ใครชอบก็ดูได้ครับ more...
ก่อตั้งโดย echoecho
กระทู้: kamen rider W x Decade the movie war 2010

Masked Rider Decade : Final Chapter

ความเดิมตอนที่แล้วของ Masked Rider Decade



Decade ออกเดินทางไปยังโลกต่างๆและได้ทำในสิ่งที่ควรจะทำในแต่ละโลกใบนั้นๆเพื่อไม่ให้โลกทั้งหมดต้องสูญสลายไป การเดินทางนั้น Deacde ได้รับมิตรภาพ เพื่อนพ้องและพลังในการต่อสู้มาตลอดการเดินทาง แต่เมื่อเดินทางถึงโลกของสงครามไรเดอร์ Deacde กลับไม่สามารถหยุดยั้งการล่มสลายของโลกไรเดอร์ทั้ง 9 เอาไว้ได้ เพราะ Decade ไม่ยอมทำหน้าที่ของตนเองในฐานะผู้ทำลาย แต่กลับไปสร้างมิตรเอาไว้เสียแทน จึงเป็นเหตุให้เหล่าไรเดอร์ทั้งหมดตรงเข้าจัดการกับ Decade เพราะถือว่า Deacde คือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดในทันที โดยบทสรุปของการต่อสู้นั้นจะเป็นอย่างไรต่อไป??



"Decade ตอนนี้มันไปอยู่ที่ไหนของมันนะ" Skyrider บินสำรวจทั่วท้องฟ้าหวังจะหาตำแหน่งของ Decade แต่ก็ยังไม่พบอะไร ส่วนทางภาคพื้นดินก็มี Kabuto และ Super-1 คอยตรวจการณ์ด้านล่างให้อยู่



"ถึงยังงั้นก็อย่างเพิ่งประมาทหละ เพราะหมอนั่นหนะ มันปีศาจชัดๆ" (เพิ่งจะรู้ว่าเวลาโชวะไรเดอร์จะพูดจะมีตากระพริบแสงด้วยแฮะ แปลกดีๆ) ซึ่งไม่ทันที่ Super-1 จะได้เตือนเสร็จ จู่ๆ Skyrider ก็ถูกไล่โจมตีด้วยท่าไม้ตาย FAR: Dimension Blast ของ Decade ถึงแม้ Skyrider จะพยายามหลบเลี่ยงยังไงก็ไม่เป็นผล จนในที่สุดก็ถูกโจมตีกลางอากาศและมาระเบิดบนพื้นจนไม่เหลือซาก



หลุมระเบิดขนาดใหญ่นั้น ไม่มีร่างของ Skyrider เหลืออยู่เลย คงอยู่แต่การ์ดใบเดียวที่ตอนนี้มือสังหารคนนั้นกำลังมาเก็บมันไป แต่พอทันทีที่ทั้ง Super-1 และ Kabuto เข้ามาถึงหลุมระเบิดนั้น Decade ก็ใช้การ์ด AR: Clock Up พร้อมกับการ์ด AR: Invisible เล่นงานสองไรเดอร์จนพินาศโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะทันตั้งตัว จากไรเดอร์ 2 คนบัดนี้เหลือเพียงแค่เศษแขนของ Super-1 และส่วนเขาของ Kabuto เอาไว้หลังการระเบิดครั้งนั้นเท่านั้น



Decade ที่คืนร่างเป็นสึคาสะหยิบการ์ดไรเดอร์ทั้ง 2 ขึ้นมา สีหน้าแววตาของสึคาสะเปลี่ยนไป ราวกับมุ่งหมายแต่การกำจัดและสังหารแต่เพียงอย่างเดียวไปซะแล้ว



"ดีเคท ผู้ทำลายโลก ผลจากการที่เขาตั้งตนเป็นศัตรูกับไรเดอร์ทั้งหมด จะทำให้เขาเห็นอะไรอย่างงั้นหรือ??"



ทางด้านของร้านถ่ายรูปฮิคาริ ตอนนี้บรรยากาศของความสนุกสนานหายไปจนหมด เพราะเหลือแค่นัตสึมิและลุงฮิคาริเจ้าของร้านเท่านั้น

"สึคาสะคุงหายตัวไปตั้งแต่วันนั้น รวมถึงยูสุเกะและคิบร่าก็ด้วย สุดท้ายพวกเราก็ต้องกลับมากันอยู่ตามลำพังสินะ" นัตสึมิหวนคิดถึงบรรยากาศเก่าๆที่ทุกคนเคยพร้อมหน้า และคงไม่ใช่แค่นัตสึมิคนเดียว เพราะลุงฮิคาริเองก็เหมือนจะนึกถึงบรรยากาศนั้นไม่ต่างกัน เพราะเผลอรินกาแฟใส่แก้วของทั้งสึคาสะและยูสุเกะไปด้วย



"ตายหละ นี่ฉันเผลอทำกาแฟสำหรับ 4 คนอีกแล้วเหรอเนี่ย??" นัตสึมิเองพอเห็นแบบนั้นก็เข้ามาจัดการเก็บแก้วของทั้ง 2 ทันที

"เก็บๆมันไปซะเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นเราคงจะเผลอนึกไปเองอยู่เรื่องว่าพวกเขายังอยู่กับเรา" นัตสึมิเองก็คงจะเจ็บปวดใจไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าในตอนนั้น ก็มีแขกมาเยือนที่ทั้งสอง นั่นก็คือ ไดกิ ไคโตะ นั่นเอง ซึ่งนัตสึมิเองก็คงแปลกใจที่ไคโตะโผล่มาหานั่นแหละนะ



"นี่พวกเธอยังไม่ลืมอดีตกันอีกเหรอเนี่ย ต่างจากฉันนะ ฉันลืมพวกเขาได้หมดแล้ว พวกเธอเองก็น่าจะรีบๆลืมซะนะ เอ้อ มาสเตอร์ ขอกาแฟหน่อยสิ" มาถึงก็พล่ามๆอย่างเดียว แถมสั่งกาแฟอีกต่างหาก แน่นอนลุงฮิคาริต้องมีแหวใส่บ้าง

"นี่ๆ ฉันไม่ใช่บริกรนะ แล้วที่สำคัญนี่ก็ไม่ใช่ร้านอาหารด้วย" ถึงจะปฏิเสธแบบนั้น แต่ก็เห็นลุงแกเตรียมกาแฟให้อยู่ดีนั่นแหละ นัตสึมิเห็นแบบนั้นก็ไม่ห้ามอะไรด้วย

"ฉันอยากรู้จริงๆว่า ตอนนี้สึคาสะคุงกับคนอื่นไปอยู่ที่ไหนกัน"



"ที่นั่นไงหละ" ไคโตะชี้ไปที่รูปภาพด้านหลัง เป็นภาพของโลกแต่ละโลกที่กำลังจะถูกผนวกเข้าหากันและกำลังจะล่มสลาย
ไป

"สึคาสะคุง อยู่ที่ไหนซักแห่งในโลกนั้นสินะ"



ทางด้านของสึคาสะเอง ระหว่างกำลังเดินทางไปไหนซักแห่ง ก็ถูกล้อมกรอบด้วยกองทัพ Riotrooper จำนวนมาก และในที่ตรงนั้นยูสุเกะเองก็ปรากฎตัวขึ้นด้วย



"สึคาสะ คราวนี้นายไม่มีทางหนีไปไหนได้อีกแล้ว" คำพูดของยูสุเกะที่มีต่อสึคาสะราวกับคนที่ไม่รู้จักกันไปแล้ว

"ฉันเองก็ไม่ได้คิดจะหนีนี่"

"ความจริงฉันเองก็ไม่ได้อยากสู้กับนาย แต่ที่ต้องทำแบบนี้ เพื่อป้องกันการล่มสลายของโลก หวังว่านายคงพร้อมแล้วนะ" ยูสุเกะในตอนนี้เอาจริงเต็มที่



"หยุดพิรี้พิไรเถอะน่า เข้ามากันได้แล้ว" สึคาสะแปลงร่างเป็น Decade แต่หน้าตาของ Decade เปลี่ยนไป ราวกับถูกครอบงำด้วยความโกรธและกระหายต่อการทำลาย ซึ่งถึงแม้ว่าเหล่า Riotrooper จะเข้ารุมยังไง ก็ทำอะไร Decade ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย แถม Decade เองยังไม่มีการออมมืออีกต่างหาก

"สึคาสะ" ยูสุเกะที่เห็นภาพนั้นเหมือนจะปวดใจกับการที่วันหนึ่งตนเองต้องสู้กับ Decade เข้าสักวัน แต่ความคิดนั้นก็ถูกหยุดลงด้วยเสียงฝีเท้าขนาดใหญ่ที่ใกล้เข้ามา

"ฉันเคยสงสัยนะ ว่าทำไมสึคาสะคุงถึงต้องคอยถ่ายรูปจากที่ต่างๆเอามาเก็บไว้ด้วย แต่ถึงอย่างนั้นรูปที่ถ่ายมาก็ใช้ไม่ได้เลย" นัตสึมิกับไคโตะออกมานั่งคุยกันด้านนอก โดยพูดถึงรูปที่สึคาสะถ่ายเก็บไว้ในแต่ละโลก และเผารูปที่สึคาสะเคยถ่ายไว้ คงเพื่อที่ว่าทุกคนจะได้ลืมไปซะ



"ไม่รู้สิ แต่ที่รู้แน่ๆก็คือ หมอนั่นไม่ได้เข้มแข็งแบบที่เราเห็นกันหรอกนะ หมอนั่นหนะ ไม่กล้าเผชิญหน้ากับโลกใบนี้โดยตรง เลยใช้วิธีเผชิญโลกผ่านทางพวกรูปภาพเหล่านี้แทนไงหละ"



"แต่การที่เขาพยายามจะถ่ายรูปโลกต่างๆมันหมายถึงการที่เขาอยากรู้จักกับโลก ไม่สิ หรือว่าเขาต้องการที่จะรู้จักกับคนอื่นๆงั้นเหรอ"

"ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน" ไคโตะและนัตสึมิไม่สามารถหาคำตอบตรงนี้ได้ ทางเดียวที่จะรู้ได้คือคงต้องรู้จากตัวสึคาสะเองเท่านั้น

แต่ในระหว่างที่ไคโตะและนัตสึมิกำลังคุยกันอยู่นั้น ก็มีประตูมิติขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นพร้อมกับเสียงสะเทือนเลือนลั่น ซึ่งไคโตะรู้ได้ทันทีว่านั่นคือการมาของ Masked Rider J



ซึ่งก็เป็นไปตามคาด บริเวณที่มีการต่อสู้เมื่อครู่ ตอนนี้ J กำลังไล่รุกราน Decade อยู่ ซึ่งนัตสึมิก็วิ่งมาทันเห็นการต่อสู้ครั้งนี้พอดี (ปล.นัตสึมิวิ่งเร็วมากๆ)



Decade ใช้การ์ด AR: Gigant และ AR: Side Basher เข้าเล่นงานด้วยกระสุนมิซไซล์จำนวนมาก จน J ถึงกับล้มทั้งยืน ผลจากการะเบิดอันรุนแรงของ J ทำให้ยูสุเกะที่อยู่บริเวณนั้นบาดเจ็บไปด้วย ทำให้ Decade ครอบครองการ์ดของ J ได้ในที่สุด (นัตสึมิก็ยืนแถวนั้น ทำไม่เป็นอะไรเลยหว่า??)



หลังการต่อสู้สึคาสะก็นำการ์ดไรเดอร์ทั้งหมดออกมาดู ซึ่งก็เห็นได้เลยว่าสึคาสะกำจัดไรเดอร์ไปมากพอดูแล้ว โดยในระหว่างนั้นเหล่า Riotrooper ก็เข้ามาขวางสึคาสะไว้อีกครั้ง

"พวแกนี่มันไม่รู้จักหลาบจำกันเลยสินะ" ระหว่างที่สึคาสะกำลังจะออกไปลุย ก็มีสาวน้อยคนหนึ่งออกมาขวางสึคาสะไว้ซะก่อน (ซึ่งเรารู้กันว่านั่นคือ มิซากิ ยูริโกะ)



"นี่เธออีกแล้วเหรอเนี่ย หลบไปน่า" แต่ดูเหมือนคำเตือนของสึคาสะจะไม่มีผลอะไร ผู้หญิงคนนั้นยังคงเดินออกไปเผชิญหน้ากับเหล่าพร้อมกับเปลี่ยนร่างตัวเองด้วย



"มนุษย์ไฟฟ้า แทคเกิ้ล!!" สิ้นเสียงประกาศตัว แทคเกิ้ลก็เข้าต่อสู้กับเหล่า Riotrooper และสามารถเล่นงานเหล่า Riotrooper จนล่าถอยไปได้ในที่สุด (ไม่รู้ว่าเพราะแทคเกิ้ลเก่ง หรือว่าไอ้พวกนี้มันอ่อนกันแน่??) หลังจากสู้เสร็จยูริโกะก็เข้ามากระแซะสึคาสะทันที



"ฉันรู้นะ ว่าสึคาสะต้องการฉันใช่ไหมล่า??" แต่สึคาสะเองก็ไม่สนใจต่อคำถามนั้น และเดินออกไปอย่างไม่สนใจ จนยูริโกะเองต้องรีบตามสึคาสะไป



ทางด้านของยูสุเกะที่บาดเจ็บจากลูกหลงก็ได้นัตสึมิมาช่วยปฐมพยาบาลให้

"นี่แสดงว่า นายไล่ตามสึคาสะคุงมาตลอดเลยสินะ" นัตสึมิถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ทั้งทั้งสองหายไป แล้วเธอก็ได้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนั้น

"ใช่ ตลอดที่ผ่านมา หมอนั่นกำจัดไรเดอร์ไปทีละคนๆ จนตอนนี้ไรเดอร์อย่างพวกเราเหลือน้อยเต็มทีแล้ว" ยูสุเกะอธิบายสถานการณ์ที้่เกิดขึ้นให้นัตสึมิได้ฟัง

"ไม่จริงน่า ไม่เห็นมีเหตุผลที่จะต้อง......" แต่ก่อนที่นัตสึมิจะได้พูดอะไรมากกว่านั้น ยูสุเกะก็พูดขึ้นมาซะก่อน



"หมอนั่นหนะไม่ใช่สึคาสะที่พวกเรารู้จักอีกต่อไปแล้วนะ หมอนั่นหนะ กลายเป็นปีศาจไปแล้ว" คำพูดนี้ของยูสุเกะทำให้นัตสึมิรู้สึกสับสนและทำอะไรไม่ถูก

ทางด้านสึคาสะและยูริโกะก็อยู่ระหว่างเดินทาง โดยที่ยูริโกะก็เกาะติดสึคาสะแจ ไม่ยอมห่าง

"นี่ เธอเองก็เป็นพวกเดียวกับไรเดอร์ แล้วเธอมาอยู่ข้างๆฉันทำไมเนี่ย??"

"ทำไมกันน้า?? งั้นที่ตามมาเพราะว่านายเป็นคนหล่อ เหตุผลแค่นี้โอเคมะ"

"แบบนั้น เขาไม่เรียกเหตุผลแล้ว" ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองรึเปล่า แต่ท่าทีของสึคาสะต่อยูริโกะค่อนข้างจะอ่อนโยนพอสมควรเลย



"เอาเถอะน่า ยังไงยูริโกะก็สบายใจที่จะได้ตามสึคาสะตลอดไปแหละนะ" และแน่นอน ยูริโกะก็เข้ามากระแซะสึคาสะต่อเหมือนเดิม โดยระหว่างนั้นสึคาสะและยูริโกะก็ได้พบกับนัตสึมิและยูสุเกะเข้าพอดี (อารมณ์เหมือนละครหลังข่าวอีกและ)

"สึคาสะคุง"

"นัตสึมิ" สังเกตว่าสึคาสะจะไม่ได้เรียกนัตสึมิว่า นัตสึมิคัง เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว

"ผู้หญิงคนนั้นใครกันหนะ??" ยูสุเกะคงกลัวคนดูจะลืมว่าตัวเองอยู่ตรงนั้น เลยต้องชิงถามเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ข้างตัวสึคาสะขึ้นมาบ้าง

"ไม่ใช่ธุระอะไรของนาย!!" สึคาสะก็โต้ตอบทันควัน ความสัมพันธ์ของ 3 คนนี้ท่าทางจะแย่ลงอย่างถึงที่สุดแล้ว



"สึคาสะคุง ทำไม ทำไมถึงต้องกำจัดไรเดอร์ทั้งหมดด้วย" นัตสึมิตั้งคำถามกับสึคาสะในสิ่งที่เธอออยากรู้มานานว่าสุดท้ายแล้ว Decade ต้องเป็นผู้ทำลายโลกจริงหรือไม่

"ในแต่ละโลก ฉันทำในสิ่งที่ควรจะทำต่อโลกนั้นๆด้วยหน้าที่ที่ถูกกำหนด แต่ว่าตอนนี้และหลังจากนี้ ฉันจะทำทุกอย่างด้วยจุดประสงค์ของตัวเอง"

"ซึ่งจุดประสงค์ของนายที่ว่าคือการขจัดไรเดอร์ทั้งหมดออกไป ใช่ไหมหละ" ยูสุเกะถามย้ำกับสึคาสะอีกครั้ง ซึ่งสึคาสะเองก็ตอบได้โดยไม่ลังเล



"ฉันคือผู้ทำลายสิ้นทุกสรรพสิ่ง และตอนนี้ ชะตากรรมนี้นี่แหละคือตัวฉันในตอนนี้ มันก็แค่นั้นแหละ" ในระหว่างการสนทนานั้น ไคโตะเองก็ได้มาแอบฟังการพูดคุยนั้นด้วย และท่าทางเหมือนไคโตะเองเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างกับคำพูดของสึคาสะ



"ถ้ายังอยากจะมีชีวิตอยู่หละก็ รีบหนีไปให้ไกลๆหน้าฉันซะ ไปซะสิ" สึคาสะจิกหัวยูสุเกะขึ้นมา แต่ยูสุเกะก็ปัดมือของสึคาสะออกไป สายตาของทั้งสองที่มองกันเต็มไปด้วยความโกรธแค้น สุดท้ายสึคาสะก็เป็นฝ่ายเดินออกมาจากที่ตรงนั้นเอง แต่นัตสึมิกลับไม่ยอมให้สึคาสะจากไปง่ายๆแบบนั้น



"ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละ เพราะฉันยังเชื่อในตัวเธอนะ" นัตสึมิเลือกที่จะนำกล้องของสึคาสะมาถ่ายรูปของสึคาสะเก็บไว้ แต่สึคาสะก็รีบมาคว้ากล้องนั้นพร้อมกับขว้างทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ทำเอานัตสึมิถึงกับตกใจ ทำอะไรไม่ถูก

"ฉันไม่ต้องการกล้องนั่นอีกแล้ว ต่อไปไม่ว่าจะเป็นอะไรที่มาเผชิญหน้ากับฉัน ฉันจะทำลายมันให้ป่นปี้ทั้งหมดนั่นแหละ" สึคาสะที่ตั้งใจจะหาเรื่องเต็มที่ก็ถูกยูริโกะลากออกไปจากบริเวณนั้นซะก่อน ซึ่งทางนัตสึมิเองเมื่อนึกขึ้นได้ก็รีบออกมาตามหากล้องที่สึคาสะขว้างทิ้งมา ถึงแม้จะหาจนเจอแต่กล้องนั้นก็พังไปซะแล้ว



"ฉันจะทำยังไงดี หรือว่าฉันทำอะไรไม่ได้เลย ไม่มีอะไรที่ฉันทำเพื่อหมอนั่นได้เลยสินะ" นัตสึมิได้แต่มองกล้องของสึคาสะด้วยใจที่ห่อเหี่ยว แต่ว่าระหว่างนั้นคิบาร่าก็บินเข้ามาหานัตสึมิพอดี



"นัตสึมิจัง เธอลืมที่นารุทากิพูดไว้ไปแล้วเหรอ ว่ามีแค่เธอคนเดียวเทานั้นที่จะหยุดยั้งสึคาสะคุงได้" คิบาร่าพยายามให้นัตสึมินึกถึงคำพูดของนารุทากิก่อนหน้านี้

"ฉันเนี่ยเหรอ?? จะหยุดเขาได้" นัตสึมิเองท่าทางก็คงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งถึงสิ่งที่เธอจะทำต่อไปนี้



"เวลามาถึงแล้วนะ ฉันจะให้เธอยืมพลัง พลังอันแข็งแกร่งที่จะไม่แพ้กระทั่งปีศาจไงหละ" คิบาร่าบอกหนทางทั้งหมดให้ แต่นัตสึมิเองเหมือนยังตัดสินใจไม่ได้ซะทีเดียว

ทางด้านของลุงฮิคาริ เมื่อตกกลางคืนก็เดินมาที่ร้านเหล้าร้านหนึ่ง ท่าทางเหมือนกับว่านัดใครไว้ยังไงยังงั้น



"เอ ริวจังจะมารึยังน้า?? อ้าว ยังไม่มานี่นา" ว่าแต่ในสถานการณ์แบบนี้ คนที่ลุงฮิคารินัดพบด้วยนี่เป็นใครกัน

"ผมรอท่านอยู่เลย เชิญนั่งครับ" ทางเถ้าแก่เจ้าของร้านกล่าวทักทายลูกค้า แต่ดูรูปแบบการทักทายมันดูแปลกๆชอบกล ราวกับลูกน้องเคารพหัวหน้ายังไงยังงั้น โดยเมื่อลุงฮิคารินั่งลงปุ๊บ ก็ได้รับของเสริฟ์มาทันที เป็นปลาหมึกแห้งกับเบียร์ ซึ่งเมื่อลุงฮิคาริเห็นของเสริฟ์นี้เข้า ก็เหมือนจะนึกอะไรออกขึ้นมาทันที



"อิคาเดะ (ปลาหมึกแห้ง) เบีย-รุ (เบียร์) อิคาเดเบียรุ อิคาเดวีลุ(IkaDevil) งั้นเหรอ??" (ตรงนี้เป็นการเล่นคำของทางเขานะครับ อ่านตามไม่เข้าใจโปรดดูของจริง) ซึ่งเมื่อลุงฮิคาริมองเจ้าของร้านให้ดีๆ กลับพบว่าหมอนั่นคือนารุทากินั่นเอง และไม่ทันจะได้นึกอะไรมากกว่านั้น ผ้าคลุมสีดำก็เข้ามาคลุมร่างกายของลุงฮิคาริเหมือนเดิมอีกครั้ง



"ฉันนี่แหละ ซูเปอร์ ดร. ชินิงามิ" ในที่สุดลุงฮิคาริก็เปลี่ยนร่างตนเองกลายเป็น ดร.ชินิงามิ อีกครั้ง



"และฉันก็คือ.....นายพลโซลยังไงหละ" ทางนารุทากิเองก็เปิดเผยตัวจริงของตนเอง ที่แท้คือนายพลโซลที่เคยต่อสู้กับดับเบิลไรเดอร์มาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีตนั่นเอง

"และในตอนนี้ ไดชอคเกอร์ของเราได้เกิดใหม่กลายเป็น ซูเปอร์ชอคเกอร์ แล้ว" ดร.ชินิงามิประกาศเปลี่ยนชื่อองค์กร์กันง่ายๆเลย ซึ่งทันทีที่แกนนำทั้งสองปรากฎตัว เหล่าทหารและกำลังรบของซูเปอร์ชอคเกอร์นำโดยนางพญาผึ้งนั่นเอง



"ทั้งหมดแสดงความเคารพต่อผู้นำอันยิ่งใหญ่ของเรา ดร. ชินิงามิ และนายพลโซล!!!" ซึ่งเหล่ากีกี้ก็น้อมรับคำสั่งและแสดงความเคารพด้วยเสียง "กี้" โดยพร้อมเพรียง

"เฮ้!! ชุดแกหนะ ใส่ให้มันดีๆหน่อย ควาไม่มีระเบียบในการแต่งตัวย่อยหมายถึงความหละหลวมในการทำงาน เข้าใจมั้ย?? และในตอนนี้ฉันเป็นเจ้านายของพวกแก ฉันไม่มีวันยอมให้พวกแกทำตัวไร้ระเบียบแบบนี้แน่ รู้เอาไว้ซะ" ทางนายพลโซลก็ตรวจตราลูกน้องยังกะค่ายทหารเลยวุ้ย



"เพราะ Decade ทำให้ตอนนี้มีไรเดอร์ที่จะคอยขัดขวางเราเหลือแค่ไม่ถึงหยิบมือ และอีกไม่นานสัตว์สังหารอันทรงพลังก็จะตื่นขึ้น เมื่อนั้นแหละที่โลกจะเป็นของพวกเรา ซูเปอร์ชอคเกอร์" ดร.ชินิงามิประกาศสโลแกนออกมาเรียบร้อย พร้อมที่จะบุกยึดครองโลกในเร็ววัน



ทางด้านสึคาสะและยูริโกะก็หลบหน้าทุกคนมาอยู่ที่โรงงานร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งระหว่างที่สึคาสะเองกำลังไล่ดูการ์ดที่ตนเองเก็บมาได้นั้น ก็พบกับการ์ดไรเดอร์ใบหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย (แต่คนดูรู้หมดแล้ว ว่านั่นใคร) ซึ่งยูริโกะเห็นสึคาสะชอบนั่งดูการ์ดที่ได้มาเป็นประจำ ก็เลยอดถามไม่ได้

"นี่ๆ ทำไมจะต้องมานั่งดูการ์ดพวกนั้นหลังการต่อสู้ทุกครั้งด้วยหละ??"



"การ์ดพวกนี้คือสิ่งเดียวที่เหลืออยู่หลังจากการต่อสู้กับเหล่าไรเดอร์ ดังนั้นอย่างน้อยฉันก็อยากจะจดจำเหล่าไรเดอร์ที่ฉันเคยกำจัดไปก็เท่านั้นแหละ" แต่ประโยคนี้ของสึคาสะกลับทำให้คนถามอย่างยูริโกะรู้สึกเหงาขึ้นมาแบบแปลกๆ



"น่าอิจฉาจังนะ ทำไมไม่มีคนจำยูริโกะได้เลยซักคน" ซึ่งทันทีที่ยูริโกะพูดแบบนั้น สึคาสะเองก็ลุกขึ้นมาราวกับต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง แต่ยูริโกะก็ชิงพูดขึ้นมาซะก่อน

"ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจะคิดอะไรมากมายหรอก ขอโทษที่พูดเรื่องน่าเบื่อๆขึ้นมานะ" ระหว่างที่สึคาสะและยูริดกะกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก็มีมือดีมาฉกการ์ดทั้งหมดของสึคาสะไป แต่เหมือนสึคาสะจะพอรู้อยุ่แล้วว่าคงเป็นฝีมือใครอื่นไปไม่ได้

"ยังชอบขโมยของคนอื่นเหมือนเดิมเลยนะ ไคโตะ" ถึงสึคาสะจะพูดแบบนั้น แต่ดูท่าทางไคโตะเองจะไม่สนใจอะไร แถมชวนคุยไปคนละเรื่องอีกต่างหาก



"ท่าทีเคร่งขรึมแบบนั้นไม่เหมาะกับนายเลยนะ ทำตัวให้สบายแล้วกลับไปเป็นนายเหมือนเมื่อก่อนดีกว่ามั้ง" ถึงประโยคจะดูเล่นๆแต่แฝงความหมายเอาไว้พอควร

"เอาการ์ดของสึคาสะคืนมานะ" ยูริโกะที่เห็นไคโตะชิงการ์ดของสึคาสะไป ก็รีบวิ่งไปหาไคโตะหวังจะเอาคืน แต่กลับโดนไคโตะล่อหลอกเป็นหมาหยอกไก่ซะนี่

"มิซากิ ยูริโกะ งั้นเหรอ ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าเธอจะเป็นตายร้ายดียังไง แต่ที่ฉันสนใจคือทำไมคนอย่างเธอถึงมาอยู่ที่นี่มากกว่า" ไคโตะพูดราวกับรู้ที่มาที่ไปของยูริโกะเป็นอย่างดี

"นี่ นายพูดบ้าอะไรอยู่เนี่ย" ยูริโกะหล่อยหมัดเข้าใส่หน้าไคโตะ แต่ถึงไคโตะก็สามารถรับหมัดนั้นไว้ได้ก่อน สึคาสะที่เห็นแบบนั้นก็มาชิงการืดคืนจากมือไคโตะ (แบบง่ายๆ) และพายูริโกะออกจากที่ตรงนั้น



"สึคาสะ นี่นายคิดจะเลี้ยงคนตายเอาไว้ทำอะไรหรือไง??" คำพูดประโยคนี้ของไคโตะโดนยูริโกะเข้าอย่างจัง

"หุบปากเถอะน่า" สึคาสะที่เหมือนจะรู้อะไรอยู่แล้ว สั่งไคโตะทันทีให้หยุดพูด แต่ท่าทางไคโตะจะยังไม่หยุดแค่นั้น

"มิซากิ ยูริโกะที่ฉันรู้จักหนะ ตายไปตั้งแต่ตอนที่สู้กับนางพญาผึ้งแล้วนะ นายเองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ สึคาสะ"



"ฉันไม่สนหรอก เธอคนนี้หนะ เคยเป็นเหมือนกับกับฉัน เธอไม่สามารถพบปะกับใครได้ นั่นทำให้ที่ๆเธอจะอยู่มันไม่มีไปด้วย และเธอก็ตายไปโดยไม่สามารถหาคำตอบของที่อยู่ของตนเองได้พบ เป็นการตายที่น่าเศร้า ดังนั้นหลังจากที่เธอตาย เธอจึงพยายามค้นหาที่ๆเป็นที่ของเธอยังไงหละ" คำพูดของสึคาสะที่รู้เรื่องราวทุกอย่างตั้งแต่แรกกระเทือนใจยูริโกะเข้าอย่างแรง



ซึ่งจากคำพูดนั้นทำให้ยูริโกะนึกภาพออกถึงตอนที่เธอปะทะกับนางพญาผึ้งและตายในการต่อสู้ครั้งนั้นออกในที่สุด



"ไม่จริง เรื่องบ้าๆแบบนี้มันไม่จริงหรอก ให้ตายสิ ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยเนี่ย บ้าจังเลยเนอะ" ยูริโกะที่รับความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็รีบวิ่งออกไปจากตรงนั้น ซึ่งสึคาสะเองก็พยายามตามไป แต่กลับถูกขัดขวางเอาไว้ซะก่อนด้วยสองไรเดอร์ใช้การ์ด Ryuki และ Blade ซึ่งดูท่าทางสองไรเดอร์จะมาหาเรื่องสึคาสะผิดเวลาซะจริงๆ



ทางด้านฐานของซูเปอร์ ชอคเกอร์ ดร.ชินิงามิก็พยายามจะทำการปลุก Neo-Organism (ขออนุญาตเรียกตรงตัวนะครับ) ขึ้นมา ซึ่งในที่สุด Neo-Organism ก็ตื่นขึ้นมา



"ป๊ะป๋า มาม้า ช่วยปล่อยผมออกไปจากที่นี่ทีเถอะ" Neo-Organism ที่เริ่มตื่นขึ้นมา เริ่มโต้ตอบกับพวกของ ดร. ชินิงามิในที่สุด

"อีกไม่นาน เราจะได้พลังที่ก้าวข้ามได้กระทั่งพลังของพระเจ้ามาแล้ว" ดร.ชินิงามิกับนางพญางผึ้งต่างก็ยินดีปรีดา โดยไม่รู้ถึงลางหายนะที่กำลังใกล้เข้ามา



ทางด้านของสองไรเดอร์ที่กำลังปะทะกับ Decade ก็ต่อสู้กับ Decade อย่างยากลำบาก ถึงแม้ว่าจะ 2 รุม 1 แต่ดูท่าทางแล้ว ฝ่ายที่รุมกลับดูจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบมากกว่าด้วยซ้ำไป จนในที่สุดผลลัพธ์ของการต่อสู้ Decade ใช้การ์ด FFR:BladeBlade เปลี่ยนร่าง Blade กลายเป็นดาบขนาดยักษ์เข้าฟังริวคิจนแหลกสลายในพริบตา ส่วนทาง Blade เองก็ถูกโยนทิ้งทั้งในสภาพ FFR แถมยังโดน FAR: Dimension Kick เข้าซ้ำจนระเบิดหายไปโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะต่อต้าน



ภายหลังเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวนั้น ยูสุเกะก็ปรากฎตัวขึ้นราวกับรับรู้ชะตากรรมสุดท้ายของตนเองที่ตนเองต้องเป็นคนหยุดมันลง



"ท่าทางจะเหลือฉันเป็นไรเดอร์คนสุดท้ายแล้วสินะ สึคาสะ ฉันจะกำจัดนายเอง" ยูสุเกะแปลงร่างเป็น Ultimate Form เพื่อเตรียมเข้าต่อสู้กับ Decade ในฐานะไรเดอร์คนสุดท้าย (บอกตรงๆว่าทั้งเรื่อง Decade ชอบ Soundtrack ตอนนี้ที่สุดและ) (และสงสัยคนที่จะแปลงเป็น Ultimate Form ตาสีแดงได้ คงมีแค่ โกได ยูสุเกะ คนเดียวจริงๆ)



"ฉันรู้นะ ว่านั่นคือร่างสุดยอดของนายแล้ว แต่สิ่งที่ฉันจะบอกตอนนี้ก็คือพลังของฉัน อยู่เหนือกว่าความสุดยอดของนายนะ" Decade บลั๊ฟกันสุดฤทธิ์ ว่าพี่แกเมพมากกว่า Kuuga Ultimate ว่างั้นเหอะ

ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างไม่มีการลดราวาศอก ด้วยพลังที่เหนือกว่า Kuuga เป็นฝ่ายรุกไล่ Decade จนเกือบหมดท่า แต่สุดท้าย Decade ก็อาศัยความเมพจัดการเล่นงาน Kuuga Ultimate ลงไปนอนกองกับพื้นได้



"ฉันไม่อยากเห็นใครต้องมาร้องไห้อีกแล้ว ถ้าเพื่อปกป้องรอยยิ้มของทุกคน ต่อให้ฉันต้องกลายเป็นร่างแห่งความมืดแบบนี้ฉันก็ยอม" ว่าแล้ว Kuuga Ultimate ก็เปลี่ยนร่างตัวเองโดยไม่ง้อการ์ด FFR ของ Decade โดยเปลี่ยนร่างตนเองเป็น Ultimate Gouram แล้วพา Decade บินขึ้นไปบนฟ้า



"สึคาสะ ฉันจะไม่ให้นายต้องตายคนเดียวหรอก ฉันจะไปกับนายด้วย" ที่แท้แล้วยูสุเกะเองยังคงเป็นห่วงสึคาสะจนวินาทีสุดท้าย แต่ดูเหมือนสึคาสะเองไม่เป็นแบบนั้น Decade จึงเล่นงาน Ultimate Gouram ทั้งๆที่บินอยู่ จนทั้งสองตกลงไปในโรงงานและเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ถึง Decade จะรอดมาได้ แต่ Kuuga ก็ได้พลีชีพไปเสียแล้ว ซึ่งนัตสึมิที่เห็นเหตุการณ์มาตลอด ก็ไล่ตามทั้งสองมาจนมาเจอ Decade ในสภาพอ่อนระโหยโรยแรงเข้าพอดี



"พอกันที มันมากเกินไปแล้วนะ ฉันนี่แหละจะเป็นหยุดสึคาสะคุงเอง" นัตสึมิพูดประโยคนี้ออกมาด้วยสายตาที่แสดงถึงการตัดสินใจที่แน่วแน่แล้ว



"แปลงร่าง" นัตสึมิแปลงร่างจากการรับพลังของของคิบาร่าจนกลายเป็นไรเดอร์คนใหม่ ที่อาจจะเป็นคนสุดท้ายที่จะหยุด Decade ลงได้
(ปล....Sound Effect ตอนแปลงร่างเหมือนของ Saga ไม่มีผิดเพี้ยน)

"ก็ลองหยุดฉันดูสิ" Decade เองท้าทายไรเดอร์หญิงคนนี้อย่างเต็มที่



"ฉันนี่แหละ มาสค์ไรเดอร์ คิบาร่า" นัตสึมิในร่าง Kivara เข้าจู่โจมใส่ Decade อย่างหนักหน่วงและรุนแรง และในการโจมตีปิดท้าย Decade กลับทิ้งการป้องกันทั้งหมดจนทำให้ปลายดาบพุ่งทะลุร่างของเขาในทันที ผลก็คือ Decade Driver ก็พังจนใช้การไม่ได้ไปด้วย

"ทำไม นายถึงไม่หลบหละ??" นัตสึมิที่คืนร่างเดิมเดินเข้ามาหาร่างของสึคาสะที่บาดเจ็บหนัก คำถามเกิดขึ้นมากมายกับตัวเธอในตอนนี้



"ฉัน...อยากให้เธอเป็นคนที่คอยจำไรเดอร์ที่ฉันต่อสู้ด้วยเอาไว้ ช่วยเก็บการ์ดเหล่านี้ไว้ด้วย เพราะตัวฉันเป็นคนเดียวที่รู้วิธีการทำให้พวกเขาไม่หายไป ดังนั้นฉันถึงต้องสู้กับพวกเขาเพื่อเก็บพวกเขาเหล่านี้เอาไว้ในการ์ด แต่ฉันก็ดีใจนะ ที่เธอเป็นคนหยุดฉันเอาไว้ได้ นัตสึมิคัง" สิ้นประโยคนี้สึคาสะก็สิ้นใจลงถึงแม้ว่าไคโตะจะมาถึงที่นี่แล้วก็ตาม สร้างความตกตะลึงให้กับทั้งไคโตะและนัตสึมิกับความตายตรงหน้าของเพื่อนอีกคน แต่ทันทีที่สึคาสะตายลงก็เกิดประตูมิติพาทั้งสองมายังอีกห้วงเวลาหนึ่ง ห้วงเวลาที่สึคาสะเคยพบกับวาตารุเป็นครั้งแรกนั่นเอง และทั้งสองก็ได้พบกับวาตารุที่นั่นด้วย



"เรื่องราวของไรเดอร์ก็ไม่ต่างอะไรกับเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่สูญสลายไปได้เพราะกาลเวลา แต่เพราะการต่อสู้ของ Decade นั่นแหละที่จะทำให้เรื่องราวเหล่านั้นติดตรึงไว้ในใจคนและเรื่องราวเหล่านั้นก็จะยังคงดำเนินต่อไปได้" (ไม่รู้ว่าประโยคนี้วาตารุอยากบอกใคร พวกนัตสึมิหรือว่าคนดูอย่างเราๆกันแน่)



ซึ่งภายหลังที่วาตารุพูดประโยคนี้จบ วาตารุได้แสดงให้พวกนัตสึมิได้เห็นถึงการคืนกลับมาของเหล่าไรเดอร์ที่ถูกกำจัดไป ไม่ว่าจะเป็น ยูสุเกะ อาสุมุ และวาตารุ (เด็ก) รวมถึงไรเดอร์คนอื่นๆที่ถูกกำจัดไปในสงครามไรเดอร์เองก็ด้วย



"การสร้างใหม่จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการทำลายมันซะก่อน และหลังจากนี้ต่อไป เรื่องราวของเหล่าไรเดอร์ที่คืนกลับมาจากการถูกทำลายก็จะไม่สูญหายไปไหนอีกตลอดกาล" วาตารุอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พวกนัตสึมิได้เข้าใจ แต่กลับกลายเป็นการสร้างคำถามให้กับนัตสึมิไปซะแทน

"เดี๋ยวก่อน แล้วเรื่องราวของ Decade หละ"



"Decade หนะ ไม่มีเรื่องราวเป็นของตัวเองหรอกนะ" สิ่งที่วาตารุตอบออกมานั้น กลับทำให้ทั้งไคโตะและนัตสึมิรับความจริงข้อนี้ไม่ได้ แต่ก่อนที่จะได้ถามอะไรมากกว่านั้น ทั้งสองก็ถูกพากลับออกมาบริเวณที่ทั้งสองเคยนั่งคุยกันในตอนแรกๆ บริเวณที่นัตสึมิเผารูปถ่ายของสึคาสะ แต่ยังไม่ทันได้เผาอัลบั้มรูปที่สึคาสะถ่ายมาจากแต่ละโลก



เมื่อเธอไปเปิดดูก็พบว่า รูปถ่ายของโลกไรเดอร์ต่างๆกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันหมดแล้ว

"รู้สึกว่าไรเดอร์คนอื่นๆก็ฟื้นขึ้นมากันหมดแล้วหละนะ ทุกคนต่างกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ถึงอย่างนั้นสึคาสะกลับต้องตายจากไปโดยที่ไม่มีใครรู้ถึงสิ่ง

โพสต์โดย
echoecho

25 พ.ค. 53 เวลา 18:38 1,846