นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กล่าวว่า วันนี้ (24 มิ.ย.) คณะกรรมการผ่อนคลายกิจกรรมกิจการ เห็นควรให้มีการร่างมาตรการผ่อนปรนเฟส 5 ใน 5 กิจการ/กิจกรรม คือ
1. การผ่อนผันการใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ซึ่งขณะนี้เปิดบริการทั้งหมดแล้ว
2. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ทุกอย่างเปิดได้หมด ไม่จำกัดเวลาแล้ว แต่ใน 3 กิจการ/กิจกรรม ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
3. สถานบริการ สถานประกอบการคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ต้องพิจารณาจากใบอนุญาตก่อนเป็นอันดับแรก และจะมีเวลาจำกัดสำหรับกิจการที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ ที่กำหนดเวลาไว้ที่ 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น. ส่วนกิจการที่มีดนตรี การแสดงรื่นเริง เต้นรำ รวมไปถึงฉายภาพคาราโอเกะ จะมีกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ดูแล โดยจะต้องหารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข ในการออกคู่มือการประกอบกิจการ
โดยมาตรการควบคุมหลักจะกำหนดให้สถานบริการเปิดได้ไม่เกินเวลา 24.00 น. พร้อมกำหนดระยะยืนนั่งห่างกัน 1 เมตร และจำกัดผู้ใช้บริการตามขนาดพื้นที่ 4 ตารางเมตรต่อคน ระยะห่างของโต๊ะมากกว่า 2 เมตร โต๊ะละ ไม่เกิน 5 คน หรือทำฉากกั้นระหว่างโต๊ะมากกว่า 1.5 เมตร รวมไปถึงห้ามร่วมโต๊ะกับกลุ่มอื่น และตรวจโควิด-19 กับพนักงงานเป็นระยะ
ห้ามมีการจัดโปรโมชั่นหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายทุกรูปแบบ ไม่มีสาวเชียร์เบียร์ รวมทั้งไม่ยินยอมให้ลูกค้ามาเต้นกับพนักงาน หรือเต้นนอกพื้นที่นั่ง และห้ามละเลยให้ลูกค้านำสุราเข้ามาบริโภค นอกจากนี้ ต้องลดการจำหน่ายสุราแบบใช้ร่วมกับผู้อื่น อย่างเหยือกหรือโถ ติดกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่ของร้าน และข้อมูลภายในกล้องต้องบันทึกไว้มากกว่า 1 เดือน เป็นต้น
4. ร้านเกมส์ และร้านอินเตอร์เน็ต ที่ทั่วประเทศมี 4,000 ร้าน ต้องจำกัดอายุผู้เข้าใช้ และตรวจสอบใบอนุญาต งดบริการอาหารและเครื่องดื่ม งดรวมกลุ่มหรือมีกิจกรรมแจก/มอบรางวัล และต้องจำกัดเวลาการให้บริการ 2 ชั่วโมงต่อรอบ พื้นที่การใช้บริการต้องกำหนด 4 ตารางเมตรต่อคน โดยการเปิดบริการแบ่งเป็นเกณฑ์อายุ วันปกติ 14.00-20.00 น. ส่วนวันหยุดสามารถเปิดได้ตั้งแต่ 10.00–20.00 น. ในเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ส่วนอายุ 15-18 ปี วันปกติ เข้าใช้บริการได้ตั้งแต่ 14.00–22.00 น. วันหยุด 10.00–22.00 น. ส่วนอายุมากกว่า 18 ปี ใช้บริการได้ 24 ชั่วโมงทุกวัน
5. สถานประกอบการ อาบ อบ นวด โรงน้ำชา ต้องมีใบประกอบอนุญาตถูกต้อง ซึ่งต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ยกเว้นขณะอาบน้ำ ทำความสะอาดห้องหรืออ่างอาบน้ำบ่อยๆ โดยกำหนดระยะห่างมากกว่า 1 เมตร ควบคุมไม่ให้เกิดความแออัด ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในกลุ่มพนักงานเป็นระยะ รวมถึงเฝ้าระวังโรคอื่น
ซึ่งทั้งหมดจะมีการนำเสนอที่ประชุมใหญ่ ศบค. ในวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายนนี้ เพื่อพิจารณาข้อเสนอมาตรการผ่อนคลายระยะ 5 ดังกล่าว
นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงมาตรการการผ่อนคลายการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติซึ่งมาตรการต่อไปนี้สามารถทำได้เลย โดยกลุ่มเป้าหมายที่ตอบรับมาตรการเข้าสถานเฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ หรือ State Quarantine 14 วัน อย่างกลุ่มผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานในประเทศไทยซึ่งเป็นนักธุรกิจและนักลงทุนมีสัญญาจ้างประมาณ 700 คน แรงงานฝีมือและผู้เชี่ยวชาญประมาณ 15,400 คน คนต่างด้าวกรณีเป็นครอบครัวของคนไทยและ/หรือมีถิ่นฐานในประเทศไทยประมาณ 2,000 คน ครูอาจารย์บุคลากรด้านการศึกษาและนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประมาณ 2,000 คน และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือต้องการเข้ามารักษาภายในประเทศ 30,000 คน
โดยขณะนี้เองมีโรงแรมที่เป็น State Quarantine ร่วมมือกับโรงพยาบาลกว่า 100 ห้องเพื่อรองรับ และอีก 1 กลุ่มเป้าหมายใช้มาตรการควบคุมไว้สังเกต ประกอบด้วยนักธุรกิจนักลงทุนที่เดินทางเข้ามาเป็นระยะสั้นๆ และแขกของรัฐบาลหรือส่วนราชการต่างๆ มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากประเทศต้นทาง และเมื่อเดินทางถึงไทยจะต้องมีทีมด้านการแพทย์และสาธารณสุขหรือทีมที่ได้รับมอบหมาย นอกจากนี้ยังมีนักท่องเที่ยวและกลุ่มผู้เดินทางตามโครงการ Travel Bubble เนื่องจากไม่สามารถกักกันตัวได้ 14 วัน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
โดยการดำเนินการในขั้นตอนที่ 2 ในกลุ่มท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือผู้ที่ต้องการเดินทางมารักษาสุขภาพในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต หาดใหญ่ เชียงใหม่ เชียงราย ตามความพร้อม และขั้นตอนที่ 3 ในโครงการ Travel Bubble แบบที่ 1 แบบมาตรการ Villa Quarantine เริ่ม 1 ส.ค. 63 และแบบที่ 2 แบบผ่อนคลายมาตรการ State Quarantine เริ่มดำเนินการเมื่อพร้อมและสังคมเชื่อมั่นในมาตรการ
สนับสนุนโดย 918KISS เวบเกมออนไลน์ที่ให้คุณได้มากกว่าที่ไหนๆ punslot888 ชื่อดีการันตีความเฮง