ในช่วงเวลา 5 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรม ยานยนต์ไฟฟ้า ถือว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของโลกใบนี้ โดยมีข้อมูลจาก McKinsey & Company บริษัทที่ปรึกษาด้านการบริหารชั้นนำของโลก ได้ออกมาเปิดเผยว่า ค่ายรถยนต์ทั่วโลกจะเปิดตัว "รถยนต์ไฟฟ้า" หรือ EV มากกว่า 350 รุ่น ภายใน 4 ปีข้างหน้า ส่งผลให้ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์ EV ในจีน สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา เติบโตประมาณ 120 ล้านคัน ในปี 2573 และ ความต้องการด้านพลังงานสำหรับ EV จะเติบโตมากในช่วงปี 2563 - 2573 อยู่ที่ราว 20,000 – 280,000 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง จะทำให้เห็นได้ว่าจากนี้ไปเป็นช่วงขาขึ้นของรถไฟฟ้า ที่จะมาทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลหรือน้ำมัน อย่างแน่นอน
ภาพนี้ น่าจะเก่ามากค่ะ / หากเป็นไปได้ หาภาพที่เป็นข้อมูล และแนวคิดที่ update จะดีกว่าค่ะ
ในขณะที่ประเทศไทยเองก็มีความต้องการจะเป็นฐานการผลิต ในอุตสาหกรรมประเภทนี้เช่นกัน โดยสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานคาดการณ์ว่า จะมีการใช้ EV จำนวน 138,918 คัน ภายในปี 2568 และเพื่อที่จะให้ไทยเป็นฐานการผลิต EV สำคัญของโลก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงตั้งเป้าเร่งการผลิต EV สะสมไว้ที่ 1,051,000 คัน ภายในปี 2568 และจะเพิ่มการผลิต EV สะสมให้ได้ 6,224,000 คัน ภายในปี 2573 โดยในปัจจุบันไทยมีหัวชาร์จ EV 1,000 หัว หากหัวชาร์จ 1 หัว สามารถให้บริการชาร์จได้ 3 คัน สนพ.คาดว่า จะต้องมีหัวชาร์จเพิ่มขึ้นทั้งหมด 47,000 หัวชาร์จ ในปี 2568 โดยประเทศไทย มีหลากหลายบริษัทที่สนับสนุนอุตสาหกรรมนี้ บริษัทที่เป็นผู้นำร่องและปูฐานธุรกิจเอาไว้เป็นซัพพลายเชนขนาดใหญ่ก็คือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่จะสามารถเริ่มดำเนินการผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน สำหรับระยะที่ 1 ได้ในช่วงไตรมาสที่ 3/64 โดยปัจจุบันได้นำเข้าเซลล์แบตเตอรี่ที่ผลิตจากโรงงานผลิตแบตเตอรี่ของ Amita Technologies Inc. ไต้หวัน เพื่อนำมาประกอบเป็นแพ็คและโมดูลในสายการผลิตภายในประเทศ และมีการลงทุนในสถานีชาร์จ EA Anywhere ทั่วประเทศนับพันหัวชาร์จ และยังมีอีกหลากหลายโครงการที่สนับสนุนอุตสาหกรรมนี้อย่างเต็มตัว
จะเห็นได้ว่าภาคเอกชนพร้อมกระโจนเข้ามาสู่อุตสาหกรรมนี้กันอย่างเต็มตัว เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้มการเติบโตของรถ EV ในประเทศไทยที่อาจมาเร็วกว่าที่คาด เนื่องจากผลการสำรวจของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2564 พบว่า ผู้ประกอบการของไทยส่วนใหญ่ ล้วนแต่สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการใช้รถยนต์ EV ในประเทศ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ภาครัฐฯ” ต้องเข้ามาสนับสนุนอย่างเต็มที่ ทั้งภาคนโยบายและภาคเงินทุนสนับสนุน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้อย่างเต็มตัว ซึ่งมั่นใจได้เลยว่าอุตสาหกรรมนี้จะนำพาประเทศไปสู่ฐานการผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และนำพาเงินก้อนมหึมาเข้าสู่ประเทศได้อย่างแน่นอน
ที่มา:https://pantip.com/topic/41101146