านการฝึกเข้าไปต่อสู้กับกลุ่มไอเอสนั้น เป็นรายงานที่ขาดความน่าเชื่อถือ และว่า ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามากำลังเตรียมส่ง “ทหารรับจ้าง” ที่เป็นชาวต่างชาติเข้าไปในซีเรียเพื่อภารกิจในการ “ปลิดชีพ” ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียโดยเฉพาะ
รอดนีย์ มาร์ติน ยังเผยต่อว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโอบามา คือ ผู้สนับสนุนรายสำคัญของกลุ่มไอเอสและว่าเป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาลโอบามา คือ การยืมมือกลุ่มไอเอสให้ช่วยบ่อนทำลายเสถียรภาพของซีเรียและรัฐบาลของอัสซาด ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนชาวซีเรีย มากกว่าที่จะคิดกวาดล้างกลุ่มไอเอสอย่างจริงจัง
“ที่ผ่านมา เราทั้งหลายต่างถูกทำให้เข้าใจผิดกันมาโดยตลอดว่า ศัตรูหมายเลขหนึ่งของรัฐบาลโอบามาคือกลุ่มไอเอส แต่ในความเป็นจริงแล้ว รัฐบาลโอบามานี่ล่ะที่ทำหน้าที่ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของกลุ่มไอเอส เพราะสหรัฐฯต้องการโค่นล้มระบอบการปกครองของอัสซาดและสถาปนารัฐบาลใหม่ในซีเรียที่เป็นมิตรต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯมากกว่า ” มาร์ติน กล่าว