นวัตกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ในปัจจุบันนั้น มาเพื่อทำให้ชีวิตในประจำวันของเราได้ใช้ชีวิตง่ายมากยิ่งขึ้น สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น และหลายๆคนก็ไม่สามารถต้านทานนวัตกรรมเหล่านี้ได้ ยิ่งเราก้าวเข้าสู่ยุคแห่งอนาคตมากขึ้นเท่าไร ความสะดวกสบายก็ตามมามาก นวัตกรรมได้ถูกนำมาพัฒนาและใช้ในชีวิตประจำวันของเราอย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องพับผ้า สำหรับชีวิตชาวกรุงที่เร่งรีบ นอกจากจะเอาผ้าไปให้ร้านซักแล้ว บางครั้งเราอาจจะต้องมารีดและพับเองอีก เรียกว่ากินเวลาสุดๆ แต่เจ้าเครื่องพับผ้านี้ช่วยคุณได้ เพราะมันจะทำให้ผ้าคุณเรียบและพับสวยงาม พร้อมหยิบใส่ไปทำงานทันที Heated sweatshirts เสื้อเพิ่มความร้อนเหมาะสำหรับคนขี้หนาว เสื้อตัวนี้จะมีปุ่มพิเศษที่สามารถช่วยเพิ่มความร้อนภายในตัวเสื้อสร้างความอบอุ่นได้ ตัวเสื้อจะเป็นแบบแขนยาวสีฟ้า ใครที่ชอบสีฟ้าและขี้หนาวรับรองตอบโจทย์ ที่ให้น้ำน้องหมาพกพา อุปกรณ์เสริม The Leaf สำหรับให้น้ำเจ้าตูบเวลาพาพวกมันออกไปวิ่ง วิธีการใช้งานง่ายมากเพียงแค่ประกอบเข้ากับขวดน้ำก็เป็นอันใช้ได้แล้ว

ถ้ากล่าวถึงในเรื่องสติกเกอร์ เราอาจจะได้รู้จักสติกเกอร์อยู่แล้ว เพราะตั้งแต่เด็กๆเราก็เล่นการะแปะสติกเกอร์ รวมไปถึงนำสติกเกอร์ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการทำป้ายชื่อร้านซึ่งใช้เครื่องพิมพ์ฉลาก เครื่องพิมพ์สติ๊กเกอร์ยิ่งไปกว่านั้นมีนวัตกรรมที่นำสติกเกอร์มาใช้อย่าง สติกเกอร์ชะลอผลไม้สุก เพราะปัญหาอย่างหนึ่งของการทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร คือ ในการเก็บเกี่ยวผลผลิต เช่น ผักและผลไม้ กว่าจะผ่านกระบวนการซัพพลายเชนจนถึงปลายทางผู้บริโภค ด้วยเวลาที่เนิ่นนานเกินไปก็จะเกิดเหตุการณ์ประมาณว่า “สุกต่อไม่รอแล้วนะ” ทำให้เกิดปัญหาหากขายหรือบริโภคไม่ทัน ต้องทิ้งไป ข้อมูลระบุเฉพาะในอเมริกาประเทศเดียว การเก็บเกี่ยวผลผลิตจากฟาร์มเพื่อส่งไปขายตามซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ 52% ของผักผลไม้ที่ออกจากฟาร์มมีปลายทางที่ถังขยะ เพราะเน่าเสียหรือเสื่อมคุณภาพ สร้างความเสียหายปีละหลายหมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ตามครัวเรือนต่างๆ เมื่อซื้อผลไม้มาไว้บริโภค กลายเป็นว่า 60% เน่าเสียก่อนได้กิน ทำให้สูญเงินเฉลี่ยครอบครัวละ 1,600 ดอลลาร์ แต่ปัญหาเหล่านี้บรรเทาได้เมื่อบริษัท Stimulus Nature Resources ในมาเลเซียได้คิดค้นนวัตกรรมชะลอการสุกของผลไม้ นวัตกรรมที่ว่ามาในรูปสติกเกอร์ติดผลไม้ โดยซาฟรี ไซนูดิน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทเล่าว่าแรงบันดาลใจเกิดจากเพื่อนที่เป็นเจ้าของแผงขายผลไม้มาบ่นให้ฟังว่า สั่งผลไม้มาแล้วขายไม่ทัน ผลไม้เน่า ทำให้ขาดทุน ด้วยเหตุนี้ ซาฟรีจึงคิดหาหนทางแก้ปัญหานี้ เขาใช้เวลาเกือบ 3 ปีในการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยยูเอ็มพี สถาบันวิจัย หน่วยงานต่าง ๆ และอีกหลายมหาวิทยาลัย รวมถึงยูออฟเซ้าท์ออสเตรเลียพัฒนา StixFresh สติกเกอร์ติดผลไม้เพื่อรักษาความสดของผลไม้ได้นาน 14 วัน โดยสติกเกอร์ดังกล่าวเคลือบส่วนผสมจากธรรมชาติ 100% ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์หรือเกลือ และขี้ผึ้ง (beeswax) ที่ชะลอกระบวนการที่ทำให้ผลไม้สุก โดยการกำจัดเอทีลีนออกไป เนื่องจากเอทีลีนเป็นฮอร์โมนพืชรูปก๊าซที่ช่วงเร่งการสุกของผลไม้ นอกจากนั้น StixFresh ยังช่วยควบคุมการทำงานของแบคทีเรียอีกด้วย การดำเนินงานต่างๆนั้นอยู่ภายใต้การใช้เครื่องติดสติกเกอร์ที่เข้ามาช่วยลดการทำงานของแรงงานอีกด้วย