บอร์ด
กระทู้: อุ่นใจปลอดภัยฝากของไว้กับโกดังเก็บของ

หากคุณมีสัมภาระและข้าวของเยอะแยะที่ไม่สามารถเอาไว้ได้ภายในบ้าน คุณจะทำเช่นไร และสิ่งของเหล่านั้นของคุณก็ไม่สามารถที่จะทิ้งขว้างได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นสิ่งของมีค่าต่างๆที่เราจะต้องเก็บและป้องกันไม่ให้สูญหาย จะไปฝากไว้กับใครก็อดคิดมากเป็นกังวลว่าของเหล่านั้นจะหายไป ทางออกที่ดีคือการเลือกใช้บริการคลังสินค้าให้เช่าที่ไว้ใจได้ บริเวณกว้างขวางและสัญจรได้สะดวก สามารถไปดูของที่เก็บไว้เมื่อไรก็ได้อย่างที่เช่าคลังสินค้า ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะเป็นเช่าคลังสินค้า เช่าโกดัง บางนา ซึ่งคลังสินค้าเหล่านี้โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร จะมีโรงงานให้เช่ากรุงเทพที่คอยบริการดูแลสินค้าและข้าวของของเรา

อย่างไรก็ตามเมื่อมีที่เก็บของเพิ่มเติมแล้ว เราก็ไม่ควรละเลยการจัดเก็บบ้านและที่พักอาศัยของเราให้เป็นระเบียบเรียบร้อยอยู่เสมอ ซึ่งเคล็ดลับก็มีทั้ง จัดให้เสร็จในครั้งเดียว เราทุกคนควรเก็บบ้านให้เสร็จภายในรวดเดียว แบบมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน อย่าค่อย ๆ เก็บไปเรื่อย ๆ ทีละนิด ทีละหน่อย จนกินเวลานาน เพราะไม่อย่างนั้นจะต้องคอยเก็บกวาดไปตลอดไม่สิ้นสุด อีกทั้งถ้าหากเราใช้เวลานานมาก ๆ ในการเก็บ เมื่อถึงเวลาที่เราจัดเก็บอีกฝั่งหนึ่ง ฝั่งที่เก็บไปก่อนหน้านี้อาจจะกลับมารกไปแล้วก็ได้ แถมที่สำคัญการเก็บบ้านให้เสร็จในรวดเดียวยังทำให้เราได้บ้านที่เป็นระเบียบและเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว จนเราอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากทำให้บ้านรกอีกเลยก็ได้ ทิ้งก่อน จัดทีหลัง สิ่งสำคัญอีกอย่างที่ห้ามมองข้ามคือ การเลือกทิ้งข้าวของที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนทำการจัดเก็บ เพราะหากเราไม่เลือกกำจัดข้าวของออกไป บ้านเราก็จะไม่มีพื้นที่มากพอในการทำให้เป็นระเบียบ ส่งผลให้เราจัดบ้านกี่ครั้ง ก็ยังคงรกอยู่เหมือนเดิมนั่นเอง อย่าเก็บตามห้อง ให้เก็บตามประเภท เราควรจัดเก็บบ้านด้วยการแยกของออกเป็นประเภท เนื่องจากข้าวของแต่ละอย่าง เช่น เสื้อ หนังสือ หรือของฝาก อาจจะไม่ได้เก็บรวมกันอยู่แค่ในห้องห้องเดียว ทำให้การเก็บบ้านตามประเภท เป็นวิธีที่เราจะรวบรวมข้าวของแบบเดียวกันทั้งหมดในบ้านมาไว้ด้วยกันได้ ทำให้เราเคลียร์สิ่งของต่าง ๆ ออกไปได้ง่ายและสะดวกขึ้น แถมยังทำให้เราได้รับรู้อีกว่า จริง ๆ แล้ว เรามีของต่าง ๆ เหล่านี้เยอะแค่ไหน การเลือกเก็บแต่ของที่ใช้ โดยขั้นตอนก็คือ ให้เรานำสิ่งของประเภทเดียวกันมากองรวมกันไว้ทั้งหมด ซึ่งขั้นตอนนี้จะทำให้เราเห็นว่าเรามีข้าวของประเภทต่าง ๆ อยู่มากแค่ไหน จนทำให้ไม่ค่อยรู้สึกเสียดายมาก จากนั้นก็ลองแบ่งข้าวของประเภทต่าง ๆ ออกเป็นหมวดย่อย ๆ แล้วหยิบขึ้นมาพิจารณาทีละชิ้น โดยให้คิดดูว่าของชิ้นนี้มันยังใช้อยู่หรือไม่ โดนใจ ถูกใจอยู่หรือเปล่า ทำให้เรามีความสุขที่ได้เห็นมันไหม จะเก็บเอาไว้ทำอะไร เคยใช้งานมันบ้างไหม จะได้ใช้งานมันอีกเท่าไร ซึ่งถ้าอันไหนไม่ใช่ให้ตัดสินใจทิ้งไปได้เลย เลือกเก็บไว้แต่อันที่ใช่ก็พอ สำหรับการเลือกเสื้อผ้า ให้เลือกเก็บไว้แต่เสื้อผ้าที่เราจะใช้ใส่จริง ๆ ตัวไหนไม่ชอบ ไม่ใส่ ก็ไม่ต้องเสียดาย เพราะถือได้ว่าเป็นของเราที่ไม่ต้องการแล้ว ส่วนหนังสือก็ให้เลือกเก็บแต่เล่มที่เราชอบ เล่มไหนไม่ได้อ่านก็ให้นำไปบริจาค กระดาษ-เอกสารก็ให้เก็บแต่แผ่นที่สำคัญ ชิ้นไหนไม่แน่ใจก็ถ่ายหรือสแกนเอาไว้ ของทั่วไปก็อย่าไปเสียดายเช่นเดียวกัน พอเสร็จแล้วก็ให้มาจัดการกับสิ่งของประเภทที่ยากที่สุด นั่นก็คือของที่มีคุณค่าทางจิตใจ โดยของประเภทนี้ต้องใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างมาก อีกทั้งยังทำใจทิ้งได้ลำบาก แต่มาริเอะก็บอกว่า ให้เราทำการขอบคุณคนที่ให้ พร้อมขอบคุณสิ่งของชิ้นนั้น ๆ เพื่อให้เราสามารถทิ้งไปได้อย่างไม่ติดใจอะไร รวมถึงให้คิดว่าข้าวของทุกชิ้นต่างก็ต้องการการใช้งาน ฉะนั้นนำไปบริจาคให้คนที่ต้องการใช้ถือเป็นสิ่งที่ควรทำมากที่สุด

30 ต.ค. 63 เวลา 16:01 315