ตอนนี้เรามองว่าพลังงานบริสุทธิ์เป็นส่วนนึงที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศ พอฝนตกน้อยลง ฝุ่น ควัน PM2.5 ก็เริ่มมาในปริมาณมากอีกแล้ว ถ้าเราไม่ร่วมกันหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้า ฝุ่น ควันก็ไม่ลดลง ตอนนี้มีรถบัสไฟฟ้าออกมาแล้ว ลองหันมาใช้กันนะ เรือไฟฟ้าก็มีแล้วเช่นกัน ใช้กันเยอะๆ จะได้ช่วยกันลดฝุ่น ควันในอากาศ
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า รายได้ปีนี้น่าจะเติบโต 10-20% จากปีก่อน การเติบโตมาจากรายได้จากการขายแบตเตอรี่ และการผลิตรถบัสไฟฟ้า ขณะที่ธุรกิจไบโอดีเซล ราคาไบโอดีเซลที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนอีกแรง
โดยธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้แก่ แบตเตอรี่ และยานยนต์ไฟฟ้า ปีนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักในการเติบโต ถ้ารถบัสไฟฟ้าขายได้มาก การผลิตแบตเตอรี่จะขยายตัวตามกันไป ซึ่งรถบัสไฟฟ้าออเดอร์ได้ทยอยเข้ามาในปี 65 น่าจะหลักร้อยคัน ส่วนจะไปถึง 1,000 คันหรือไม่ โดยส่วนตัวเชื่อว่าทำได้ แต่วันนี้การเซ็นสัญญาต่างๆ ยังค่อยๆ เกิด เพราะรอตลาดรับรู้ด้วย
สำหรับธุรกิจไบโอดีเซล ราคาผันผวน อันเป็นผลมาจากราคาขายน้ำมันไบโอดีเซล (B100) ที่สูงขึ้นตามราคาน้ำมันปาล์มดิบที่เป็นวัตถุดิบหลักที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยปีนี้คาดปริมาณขายกว่า 100 ล้านลิตร ใกล้เคียงปีก่อน เพราะตลาดไม่ได้เติบโต ไม่มีการขยายโรงงาน แต่ราคาขายปรับเพิ่มขึ้น ปัจจุบันราคาขาย B100 อยู่ที่ 60 บาท/ลิตร จากปีก่อน 40 บาท/ลิตร จะทำให้รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้นขณะที่จำนวนลิตรขายเท่าเดิม
ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียทั้งโซลาร์ฟาร์ม และวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิตรวม 686 เมกะวัตต์ ปีนี้ยังไม่มีเพิ่มเติม ส่วนแผน PDP ใหม่ ที่คาดว่าจะมีโควต้าเพิ่มแต่ก็ยังไม่เป็นทางการออกมา แต่อนาคตน่าจะมีเพิ่มเติมแน่นอน จากนโยบายลดการปล่อยคาร์บอนเพราะฉะนั้นโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจะต้องมีบทบาทมากขึ้น
"รายได้รวมยังไม่นิ่ง เนื่องจากปีนี้ราคาไบโอดีเซลผันผวน แต่แนวโน้มปีนี้ยังไปได้ดีในทุกธุรกิจ ปีนี้รายได้ส่วนเพิ่มก็จะมาจากธุรกิจ EV รายได้จากการผลิตแบตฯ ซึ่ง:)ส่วนรายได้จากธุรกิจแบตฯและรถบัสไฟฟ้าปีนี้ราว 20-30% ของรายได้รวม แต่ก็ต้องรอดูธุรกิจไบโอดีเซลด้วย เพราะราคาไบโอดีเซลที่ผันผวนก็มีผลต่อรายได้ของบริษัท"
ปีนี้บริษัทไม่มีแผนลงทุนเพิ่มเติม ทำให้วางงบลงทุนไม่มาก ส่วนใหญ่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเบื้องต้น 3 พันล้านบาท ได้เจรจากับสถาบันการเงินไว้หลายแห่ง ซึ่งการลงทุนปีนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการปรับปรุงของเดิม การขยายคงไม่เกิด เพราะโรงงานเพิ่งเสร็จ ต้องดูการตอบรับของตลาดก่อนการขยายเพิ่ม
"โรงงานแบตเตอรี่ จะทยอยเพิ่มการผลิต จากเพิ่งเริ่มเดินเครื่อง โดยจะดูคุณภาพและปรับปรุงการผลิตต่อเนื่อง รวมถึงการตอบรับของตลาด เพราะฉะนั้นเงินลงทุนปีนี้ก็จะหนักไปที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน (working capital) ทั้งแบตฯและรถบัสไฟฟ้า เพราะถ้าผลิตเยอะก็ต้องสั่งซื้อของและกว่าจะประกอบและส่งมอบจนถึงการรับรู้รายได้ ซึ่งประมาณการยังประเมินได้ยากเพราะยังไม่เคยแบบเต็มรูปแบบ แต่เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะประเมินภาพได้ดีขึ้น แต่ได้เตรียมคุยกับแบงก์ไว้หลายแห่ง รวมๆ เวิคกิ้งแคปที่เตรียมไว้ก็น่าจะเพียงพอใช้สำหรับช่วงแรก"
ที่มา :https://www.facebook.com/110325275488/posts/10159676894400489/