บอร์ด
กระทู้: วิเคราะห์อย่างไรไม่ให้เป็นเหยื่อการตลาด

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในยุคที่บล็อกเกอร์และรีวิวต่างๆนั้นมีผลอย่างมากต่อการจูงใจผู้บริโภคและลูกค้า โฆษณาต่างๆที่ฉายบนทีวีแทบจะไม่ค่อยมีผลมากเหมือนในสมัยที่ดิทิทัลและออนไลน์ยังไม่แพร่หลายเท่ายุคปัจจุบัน และการสั่งซื้อของทางออนไลน์รวมไปถึงแพล็ตฟอร์มด้านการขายของออนไลน์ก็มีให้เลือกอย่างมากมาย ยิ่งไปกว่านั้น สินค้าต่างๆยังมีการผลิตและเป็นเจ้าของแบรนด์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย แน่นอนว่าคนที่จะต้องมีสติมากๆจะเป็นใครไปไม่ได้เลย นั่นก็คือเหล่านักช็อปตัวยง ที่เน้นคติประจำใจว่า ของมันต้องมี กลายเป็นเหยื่อการตลาดที่ง่ายดาย ตกหลุมพรางที่วางไว้

วิจารณญาณและการคิดวิเคราะห์ รวมไปถึงการศึกษาได้รอบด้านควรมาพร้อมกันในยุคที่แบรนด์ต่างๆใช้ KOLบล็อกเกอร์ รีวิว และอินฟลูเอนเซอร์มาดึงดูดใจลูกค้าแทบจะในทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นด้านเครื่องสำอาง ความสวยความงาม ที่เหล่าสาวกคนรักเครื่องสำอางนั้นพร้อมจะฟาดไปยังช็อปเพื่อให้ได้มาซึ่งรองพื้นที่ถูกใจ สีลิปสติกที่ทาแล้วมีเสน่ห์ พาเลทตาที่ไม่รู้ว่าตาแค่สองข้างซ้ายขวา จะต้องมีพาเลทไว้ในครอบครองกี่สิบชิ้นเราถึงจะพอใจ การป้อนงานให้เหล่านักรีวิวทั้งหลายนั้น ก็มีทั้งจ้างงานโดยตรงจากแบรนด์หรือผ่านเอเจนซี่อย่าง Influencer marketing Thailand Influencer marketing Agency ที่ต่างก็รับบรีฟและรายละเอียดมาจากลูกค้าเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าตรงตามที่ต้องการ รวมไปถึงสิ่งที่ต้องการจะสื่อ อย่างไรก็ตามทางเว็บไซต์มันนี่กูรูได้ให้เคล็ดลับการไม่ตกเป็นเหยื่อของการตลาดไว้ว่า หลายครั้งที่เราเคยได้ยินคำโฆษณา อาจจะในวิทยุ โทรทัศน์ หรือแผ่นพับว่า สินค้าชนิดนี้ มีคุณหมอ 7 คน จาก 10 คนเลือกใช้ หรือ 9 คนจาก 10 คนบอกต่อว่าดี ซึ่งคำโฆษณาเหล่านี้ ประการแรก เป็นการยากมากที่จะพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงทั้งหมด และประการที่ 2 คุณไม่ควรเชื่อในทันทีจากการสรุปของบรรดานักการตลาดว่า เพียงแค่คนใช้เยอะกว่า จะหมายความโดยอัตโนมัติว่า สินค้านั้นดีที่สุดในท้องตลาดเสมอไป เพราะคนจำนวนที่มาทำการทดลองไม่สามารถเป็นตัวแทนของประชากรได้เสมอไป บางทีมีการดึงกลุ่มตัวอย่างมาทดลองน้อยเกินไปเป็นต้น เพราะฉะนั้น เฉลียวใจซักนิดเวลาชมโฆษณาก่อนจะตกเป็นเหยื่อของการตลาดอย่างง่ายดาย อย่าหลงเชื่อแค่รีวิวดังๆ หลายคนมักจะเข้าไปอ่านรีวิว ในเว็ปบอร์ดต่างๆ ก่อนการตัดสินใจซื้อของ เพราะเชื่อว่าผู้ที่รีวิวเหล่านั้นมีประสบการณ์ใช้สินค้าจริง และน่าเชื่อถือ อาจดูจากจำนวนคนเข้ามาชม หรือ การเปรียบเทียบกับผลิตภัณท์ตัวก่อนๆ ที่ทำรีวิวได้ดี อันต่อไปก็คงน่าเชื่อถือได้เช่นเดียวกัน สิ่งนี้ค่อนข้างอันตรายอย่างยิ่ง เพราะเรามักจะมีความเชื่อว่า คนที่มารีวิวนั้น มีความเป็นกลาง จึงรีวิวสินค้าออกมาด้วยความเป็นกลาง ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่จริงเสมอไป บางบริษัทจ้างคนที่ทำรีวิวสินค้าเก่งๆ มีคนติดตามในโซเชียลเน็ตเวิร์คมากๆ เพื่อมารีวิวชมสินค้าของตนเพื่อกระตุ้นยอดขาย หรือบางทีสินค้าจากแบรนด์ใหม่ๆ เล็กๆ อาจเริ่มด้วยการส่งสินค้าให้บรรดาดารา นายแบบ นางแบบใช้ฟรี และทำรีวิวให้ กลยุทธ์ต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เราไม่ควรดูรีวิวจากแหล่งเดียว แต่ควรดูหลายๆ แหล่งเพื่อประกอบการตัดสินใจ มิฉะนั้น เราอาจจะพลาดท่าซื้อสินค้า แต่กลับไม่ถูกใจก็เป็นได้

6 พ.ย. 63 เวลา 16:13 308