การแช่แข็งไข่ Egg Freezing ดีมั้ย? เรามาดูในบทความนี้กันได้เลยจ้าา
ผู้หญิงสมัยใหม่อาจจะคิด หรือเริ่มที่จะวางแผนมีบุตรกันช้ามากขึ้น อาจเกิดจากหลายๆปัจจัย เช่น หน้าที่การงาน สถานะความสัมพันธ์ และเป้าหมายอื่นๆ ของชีวิต หรืออาจตรวจพบสภาวะทางร่างกายซึ่งอาจส่งผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ รวมถึงทั้งกำลังรับการรักษาอยู่ (เช่น โรคมะเร็ง) โดยไข่ของผู้หญิงนั้นมีวันหมดอายุ ส่วนมากราวช่วงอายุ 40 ปี การผลิตไข่จะลดลงทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพอย่างรวดเร็ว และจะคงสภาพดังกล่าวจนถึงช่วงวัยหมดประจำเดือน ซึ่งร่างกายจะไม่ผลิตไข่อีกต่อไป
การฝากไข่ แช่แข็งไข่จึง Egg Freezing ช่วยคงสภาพเซลล์ไข่ที่ “อ่อนวัย” เอาไว้ เพื่อนำมาใช้ในช่วงเวลาที่คุณพร้อมมีเจ้าตัวน้อย
ผู้หญิงยุคใหม่ มีลูกช้าขึ้นทำให้พบปัญหามีบุตรยากมากขึ้นจากอายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้จำนวนไข่ในรังไข่ และคุณภาพไข่ลดลง การแช่แข็งไข่ตั้งแต่อายุยังไม่มาก อาจช่วยลดปัญหาการมีบุจรยากในอนาคตได้ เพราะเป็นไข่ที่ถูกเก็บไว้ตั้งแต่อายุน้อย ทั้งจำนวนและคุณภาพจะดีกว่า นอกจากนี้ในผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องได้รับยาเคมีบำบัด หรือฉายแสง ที่จะส่งผลให้จำนวนไข่ลดลงอย่างรวดเร็ว การแช่แข็งไข่ไว้ก่อนแล้วกลับมาใช้หลังหายจากโรคจะช่วยลดปัญหามีบุตรยากได้
การฝากไข่คืออะไร?
การฝากไข่ (Egg Freezing) เป็นการรักษาคุณภาพของเซลล์ไข่ของผู้หญิงโดยการแช่แข็งเอาไว้ ซึ่งเหมือนเป็นการหยุดเวลา ก่อนที่ไข่จะเสื่อมคุณภาพลงเมื่อผู้หญิงอายุมากขึ้น แล้วค่อยนำมาละลายเมื่อว่าที่คุณแม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ โดยนำเซลล์ไข่ไปปฏิสนธิภายนอกกับอสุจิของสามีในเวลาที่กำหนดเองได้ ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ที่ช่วยในการเจริญพันธุ์ (IVF หรือ ICSI) จากนั้นก็นำกลับเข้าไปฝังตัวในโพรงมดลูกภายในร่างกายอีกครั้ง เพื่อให้ไข่เติบโตกลายเป็นลูกน้อยที่น่ารักต่อไป
ประสิทธิผลของการเก็บรักษาไข่
ไข่ที่ถูกแช่แข็งไว้ในไนโตรเจนเหลวนั้น สามารถเก็บได้นานเป็น 10 ปี โดยจะเก็บไว้ที่อุณหภูมิ ต่ำกว่า – 190 องศาเซลเซียส เพื่อคงคุณภาพของไข่ไว้ให้เหมือนเดิมแม้เวลาจะผ่านไป เพื่อรอเวลาที่พร้อมที่สุดของ (ว่าที่) คุณพ่อคุณแม่ อย่างไรก็ตามการตั้งครรภ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของหญิงที่จะตั้งครรภ์ ความแข็งแรงของร่างกาย และความแข็งแรงของอสุจิของฝ่ายชายด้วย
การฝากไข่ปลอดภัย/มีความเสี่ยงแค่ไหน?
แม้ว่าการฝากไข่จะเป็นวิธีการที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการกระตุ้นไข่และเก็บไข่ได้ เช่น ภาวะรังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นมากเกินไป (Ovarian Hyperstimulation Syndrome) หรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น บางรายอาจมีอาการเจ็บ ท้องเสีย คลื่นไส้ ปวดศีรษะ น้ำหนักขึ้น หรืออาจมีอารมณ์แปรปรวน เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตรายต่อชีวิต
การฝากไข่มักถูกใช้ในกรณีใดบ้าง?
กระบวนการฝากไข่สามารถถูกใช้ในหลากหลายกรณี ดังนี้:
ผู้ที่วางแผนมีบุตรในอนาคตแต่ยังไม่พร้อมมีบุตรในขณะนี้ หรือการที่คู่หญิงชายวางแผนแต่งงานช้าลงด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างทางสังคม เช่น การศึกษา หน้าที่การงาน หรือการใช้ชีวิตตามความฝัน
ผู้หญิงที่ยังไม่เจอคู่ชีวิตในเวลาที่ใช่ แต่วางแผนการมีบุตรในอนาคต
ผู้หญิงที่ต้องได้รับการรักษาโรคเรื้อรังบางชนิด เช่น การรักษาด้วยการฉายรังสี หรือการให้เคมีบำบัดในผู้ป่วยมะเร็งที่อาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ การเก็บรักษาไข่ไว้ในขณะที่ร่างกายยังสมบูรณ์จึงถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสม
ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของรังไข่ เช่น เนื้องอก ซีสต์ หรือ ผู้ที่มีประวัติครอบครัวหมดประจำเดือนเร็ว เคยมีประวัติผ่าตัดบริเวณรังไข่มาก่อน
ผู้มีปัญหาด้านพันธุกรรม ชนิดที่ทำให้รังไข่เสื่อมการทำงานเร็ว หรือ ผู้มีประวัติเสี่ยงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็ว
กรณีที่ใช้วิธีเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือ ICSI ไข่ที่ได้รับการกระตุ้นออกมาแล้ว แต่ยังไม่ได้นำมาใช้ แพทย์อาจแนะนำให้นำไข่ไปแช่แข็งไว้เพื่อรอวันที่พร้อมปฏิสนธิ
หากต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับ การเก็บไข่ และการเจริญพันธุ์ท่านสามารถปรึกษาได้ที่ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที.
ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2550 โดยการร่วมมือระหว่างแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์การเก็บไข่, แช่แข็งไข่, ฝากไข่ และเด็กหลอดแก้วในประเทศไทยและประเทศออสเตรเลีย ซูพีเรีย เอ.อาร์.ที. เป็นคลินิกรักษาผู้มีบุตรยากและวินิจฉัยพันธุกรรมตัวอ่อนที่เพียบพร้อมด้วยแพทย์เฉพาะทางที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ชำนาญเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (Assisted Reproduction Technology – A.R.T.) พวกเรามีความมุ่งมั่นจะสานทุกความฝันในการมีบุตรของทุกครอบครัวให้สมบูรณ์