บอร์ด
กระทู้: SME ร้องเข้าไม่ถึงเงินทุน วอนรัฐบาลช่วยภาษีต่อลมหายใจ พยุงเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ!

SME ร้องเข้าไม่ถึงเงินทุน วอนรัฐบาลช่วยภาษีต่อลมหายใจ พยุงเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ!

 

เอสเอ็มอีราว 3 ล้านรายทั่วประเทศ กำลังหายใจรวยรินเพราะประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนัก เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ที่มีแนวโน้มยาวนาน และยืดเยื้อส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศไร้รายได้ แต่ยังต้องแบกรับภาระรายจ่ายที่ยังคงเดิม อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Soft Loan) ตามมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐได้ เพราะคุณสมบัติที่ระบุไว้เกินเอื้อมสำหรับกลุ่ม เอสเอ็มอี

 

s__15073359

 

 

น.ส.โชนรังสี เฉลิมชัยกิจ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยกับ Sanook Money ว่า พ.ร.ก.ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยออก Soft Loan เพื่อดูแลภาคธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอี วงเงินรวม 500,000 ล้านบาท โดยจะปล่อยให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อต่อให้กับเอสเอ็มอี ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาทอีกทอด ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 ต่อปี ส่วนตัวมองว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่ก็ยังเกินเอื้อสำหรับเอสเอ็มอีที่เป็นไมโคร หรือ เอสเอ็มอี รายย่อย เพราะเอสเอ็มอี รายย่อย เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จึงมักจะโดนมองข้ามและถูกปฏิเสธเป็นกลุ่มแรกจากธนาคารพาณิชย์
ดังนั้น มาตรการของภาครัฐควรผ่อนปรนหลักเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อให้สอดคล้องกับภาวะการณ์ที่ไม่ปกติ เนื่องมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะเรื่องเครดิตบูโร และเอ็นพีแอล เพราะหลักเกณฑ์ที่ธนาคารพาณิชย์ใช้ตรวจสอบคุณสมบัติกลุ่มเอสเอ็มอี ที่ต้องการขอสินเชื่อ Soft Loan ยังเป็นหลักเกณฑ์เดิม จึงทำให้ เอสเอ็มอี ส่วนใหญ่ที่มีปัญหา ทั้งกลุ่มที่มีขนาดกลาง (รายได้ต่ำกว่า 500 ล้านบาทต่อปี) ขนาดย่อย (รายได้ต่ำกว่า 100 ล้านบาทต่อปี) และรายย่อย (รายได้ไม่ต่ำกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี) ยังคงไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ และกลุ่มเอสเอ็มอีที่ได้เงินทุนจากธนาคารพาณิชย์ก็มักเป็นรายเดิมๆ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบหรือไม่ได้รับผลกระทบก็เป็นได้

ดังนั้น เม็ดเงิน 500,000 ล้านบาท จากมาตรการ Soft Loan จึงไม่ได้ถูกกระจายลงสู่เศรษฐกิจฐานรากของประเทศอย่างแท้จริงตามวัตถุประสงค์ของภาครัฐ

 

 

 

istock-1158964056


 
นอกจากนี้ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ยังแนะภาครัฐควรจัดตั้งกองทุนสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 พร้อมเงื่อนไขที่ผ่อนปรนให้เอสเอ็มอีกลุ่มนี้ ซึ่งพลาดหวังจากธนาคารพาณิชย์สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น โดยใช้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย. เข้ามาค้ำวงเงินกู้ให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี เพื่อนำเงินไปประคับประคองธุรกิจต่อลมหายใจให้กับเศรษฐกิจฐานรากของประเทศได้ผ่านช่วงที่อยากลำบากนี้ไปได้ พร้อมเสนอให้ภาครัฐลดค่าใช้จ่ายของเอสเอ็มอีด้วยระบบภาษี หรือการจัดเก็บของภาครัฐทั้งหมด ทั้งด้านสาธารณูปโภค ค่าใช้จ่ายในการต่ออายุต่างๆ รวมถึงให้ผ่อนชำระภาษีนิติบุคคล ช่วงปี 2564-2565 หรือยกเว้นการจ่ายภาษีในระยะเวลา 3 ปี เพราะเมื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ต้องลงทุนปรับปรุงฟื้นฟูกิจการเพื่อให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ในยุค New Normal หากยังต้องจ่ายภาษีจะเป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มเอสเอ็มอี

 

สนับสนุนโดย PUSSY888 เวบเกมออนไลน์ที่ให้คุณได้มากกว่าที่ไหนๆ

23 มิ.ย. 63 เวลา 04:43 363