แรกๆก็ไม่ได้อะไร แต่พอมีข่าวว่าระบาดในไทย ดูจากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก็เริ่มคิดว่ามันใกล้ตัวขึ้นมาทุกที
เมื่อเช้าตอนออกจากบ้านขึ้นรถไฟฟ้าเห็นคนใส่ผ้าปิดปากกันพอสมควรครับ
ที่สวนจตุจักรก็ด้วย เพราะเป็นที่รวมคนไว้เยอะ แล้วก็มีการเบียดเสียดกัน แถมยังมีคนจากหลายประเทศไปรวมตัวกันอีก โอกาสเสี่ยงก็มีมากกว่าที่อื่น
คำถาม คือ เราควรจะทำตัวอย่างไรดี
คนที่ใส่ผ้าปิดปากคิดว่าไม่ได้ป่วยหรอก คงกลัวติด แต่ก็คงต้องทนกลับการถูกคนอื่นมองด้วยสายตาแปลกๆ ประมาณว่ากระต่ายตื่นตูม
อย่างว่า คนชุดนำร่อง บุกเบิกก็งี้ อีกเดี๋ยวถ้ามีคนใส่เยอะๆก็ไม่มีอะไร ซึ่งอันที่จริงก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ถ้าใส่แล้วสบายใจก็ไม่น่าเสียหาย
สำหรับคนที่ยังไม่กลัวติด ไม่ได้ใส่ผ้าปิดปาก ก็อาจถูกคนที่ใส่ในตอนนี้มองว่ากำลังเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง คอยดูเถอะติดขึ้นมาจะพูดไม่ออก ประมาณว่า หัวเราะทีหลังดังกว่า
ร่างกายของใคร คนนั้นก็ต้องดูแล ยิ่งดูจากมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขหรือรัฐบาลแล้ว ประชาชนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า พึ่งตัวเองดีที่สุด
ส่วนคนที่ดันมาเป็นไข้หวัดช่วงนี้ยิ่งแล้วใหญ่ นอกจากจะกังวลว่าตัวเองจะติดเชื้อหวัด2009หรือเปล่า ยังต้องแคร์กับสายตาคนอื่นที่มองอย่างหวาดระแวง หรือ รังเกี่ยจ ทุกครั้งที่แสดงอาการ ไอ หรือ จาม
แม้ว่าโรคหวัด2009จะไม่ได้ติดเชื้อกันง่ายๆ และถึงเป็นสามารถรักษาให้หายได้ก็ตาม
คุณละกลัวติด ไข้หวัด2009 หรือไม่
รู้จักป้องกันสิคะ จะได้ไม่ติดโรค
ก้อแอบกลัวอยู่นะ
น่ากลัวเหมือนกัน
ใช่ครับ
ผมว่าป้องกันอ่ะครับ
ดูทีวีเค้าบอกอะไร
ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็พยายามหลีกเลี่ยง
ใช่ครับ
ผมว่าป้องกันอ่ะครับ
ดูทีวีเค้าบอกอะไร
ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็พยายามหลีกเลี่ยง
ใช่ครับ
ผมว่าป้องกันอ่ะครับ
ดูทีวีเค้าบอกอะไร
ทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็พยายามหลีกเลี่ยง