บอร์ด
กระทู้: ความหวังของธุรกิจท่องเที่ยว สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวหรือไม่

จากที่ได้ใกล้ชิดแนบสนิทกับกลุ่ม ธุรกิจท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทัวร์ พนักงานสายการบิน โรงแรมทั้งเล็กและใหญ่ และร้านค้า ร้านของฝากทั้งในสนามบินและแหล่งท่องเที่ยว นั้น ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้าไทยนั้นยังห่างกันไกลราวฟ้ากับดิน ถ้าเทียบกับก่อนเหตุการณ์โรคโควิด 19

โดยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมในช่วงเดือนมกราคม – ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีจำนวนนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติสะสมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวน 39.79 ล้านคน  ที่ยกตัวเลขปี 2019 นั้นเพราะ ปลายปี 2019 นั้นโควิด 19 ตัวร้ายก็ได้เล่นงานเราไปแล้ว


แล้วเรามาดูตัวเลข ปี 2565 กัน นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวไทย สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-30 ตุลาคม 2565 มีนักท่องเที่ยวแล้วกว่า 7.56 ล้านคน เทียบกันแบบนี้ คงจะเห็นภาพง่ายขึ้นระหว่าง 39.79 ล้านคนกับ 7.56 ล้านคน นั้นช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  แล้วจะให้ธุรกิจท่องเที่ยวนั้นยิ้มได้อย่างที่ข่าวนำเสนอได้จริงหรือ?

ทั้งนี้จากภาพข่าวที่กระจายออกไปนั้น อาจจะต้องมีดูกันอีกทีหละว่า การเกิดการแออัดในสนามบินนั้น อาจเกิดจากหลายปัจจัย อาทิ การกระจุกตัวของเที่ยวบินในช่วง ชั่วโมงเร่งด่วนหรือไม่ หากเป็นแบบนั้น ไม่ใช่เรื่องดีแน่เพราะสะท้อนให้เห็นถึงการจัดการต่างๆ ที่เราต้องรับมือกับชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวไทย

 

โดย ณ ปัจจุบัน จากข้อมูลของ ททท. คาดว่าในปี 2566 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนประเทศไทยเป็นจำนวน 18 ล้านคน ซึ่งจะสร้างรายได้ประมาณ 9.7 แสนล้านบาท ส่วนการประมาณการตลาดในประเทศ ททท.คาดว่าจะสร้างรายได้ 7.6 แสนล้านบาท รวมรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้นประมาณ 1.73 ล้านล้านบาทตลอดทั้งปี

 

 

 

 

 

จากการคาดว่า....ในปี 2566 นั้นก็ยังมีตัวเลขที่ต่ำกว่า ก่อนเหตุการณ์โควิด 19 อยู่ดี สภาวะแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีแน่นอนต่อกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวเพราะปัจจัยหลายอย่างที่เกิดขึ้นตอนนี้ส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจท่องเที่ยวอย่างมากมาย

จะขอยกตัวอย่าง ที่คิดออกง่ายๆ

  • นทท.จีนยังปิดประเทศ แม่จะมีการเกริ่นออกมาถึงมาตรการการเปิดประเทศ แต่ก็ยังไม่เปิดเสียที
  • นทท.จีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจท่องเที่ยวไทย เพราะ กล้าซื้อกล้าจ่าย และที่สำคัญยังขนของฝากกลับไปให้เพื่อนฝูงหรือญาติพี่น้องตามธรรมเนียมเอเชียบ้านเรา
  • นักท่องเที่ยวอินเดีย ที่ไทยมีความหวังในตอนนี้ก็ยังมีหน้า ท่องเที่ยวของพวกเขา เพราะฉะนั้นต้องระวังการขาดช่วงของนักนทท.จากอินเดีย ซึ่งเป็นความหวังเล็กๆของเรา
  • สงคราม รัสเซีย – ยูเครน เลี่ยงไม่ได้เลยกับปัญหานี้เพราะ รัสเซียถือเป็นนทท.ที่เดินทางเข้าประเทศไทยเราในลำดับต้นๆ ทั้งนี้การเกิดปัญหาสงครามก่อให้เกิด การชะงักของนทท.กลุ่มนี้
  • กลุ่มประเทศยุโรป ใช้จ่ายลดลงเนื่องจาก การกังวลเรื่องสงคราม เพราะพูดได้เต็มปากเลยว่า สงคราม รัสเซีย – ยูเครนนั้น ยุโรปกระทบเต็มๆ

การประหยัดเงินไม่ได้ทางท่องเที่ยวไกลๆนั้น มีผลต่อกลุ่มนี้มาก

  • ต้นทุนสูงขึ้น อย่างที่เราทราบ สงคราม รัสเซีย – ยูเครน และผลกระทบหลังโควิด19 นั้น ส่งผลให้ต้นทุนต่างๆสูงขึ้นมาก
  • ประเทศรอบข้างเราทยอยเปิดท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน อาทิ ประเทศ ญี่ปุ่น อย่าว่าแต่นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเทไปญี่ปุ่นเลย นักท่องเที่ยวไทยก็ไปญี่ปุ่นจนล้นทะลัก

 

ธุรกิจท่องเที่ยวปิดไปเกือบ3 ปี รายได้ไม่มี เงินทุนที่มีจะต่อยอดอาจไม่เพียงพอ

การที่ข่าวออกมาสำหรับตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ออกมานั้น มันน่าดีใจที่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น แต่เจาะตัวเลขกันจริงๆ ยังห่างไกลมากๆ สำหรับธุรกิจนี้ น่าเป็นห่วงและเอาใจช่วยและอยากให้นำเสนอในมุมของข้อเท็จจริงเพราะหากไม่ลงมาดูแลกันธุรกิจนี้ไปต่อไม่ได้แน่ๆ

ที่มาของข่าว

https://thejournalistclub.com/นายกฯ-ปลื้ม-ต่างชาติ-เที/

https://plus.thairath.co.th/topic/money/102360

https://www.parliament.go.th/ewtadmin/ewt/elaw_parcy/ewt_dl_link.php?nid=2538

https://www.thebangkokinsight.com/news/business/economics/981617/

 

14 พ.ย. 65 เวลา 21:45 718