การฉีดโบท็อกลดกรามเป็นหนึ่งในหัตถการที่กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะสามารถปรับรูปหน้าให้เรียวและเล็กลงได้ หลายคนที่มีปัญหากรามใหญ่หรือมีรูปทรงไม่ถูกใจจึงหันมาให้ความสนใจการฉีดโบลดกรามกันมากขึ้น ดังนั้นเรามาทำความรู้จักโบท็อกกรามกันเลย
โบท็อก หรือ Botulinum Toxin เป็นโปรตีนที่สกัดได้จากการสร้างของแบคทีเรียคลอสตริเดียม โบทูลินัม (Clostridium Botulinum) โดย Botulinum Toxin ที่ได้พัฒนาขึ้นมาใช้ทางการแพทย์ มีอยู่ 2 ชนิดคือ ชนิดเอ (Type A) และ ชนิดบี (Type B)
โดยโบท็อกเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) ผ่านการจับปลายประสาท ทำให้เซลล์ประสาทไม่สามารถหลั่งสารสื่อประสาทมาที่กล้ามเนื้อได้และกล้ามเนื้อเป็นอัมพาตชั่วคราว เชื้อโรคนี้หากได้รับมากจนเกินไปจะทำให้อาหารเป็นพิษหรือเกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ แต่ถ้าได้รับในปริมาณอย่างพอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคตาเหล่ ตาเข และที่สำคัญยังเป็นผลดีในวงการเสริมความงามอีกด้วย
สำหรับการเสริมความงาม โบท็อกที่ใช้จะเป็น ชนิดเอ (Type A) ช่วยให้ริ้วรอย รอยย่นบริเวณหางตาหรือหน้าผากลดลงยกกระชับผิวให้ดีขึ้นดูอ่อนเยาว์ หรือโบท็อกกรามจึงสามารถช่วยให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้นได้
นอกจากการฉีดลดกรามแล้ว โบท็อกสามารถใช้ได้กับหลายจุดบนร่างกาย โดยสามารถฉีดได้ใบริเวณต่างๆ ต่อไปนี้
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น โบท็อกจะทำงานโดยการจับปลายประสาทไม่ให้สื่อสารมายังกล้ามเนื้อได้ หรือเรียกว่าเป็นการทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดเป็นอัมพาตชั่วคราว ดังนั้นเมื่อฉีดโบท็อกกราม กล้ามเนื้อจะมีการคลายตัวทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง ใบหน้าจึงดูเรียวเล็กลงนั่นเองนอกจากนี้ สิ่งที่ต้องคำนึงคือสาเหตุของปัญหา เนื่องจากการทำงานของโบท็อกเกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ ถ้าหากบริเวณขอบกราม เหนียง มีส่วนที่เป็นไขมัน ในจุดนี้จะต้องใช้หัตถการอื่น เช่น การฉีดสลายไขมันร่วมด้วย เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ตรงจุดมากที่สุด
สำหรับโบท็อกนั้น หากใช้ของแท้และฉีดโดยแพทย์ผู้ชำนาญการจะไม่เป็นอันตรายใด จึงเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงไว้เสมอว่า ต้องฉีดโบท็อกกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย และเลือกใช้โบท็อกที่ได้มาตรฐานอย. ลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ เช่น อาการยิ้มได้ไม่สุด หนังตาตก ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด ผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจส่งผลอันตรายต่อชีวิต ดังนั้นต้องเลือกและศึกษาอย่างรอบคอบก่อนเริ่มทำ
เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย ซึ่งระยะเวลาของผลลัพธ์การฉีดนั้นจะแตกต่างกันไปตามแต่ละแบรนด์ เป็นเพราะมีระดับความบริสุทธิ์ต่างกัน หากโบท็อกมีความบริสุทธิ์สูงก็จะยิ่งอยู่ได้นาน ซึ่งสำหรับตัวยาโบท็อกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. ไทย และเป็นที่นิยมใช้ จะสามารถอยู่ได้นาน 4 - 6 เดือน ขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวันและการดูแลตัวเองหลังทำของแต่ละบุคคลด้วย
การฉีดโบท็อกลดกรามสามารถปรับรูปหน้าให้ดูสวยขึ้นได้จริง เหมาะกับผู้ที่มีกล้ามเนื้อกรามขนาดใหญ่ อีกทั้งยังสามารถใช้กับบริเวณอื่นๆ ของร่างกายเพื่อแก้ไขปัญหาที่แตกต่างกันไป ทั้งนี้ขอแนะนำให้ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐานจะได้ลดความเสี่ยงอันตรายจากการฉีด
พัชชาคลินิก (Patcha Clinic) คือคลินิกเสริมความงามโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและการปรับรูปหน้าให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล เรามีบริการด้านการร้อยไหม ฉีดฟิลเลอร์ ฉีดโบท็อก เลเซอร์ และการดูแลปัญหาผิวพรรณต่างๆ ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานความปลอดภัย พร้อมการบริการที่เป็นมิตร เพื่อตอบโจทย์ความงามของทุกคน สร้างความพึงพอใจให้กับคนไข้ทุกท่าน เหมือนมีคนในครอบครัวเข้ามาดูแล
เว็บไซต์: https://patchaclinic.com/
โทร.: 062-292-6464 หรือ 098-909-5864
LINE: @patchaclinic
Facebook: Patcha clinic พัชชา คลินิก
Instagram: patcha.clinic
YouTube: Patcha Clinic
เปิดบริการทุกวัน เวลา 13:00 น. – 20:00 น.