วัคซีน ตอนนี้ทุกคนรอวัคซีนอย่างใจจดใจจ่อ อยากให้รัฐบาลเร่งนำเข้ามาให้เร็วกว่านี้ และให้พร้อมที่สุดมากกว่านี้ ความคาดหวังทั้งหมดอยู่ที่วัคซีน
ครบ 1 ปี ที่เราต้องใช้ชีวิตอยู่กับโควิด 19 ที่ฤทธิ์เดชของมันไม่ได้ส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังส่งไปไปยังเศรษฐกิจที่ต้องทรุดลงไปทั่วโลก โดยเฉพาะธุรกิจการบินที่แย่ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่เห็นวี่แวว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่
ปัจจุบันธุรกิจการบินก็ได้รับผล บาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก IATA (สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ) ได้คาดการณ์ไว้ว่า จากสถานการณ์ทั่วโลกจะมีเพียงแค่ 30 สายการบิน จาก 700 สายการบินที่สามารถอยู่ได้โดยไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล แต่ในประเทศไทยตอนนี้ รัฐก็ได้มีการเยียวยาอยู่
และเมื่อธุรกิจการบินได้รับผลกระทบเช่นนี้ ก็ย่อมส่งผลต่อสนามบินเป็นแน่แท้ ไม่มีการเดินทาง เครื่องบินไม่มีขึ้นลงในระยะไกล ทำได้ดีที่สุดก็แค่บินในประเทศ ฤทธิ์เดชของโควิด 19 ก็ได้ทำให้ผลกระกอบการของ ท่าอากาศยานไทย หรือ AOT ก็ขาดทุนกว่าหมื่นล้านบาท ขาดทุนมากที่สุดในรอบ 40 ปี
รวมถึงร้านรวง ขายอาหาร ขายสินค้าในตัวสนามบินอีก ไม่มีนักท่องเที่ยวมากเหมือนแต่ก่อนจะไปขายของให้ใครกัน อย่าหวังว่าจะได้กำไร แค่ขายเอาค่าเช่ารอดไปในแต่ละเดือนก็ยังยากลำบาก ถึงแม้ว่าจะได้รับการเยียวยาจากภาครัฐแล้ว แต่ก็คงไม่พอเช่นกัน
นักท่องเที่ยวหาย ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศก็ล้มพับ ภูเก็ต ข้าวสาร พัทยา เงียบเหงา เชียงใหม่นี่แทบจะปิดร้าง อัดมาตรการท่องเที่ยวในประเทศเข้าไปเท่าไหร่ก็เหมือนจะกลายเป็นเพียงแค่ยารักษาตามอาการเพียงเท่านั้น
ทางออกของปัญหาทั้งหมดจึงอยู่ที่ “วัคซีน” ที่จะเป็นยาแรง รักษาเยียวยาทุกภาคส่วนได้อย่างได้ผล แต่นั่นแหละ วัคซีนในประเทศเราก็ยังไม่เกิดขึ้นจริง
ถึงแม้ว่า กระทรวงสาธารณสุขเคยบอกไว้ในหนังสือ เรื่องของขอรับการจัดสรรงบประมาณประจำปี 2563ฯ เพื่อ กรณีฉุกเฉินและจำเป็นเกี่ยวกับโควิด 19ฯ ลงวันที่ 25 สิงหา 63 บอกไว้ว่า ในสถานการณ์ที่มีการระบาด ได้รับวัคซีนเร็วขึ้น 1 เดือน จะช่วยเหลือประเทศสามารถสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ประมาณ 2.5 แสนล้านบาท และยังสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชนด้วย
ความเชื่อมั่นของประชาชนไม่ได้ส่งผลแต่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงภาพรวมการท่องเที่ยวในอนาคตที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิงในสายตาของชาวโลก เหมือนกับที่ประเทศไต้หวันได้ถูกยกขึ้นแท่นเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวหลังโควิด นอกจากจะมีทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ปัจจัยที่ทำให้ไต้หวันถูกเลือกเพราะ มีความพร้อมในด้านการจัดการ การป้องกันโควิด 19 มันจึงส่งผลต่อความมั่นให้นักท่องเที่ยวในอนาคตด้วย
ย้อนกลับมามองเรื่องการท่องเที่ยวในประเทศไทย ทีต้องใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะฟื้นตัว โดยผู้ว่า ททท. ย้ำว่า “64 จะเป็นปีเป็นเรื่องของการปรับตัว 65 เป็นเรื่องของการเปลี่ยนแปลง”
ถึงแม้ว่าตอนนี้รัฐจะมีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาออกมาแต่หัวใจสำคัญของวิกฤตครั้งนี้คือ “วัคซีน” รัฐจะมีแรงเยียวยาไปนานแค่ไหน ในเมื่อระบบมันรวนไปหมดแบบนี้ ถ้าอะไรที่มันทำให้ประเทศได้วัคซีนแบบเร็วไว ก็ทำเถอะครับ อย่าออกมาเรียกร้องให้ประชาชนมั่นใจ เพียงอย่างเดียว โดยที่ไม่เกิดอะไรที่มันเป็นรูปธรรมขึ้นมาเลย ไม่เช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรจากการ ”ขายฝัน” ให้กับประชาชนครับ
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://pantip.com/topic/40529859