เวลาที่เราสับสนและตั้งคำถามกับตัวเองอย่างมากมายว่าเราชอบอะไร อยากทำอะไร มีสิ่งไหนที่ต้องการจะทำ แม้ว่าหลายสิ่งที่อยากทำนั้น ณ เวลานั้น อาจจะยังไม่สามารถเริ่มทำได้ เช่น การได้เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ที่จะต้องมีการเก็บเงิน วางแผนวันลา วางแผนการท่องเที่ยว เตรียมเอกสารต่างๆทำวีซ่า กระบวนการหลายอย่างอาจจะทำให้เราติดขัด เราอาจจะเริ่มจากความสนใจในสิ่งที่เราพร้อมทำก่อน เช่น เราฝันจะเป็นบาริสต้า เราอาจจะไปเรียนคอร์สสั้นๆในการทำกาแฟ ได้ความรู้แล้วยังได้ใบประกาศเผื่อได้ใช้ในอนาคตอีกด้วย ในกรณีที่เราอยากเปลี่ยนงาน หรืออยากเปิดธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ก็สามารถนำความรู้นี้ไปใช้ได้
ในวัยที่ยังอยากเล่นสนุกอย่างวัยเด็กเล็ก เราควรปล่อยให้เขาได้ลองเล่น ลองทำอะไรที่อยากทำ โดยที่เราดูแลอย่างห่างๆเพื่อไม่ให้เกิดอันตรายใดๆเกิดขึ้นได้ เด็กควรได้เรียนรู้จากการเล่น การลองทำเพื่อให้เกิดประสบการณ์จากการทดลอง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ได้ทำตามฝัน อยากทำอะไรก็ได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานศิลปะ กีฬาหรือดนตรี อาจจะรวมไปถึงการลองทำอาหารและเบเกอรี่ ที่เราจะเห็นได้ว่า มีเชฟตัวน้อยมากมาย ที่สามารถทำขนมหรือเค๊กได้อย่างมืออาชีพ สิ่งเหล่านี้ทำให้เด็กได้มีประสบการณ์ ความอดทนและยังฝึกวินัยอีกด้วย ส่วนเรื่องการเรียนนั้น ถ้าเด็กได้เรียนในหลักสูตรที่มีการสนับสนุนนอกเหนือจากเรื่องของทางวิชาการก็จะดีมาก ไม่เน้นเรียนหนัก แต่เน้นการนำความรู้มาใช้ประโยชน์ เช่น หลักสูตรการสอนอย่างโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียม international school Bangkok fees ที่แตกต่างกันของแต่ละโรงเรียน อยู่ที่ดุลยพินิจของพ่อแม่ว่าจะเลือกหลักสูตรไหนที่เหมาะกับลูก ส่วนเรื่องพัฒนาการทางร่างกายนั้น ต้องอยู่ที่เรื่องอาหารและโภชนาการเป็นหลัก รวมไปถึงการออกกำลังกายเพื่อให้มีร่างกายแข็งแรงและบุคลิกภาพที่ดีอีกด้วย เว็บไซต์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แชร์บทความไว้ว่า โภชนการในเด็กวัยเรียนนั้นควรจัดอาหารหลักให้เด็กบริโภคให้ครบทั้ง 3 มื้อ ไม่ควรเว้นมื้อใดมื้อหนึ่ง โดยเฉพาะมื้อเช้า ควรจัดอาหารให้ครบถ้วนได้:)ส่วนและเพียงพอกับ ความต้องการของร่างกายเด็ก ควรให้เด็กบริโภคอาหารตรงเวลา ไม่ควรให้เด็กรับประทานขนมจุบจิบ ควรจัดอาหารว่างให้เด็กบริโภคตอนสายและตอนบ่าย ในแต่ละมื้อไม่ควรจัดให้มีอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลอย่างเดียวเท่านั้น ควรพยามจัดอาหารให้ครบหมู่ ผู้ปกครองควรให้ความสนใจกับสภาพจิตใจของเด็กเพราะมีผลกระทบถึงการกินอาหารและภาวะโภชนาการของเด็ก อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง อาหารที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กได้แก่ อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก อาหารรสจัด น้ำอัดลม ชา กาแฟ ขนมหวานจัด ท๊อฟฟี่ ขนมกรุบกรอบ อาหารพวกนี้จะทำให้เด็กอิ่มและไม่บริโภคอาหารมื้อหลัก ทำให้เด็กได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายน้อย