อีกหนึ่งความสุดยอดของคนไทยไประดับโลกอีกแล้ว จากข่าวของฐานเศรษฐกิจ เมื่อเย็นวันนี้ กับการที่ได้มีผู้บริหารจากคนไทย ได้ไปสร้างชื่อระดับโลก ด้านความมีคุณค่าไม่ใช่แค่การเป็นแชมป์ฟุตบอลหรือการบริหารทีม แต่เป็นการเข้าถึงชุมชน การเข้าถึงใจของคนในพื้นที่รอบด้าน วันนี้ อัยยวัฒน์ ประธานคิง เพาเวอร์ หรืออีกตำแหน่งคือ ประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ตอนนี้เทศบาลเองเมืองเลสเตอร์ ก็ได้ให้รางวัล เดอร์ ซิตี้ ออฟ เลสเตอร์ อวอร์ด” หรือ รางวัลบุคคลผู้ทรงคุณค่าของเมืองเลสเตอร์
สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ได้รับรางวัลเกียรติยศแห่งเสรีภาพของเมืองเลสเตอร์ โดยรางวัลนี้ได้รับการลงมติผ่านความเห็นชอบ จากคณะผู้บริหารสภาเทศบาลเมืองเลสเตอร์ เมื่อเร็วๆนี้
รางวัลนี้ถือเป็นเกียรติยศสูงสุด ที่สภาเทศบาลเมืองเลสเตอร์ มอบให้แก่บุคคลผู้มีคุณูปการต่อเมืองเลสเตอร์ โดยมีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ประสบความสำเร็จได้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย รวมไปถึงการมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความเจริญของชุมชนท้องถิ่นอีกด้วย
นอกจากนี้ทางสภาเทศบาลเมือง ได้มีการอนุมัติให้มีการเสนอรางวัลใหม่สำหรับบุคคลผู้ทรงคุณค่า โดยใช้ชื่อว่า “เดอะ ซิตี้ ออฟ เลสเตอร์ อวอร์ด” หรือ รางวัลบุคคลผู้ทรงคุณค่าของเมืองเลสเตอร์ โดยที่ผู้ที่ได้รับรางวัลนี้เป็นคนแรกได้แก่ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ คนปัจจุบัน และคุณ วิชัย ศรีวัฒนประภา อดีตประธานสโมสร
รางวัลดังกล่าวได้มอบไว้เพื่อเป็นการแสดงถึงความสำเร็จอันเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณะชน ในการสร้างแรงผลักดันในทางสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นกับชุมชนในวงกว้าง อีกทั้งยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่ให้แก่ชาวเมือง ซึ่งรวมถึงในด้านการศึกษา, วัฒนธรรม, ความเป็นอยู่ และเศรษฐกิจในเขตชุมชนเมือง, ควบคู่ไปกับการทำให้เมืองนี้เป็นที่ยอมรับในสายตาของคนทั่วโลก
คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ในนามของสโมสร นับเป็นความภาคภูมิใจของผมและครอบครัวอย่างสูง ที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้”
“เมืองเลสเตอร์ได้มอบสิ่งดี ๆ ให้กับเรามากมาย ความตั้งใจของเราคือ เราจะมุ่งมั่นและทุ่มเทให้กับการสนับสนุนและส่งเสริมชุมชนนี้ ด้วยการส่งมอบสิ่งที่ดีให้กับผู้คนในเมืองนี้ ผู้ที่ให้การต้อนรับเราอย่างดีเสมอมา เสมือนว่าเป็นบ้านของเราเองตั้งแต่วินาทีแรกที่เราได้มาถึงที่นี่”
“เราตระหนักดีถึงความสำคัญของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ ที่มีต่อคนในเมืองเลสเตอร์ เราจึงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก และยินดีอย่างยิ่งที่ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้”
คุณซูซาน วีแลน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ กล่าวว่า “ในนามของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ เราขอขอบคุณ สภาเทศบาลเมืองเลสเตอร์และชาวเลสเตอร์ทุกท่าน ที่ได้มอบรางวัลอันล้ำค่านี้แก่สโมสรของเรา”
“แฟนบอลของเรา และชุมชน ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่ของสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ เราตระหนักดีว่าฟุตบอลมีศักยภาพเพียงใดในการสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นกับชีวิตคนอีกมากมาย ไม่ว่าจะในสนามแข่งขัน หรือนอกสนามแข่งขัน”
“ภารกิจของเราคือ การต่อยอดในการสร้างความแตกต่างนี้ให้เกิดแก่ผู้คน โดยการสร้างทีมฟุตบอลที่พวกเขาภาคภูมิใจให้คงอยู่ตลอดไป การได้รับรางวัลนี้ถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งของเรา ที่คนสำคัญเหล่านั้น คนที่เรามุ่งมั่นทำเพื่อพวกเขาตลอดมา ได้เห็นคุณค่าของสิ่งที่เราได้ทำ”
เลสเตอร์ ซิตี้ พัฒนาทีมไปข้างหน้าอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่ คุณวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานสโมสร หลังจากที่ได้มีการซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ในปี 2010 และได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมฟุตบอล สนามแข่งขัน สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และชุมชนโดยรอบมาตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาจวบจนถึงปัจจุบันที่ คุณอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ได้เข้ามาสานต่อปณิธาณต่อจากคุณวิชัย ในการต่อยอดและขยายความสำเร็จนี้ให้งอกงามขึ้นไปอีก
ผลงานในสนามแข่งขัน เริ่มตั้งแต่การได้ครองแชมป์ฟุตบอลลีกแชมเปี้ยนชิพ เมื่อฤดูกาล 2013/14 ต่อด้วยการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรเมื่อฤดูกาล 2015/16 การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในครั้งนั้น ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งนึงในวงการกีฬาโลก
เลสเตอร์ ซิตี้ ยังได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ยูโรป้า ลีก ตามลำดับ นอกจากนี้ยังสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอล เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร หลังเอาชนะ เชลซี ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 รวมถึงคว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ คอมมูนิตี้ ชิลด์ ได้ในปีเดียวกัน
สโมสรยังได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมทีมฟุตบอลหญิง ด้วยการเข้ามายกระดับให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมหญิง เป็นทีมฟุตบอลระดับอาชีพเมื่อปี 2020 และความความสำเร็จแรกที่ทีมได้รับคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลเอฟเอ วีเมนส์ แชมเปี้ยนชิพ และได้เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในฟุตบอลเอฟเอ วีเมนส์ ซูเปอร์ ลีก ซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และยังเป็นทีมฟุตบอลหญิงทีมเดียวในประเทศที่มีสนามฝึกซ้อม และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เทียบเท่าทีมอาชีพชายเป็นของตัวเอง
สโมสรยังได้ก่อสร้างศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ “เลสเตอร์ ซิตี้ เทรนนิ่ง กราวน์” ที่มีมาตรฐานระดับโลกทางตอนเหนือของเลสเตอร์เชียร์ รวมถึงแผนการพัฒนาพื้นที่โดยรอบ และแผนขยายสนาม “คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม” ให้สามารถรองรับผู้ชมได้เพิ่มขึ้นอีก 8,000 ที่นั่ง
การก่อตั้งมูลนิธิ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เพื่อการกุศล โดยที่มูลนิธิได้รับมอบเงินบริจาคส่วนตัวในนาม คุณวิชัย เป็นจำนวน 4 ล้านปอนด์ เพื่อส่งมอบให้แก่สาธารณะประโยชน์ในชุมชน ซึ่งทางมูลนิธิจะเป็นตัวแทนในการดำเนินงาน เพื่อสานต่อเจตนารมณ์นี้ในการส่งเสริมชุมชนด้านต่าง ๆ ต่อไป
ทั้งหมดนี้ คือการสนับสนุนชุมชนที่ทางสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ได้กระทำมาโดยตลอด และจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาความร่วมมือในด้านต่าง ๆ สู่ชุมชนให้มากยิ่งขึ้น โดยจะมีส่งต่อความช่วยเหลือในฐานะสโมสรฟุตบอล สู่ผู้คนในชุมชนต่อไป
ขอบคูณเนื้อหาจากเว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ
https://www.thansettakij.com/general-news/515448