บอร์ด
กระทู้: อยการประกอวดนตรีคุณภาพส่งท้ายปี The Power Band ที่คอดนตรีไม่ควรพลาด

ในโลกที่เทคโนโลยีทำให้ทุกอย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วคลิก หลาย ๆ คนได้ทำสิ่งที่อยากทำได้ง่ายขึ้น รวมถึงการทำเพลงก็เช่นกัน ผู้ที่มีความฝันอยากทำเพลง อยากเป็นนักดนตรี สามารถทำ Production จากที่บ้านได้เลย และในขณะที่เวทีประกวดเพื่อคนดนตรีก็เริ่มลดลงเช่นกัน

แต่ทว่าผู้คร่ำหวอดในแวดวงดนตรีทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ยังคงตอกย้ำเหมือนกันว่า เรื่องของเวทีประกวด ยังมีความสำคัญอยู่ เพราะการที่ใครสักคนจะก้าวสู่การเป็นศิลปินตัวจริงได้นั้น ต้องอาศัยประสบกาณ์การฟังให้มาก เล่นให้เยอะ ฝึกฝนและเก็บเกี่ยวประสบการณ์อย่างสม่ำเสมอ จะเป็นการดีที่สุดหากได้ออกมาลงสนามจริงบนพื้นที่การประกวด

แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่เหล่าผู้คร่ำหวอดเท่านั้น ที่สนับสนุนให้มีเวทีการประกวด ยังมีกลุ่มคนอีกมากที่ชอบการประกวดดนตรีฉะนั้น คิง เพาเวอร์ ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย ได้ร่วมมือกับวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดเวทีประกวดดนตรีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี THE POWER BAND’ เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 ผ่านการประกวดในรูปแบบ Live Streaming เพื่อให้เหมาะกับวีถีแห่ง New Normal COVID-19 โดยเฉพาะ

เอาล่ะ มาดูกันว่าเหล่าผู้คร่ำหวอดทางดนตรี จะกล่าวถึงเรื่องของเวทีประกวดเพื่อคนดนตรีอย่างไรกันบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันเลย!

 

เริ่มกันที่ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล และนักประพันธ์ระดับโลกรางวัลThe Charles Ives Awards สาขาการประพันธ์เพลง ในฐานะตัวแทนผู้ร่วมจัด THE POWER BAND
กล่าวว่า

 “เวที THE POWER BAND เรียกได้ว่าเป็นเวทีที่มีความท้าทายอย่างมากเวทีหนึ่งเนื่องจากมีโจทย์ให้ผู้เข้าแข่งขันได้ท้าทายความสามารถ ต้องแต่งเพลงเอง เพื่อมุ่งเน้นเรื่องการสร้างสรรค์ ขณะที่เวทีอื่นไม่ได้บังคับ รวมไปถึงการเล่นเครื่องเป่าผสมผสานกับวงดนตรีสมัยนิยมไม่ใช่เรื่องง่าย เครื่องเป่าเกิดมาจากวงโยธวาทิต เน้นการอ่านโน้ตเป็นหลัก แต่วงดนตรีใช้หูแกะเพลง ซึ่งต้องใช้สกิลที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องอาศัยการวางตัวโน้ต การเรียบเรียง และความพร้อมเพรียงในการเล่นร่วมกัน ทั้งนี้ จุดมุ่งหมายสำคัญของเวทีนี้ คือ เน้นการสร้างสังคม รูปแบบการสร้าง Collaboration ระหว่างเด็ก
วงโยธวาทิต กับเด็กดนตรีสากล และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้เกิดการทำงานและเล่นดนตรีร่วมกัน มากกว่าเป็นเพียงแค่การจัดงานอีเว้นท์”
 

ในส่วนของนักปั้นศิลปินแถวหน้าของเมืองไทย นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records กล่าวว่า

“ทุกการสร้างสรรค์งานดนตรีเริ่มจากการเรียนรู้จากต้นแบบ ต้องมั่นฝึกฝน แกะเพลงให้เยอะๆ ใช้ระยะเวลา 10 ปีเป็นอย่างต่ำกว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง อาทิ BodySlam, Labanoon, Clash และ KALA ล้วนผ่านเวทีประกวดมาแล้วทั้งสิ้น แต่พื้นที่แสดงความสามารถของเด็กไทยทางดนตรีในรูปแบบเวทีการประกวดในปัจจุบันกลับน้อยลงทุกวัน ถือเป็นโอกาสดีมาก ๆ ของคนในแวดวงดนตรีที่เวที THE POWER BAND จะมาสร้างพลังและสานต่อความฝันพร้อมสร้างความคึกคักให้วงการดนตรีอีกครั้ง เพราะเป็นเวทีประกวดที่มีการส่งเสริมอย่างจริงจัง เน้นวงดนตรีที่มีการสร้างสรรค์ และความสามารถเชิงทฤษฎีที่ถูกต้อง”

ไปกันต่อที่โปรดิวเซอร์มือทอง พล-คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music กล่าวว่า

“ความแข็งแรงของเวทีนี้ คือ ผู้จัดงานมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทั้งกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ที่มีนโยบายในการสนับสนุนคนไทยด้านดนตรีมาอย่างต่อเนื่อง และ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่เป็นเบอร์ต้น ๆ ของประเทศในการผลิตคนคุณภาพทางดนตรีออกสู่อุตสาหกรรมเพลงไทย นี่คือโอกาสครั้งใหญ่ ขอให้น้อง ๆ เตรียมตัวมาให้พร้อม เวทีประกวดให้สิ่งดี ๆ กลับไปเสมอ ไม่ว่าจะแพ้ หรือชนะ อย่างน้อยก็ได้ชนะตัวเอง เพราะเล่นตามโจทย์ที่ได้ฝึกซ้อมมา ทั้งนี้ ที่สุดของการเป็นศิลปิน ไม่อยากให้มองแค่ความสวยหรู ว่าจะเป็นศิลปินที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเดียว แต่ดนตรีอยู่ในทุกบทบาทที่สามารถทำได้หลายอาชีพ รวมไปถึงการทำงานเบื้องหลัง เช่น นักแต่งเพลง วิศวกรเสียง ตลอดจนช่างเทคนิคที่ดูแล ทดสอบ และเตรียมเครื่องดนตรีบนเวทีให้กับศิลปิน”

มาถึง ประสบการณ์ชั้นครูของ เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม นักดนตรีวง The Richman Toy และหัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวทิ้งทวนการประกวดในครั้งนี้ว่า

“ในปัจจุบันเวทีการประกวดของต่างประเทศที่น่าสนใจ อย่างการประกวดยูโรวิชั่น ซอง คอนเทสต์ ประเทศอิตาลี ที่มีมาอย่างยาวนาน มีศิลปินระดับโลกมาร่วมเล่นคอนเสิร์ตประกอบกับความร่วมสมัยของโปรดักชั่นที่ตระการตาด้วยแสง สี แสง ได้อย่างลงตัว ซึ่งตอนนี้เป็นยุคสมัยที่มีความก้าวหน้าของเทคโนโลยี นักดนตรีสามารถทำเพลงเองได้และสามารถปล่อยผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดาย ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในปัจจุบันทำให้นักดนตรีสามารถทำเพลงเองได้จากที่บ้านหรือเรียกว่า Home Studio ซึ่งต้องยอมรับว่าในปัจจุบันวงการดนตรีของไทย คนรุ่นใหม่มีฝีไม้ลายมือที่ฉกาจใกล้เคียงกับต่างประเทศมาก เพราะ เทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียเป็นส่วนหนึ่งที่สามารถหาไอเดียและรู้เทรนด์เพลงทั่วโลกได้ง่ายแค่เพียงปลายนิ้ว และนำเทคนิคมาปรับใช้ เรียกได้ว่า เป็นช่วงเวลาสำคัญที่อุตสาหกรรมเพลงไทยกำลังพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งในประเทศไทยเวทีการประกวด THE POWER BAND เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ส่งเสริม พัฒนา และสนับสนุนเพื่อเป็นบันไดให้เยาวชนและประชาชนคนไทยพร้อมสำหรับการก้าวสู่ระดับนานาชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ”

ในเรื่องของกรรมการตัดสินนั้น ขอบอกเลยว่า ว้าวมาก ๆ เพราะได้รับเกียรติจากผู้คร่ำหวอดทางดนตรีแถวหน้าของเมืองไทย นำโดย นิค-วิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง Genie Records พล-คชภัค ผลธนโชติ ผู้บริหารค่ายเพลง Boxx Music เช่-อัคราวิชญ์ พิริโยดม นักดนตรีวง The Richman Toy รวมถึงหัวหน้าสาขาวิชาดนตรีสมัยนิยม มหาวิทยาลัยมหิดล โอ-ทฤษฎี ศรีม่วง นักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ มิวสิกไดเรกเตอร์ แห่งวง Jetset’er และโปรดิวเซอร์นักแต่งเพลงมือฉมัง ฟองเบียร์-ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท มิวซิกมูฟ จำกัด

มารอดูกันว่า สุดยอดคนดนตรีจะเป็นใคร โดยคุณสามารถรับชมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ THE POWER BAND เวทีประกวดวงดนตรีสากลสมัยนิยม ผสมเครื่องเป่า ประจำปี 2564 พร้อมมินิคอนเสิร์ตสุดพิเศษ จาก อิ้งค์-วรันธร เปานิล และ Season Five ชมถ่ายทอดสดผ่าน Facebook : King Power Thai Power พลังคนไทย และ Facebook : Thailand International Wind Symphony Competition ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2564 ตั้งแต่เวลา 9.30 น. เป็นต้นไป

เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาลุ้นไปพร้อม ๆ กัน!

#KingpowerThaipowerพลังคนไทย

#WeBelieveInThaiPower

#เชื่อในพลังคนไทย

21 พ.ย. 64 เวลา 22:24 379
โพสต์โดย

vistion


เด็กกองถ่าย
กระทู้ล่าสุดของ vistion