บอร์ด
กระทู้: ทำไมเด็กไทยต้องเรียนวิชาอินเทอร์เน็ตและภัยออนไลน์ สิ่งสำคัญที่ครูและผู้ปกครองต้องตระหนัก

การที่โลกของเรานั้นเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้นนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเยาวชนในการเข้าถึงความรู้ได้อย่างง่ายขึ้นผ่านอินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใกล้ตัว อย่างไรก็ตามแต่ มีเด็กจำนวนไม่น้อยที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 10 ชั่วโมงต่อวัน และในปัจจุบันก็มีหลากหลายเหตุการณ์ที่เราเห็นบนสื่อโซเชียลต่าง ๆ ที่กลายมาเป็นภัยออนไลน์ต่อเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ Fake News ที่อาจจะสร้างความเข้าใจแบบผิด ๆ ให้กับเด็ก หรือจะเป็นเรื่องของ Cyberbullying ที่อาจทำให้เกิดส่งผลกระทบต่อเด็กในระยะยาว รวมถึงในเรื่องของการละเมิดความเป็นส่วนตัว การหลอกลวง และการละเมิดทางเพศ ที่เด็ก ๆ นั้นอาจจะตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย ด้วยสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ที่เอื้อให้ผู้คนนั้นจะแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ ทำให้ปัญหาเหล่านี้นั้นเกิดขึ้นในหมู่เด็ก ๆ มากเป็นเท่าตัว

#StopCyberBullying & YSLC โครงการดี ๆ จาก ดีแทค 

ดีแทค ก็เป็นองค์กรหลักที่ได้ริเริ่มการสนับสนุนเรื่องของภัยออนไลน์ และได้ปล่อยวิดีโอไวรัล แคมเปญ #StopCyberBullying ที่ทำให้หลาย ๆ คนนั้นตระหนักถึงปัญหาและผลของการรังแกกันบนโลกออนไลน์ และยังได้ริเริ่มค่าย Young Safe Internet Leader Cyber Camp (YSLC) ด้วยความเชื่อที่ว่าไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่นั้นที่จะสามารถป้องป้องดูแลปัญหาเรื่องนี้ได้ แต่เด็กและเยาวชนก็สามารถก้าวเข้ามาเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ซึ่งจุดประสงค์ของการจัดค่ายนี้ขึ้นมาคือเพื่อต้องการเสริมสร้างให้เยาวชนไทยนั้นกลายมาเป็นพลเมืองอินเทอร์เน็ตที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม (Responsible Netizen) สามารถที่จะเรียนรู้และเข้าใจการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่ ๆ ให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์ รวมถึงการตระหนักถึงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้บนโลกออนไลน์ 

ดีแทค ส่งต่อความรู้จากค่าย YSLC รู้ทันภัยออนไลน์ผ่าน “ห้องเรียนเด็กล้ำ” หรือ Young Safe Internet Leader Curriculum

โดยค่าย Young Safe Internet Leader Cyber Camp ในปีนี้ก็ได้จัดขึ้นไปแล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากเยาวชนทั่วประเทศไทยกว่า 400 คน แต่ถึงแม้ว่าค่ายจะจบลงแต่แน่นอนว่าการเรียนรู้นั้นยังไม่จบ โดย ดีแทค นั้นตั้งใจที่จะส่งต่อความรู้และหลักสูตรดี ๆ ที่จะเสริมทั้งความรู้ ความเข้าใจและทักษะต่าง ๆ ให้เยาวชนและคนไทยทั่วประเทศผ่านช่องทางออนไลน์ 

โดยผู้เข้าเรียนออนไลน์สามารถเลือกเติมเต็มองค์ความรู้การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ได้ถึง 8 วิชา ประกอบไปด้วย

1. กลุ่มวิชาเสริมภูมิคุ้มกันออนไลน์ (Knowledge Courses)

3 หลักสูตรที่จะมาช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและเพิ่มความปลอดภัยในโลกออนไลน์ให้กับทุกคน ได้แก่

  • Anatomy of Fake News ที่จะส่งเสริมความรู้ให้กับเยาวชนเกี่ยวกับข่าวปลอมในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความหมายและองค์ประกอบ วิธีและเครื่องมือในการแยกแยะข่าวปลอม ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง ผลเสียและผลกระทบจากข่าวปลอม จนถึงการเข้ามามีบทบาทของเยาวชนในการช่วยเหลือสังคมในเรื่องนี้ 

  • Diversity Respect to Stop Cyberbullying ที่จะทำให้เยาวชนนั้นเกิดความรู้และความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบุคลิก ข้อดี-ข้อเสีย เพื่อที่จะทำให้พวกเขานั้นเกิดความตระหนักถึงความหลากหลายและเคารพผู้อื่น

  • Online Privacy & Sexual Abuse ที่จะมาให้ความรู้ในเรื่องความสำคัญของข้อมูลส่วนตัวและภัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากข้อมูลส่วนตัวนั้นหลุดไป รวมถึงการละเมิดทางเพศและแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศต่อเยาวชน ป้องกันอย่างไรและมีกฎหมายใดที่เกี่ยวข้อง

2. กลุ่มวิชาเพิ่มเติมทักษะเฉพาะด้าน (Technical Courses) 

5  วิชาที่มาพร้อมกับความน่าสนใจและความสนุกที่จะมาช่วยอัพสกิลทางเทคนิคเฉพาะด้านให้แก่เด็ก ๆ เช่น 

  • AI Fake Content การเรียนรู้การใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Artificial Intelligence ในการตรวจสอบข้อมูลเท็จ ตรวจสอบรูปหรือวิดิโอปลอม หาว่าผู้ใช้นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ ดังนั้นนี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัววิชาที่น่าสนใจในการเสริมการป้องกัน Fake News ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในโลกออนไลน์ในยุคที่ข่าวสารนั้นแพร่หลายได้อย่างรวดเร็ว

  • Chatbot แน่นอนว่า Chatbot นั้นถูกนำเข้ามาใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายภาคส่วนในปัจจุบัน ซึ่งวิชา Chatbot นี้ก็จะมาให้ความรู้ให้เยาวชนในเรื่องการสร้าง AI Chatbot การออกแบบและวางรูปแบบการสนทนา รวมถึงแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกัลแพลตฟอร์มที่สามารถนำไปใช้ร่วมกันได้ 

  • Board Game Development หรือวิชาสร้าง Board Game การออกแบบและวางรูปแบบเกมส์ให้น่าดึงดูด น่าสนใจ และให้ความรู้ไปพร้อม ๆ กัน และยังมีการให้ความรู้ในเรื่องการผลิตและลิขสิทธิ์ทางปัญญาต่าง ๆ สำหรับการทำบอร์ดเกม

  • Storytelling & Content Creator จากการสำรวจพบว่าเยาวชนนั้นมีการใช้งานแพลตฟอร์มออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นบน Facebook หรือ Twitter ซึ่งเยาวชนก็ได้เสพสื่อ Online Content มากมายจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ ดังนั้นวิชานี้จะมาปรับเปลี่ยนหน้าที่ของเด็ก ๆ จาก ‘ผู้เสพคอนเทนต์’ มาเป็น ‘ผู้สร้างคอนเทนต์’ แทน ซึ่งจะมีการให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้าง Online Content การหาประเด็นที่น่าสนใจ และวิธีในการสื่อสารที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย

  • Data Visualisation ที่จะมาให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของข้อมูล และการเปลี่ยนรูปแบบข้อมูลให้เป็นภาพให้เกิดความน่าสนใจและน่าดึงดูด

ซึ่งวิชาเหล่านี้จะไม่แค่แต่ให้ความรู้ให้กับเด็ก ๆ และเยาวชนไทย แต่ยังให้แรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ นั้นนำไปต่อยอด ประยุกต์ใช้ และนำไปค้นคว้าศึกษาต่อได้ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นหลักสูตรที่เหมาะกับเด็กในยุคดิจิทัลอย่างมาก

 

ตัวอย่างการต่อยอดความรู้จากหลักสูตร YSLC

แน่นอนว่าการเรียนรู้หลักสูตรของ YSLC จาก ดีแทค นั้นได้รับการตอบรับจากเด็ก ๆ อย่างล้นหลาม ไม่ว่าจะเป็นตัววิชาที่น่าสนใจ น่าดึงดูด และสามารถนำไปใช้ได้จริง ดังนั้นเรามาดูตัวอย่างของเยาวชนไทยที่เคยได้เข้าร่วมเรียนรู้จากโครงการว่าพวกเขานั้นสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้และต่อยอดในการช่วยแก้ไขปัญหาในสังคมอย่างไรบ้าง

ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากการผสมผสานทั้ง 3 องค์ความรู้ เรื่องของภัยออนไลน์ การเรียนรู้ตัวทักษะเฉพาะด้าน ร่วมกันการทำโครงงานขึ้นมา คือ โครงการ เข้าใจคนแกล้งและคนถูกแกล้งผ่าน “การ์ดเกม” ที่ถูกคิดขึ้นโดยทีม Good Net Good Life จากโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยลัย ที่ได้ผสมผสาน ‘เกม’ เข้ากับการแก้ไขปัญหา ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่น่าสนใจในการกระจายความรู้และความเข้าใจในเรื่องของ ‘Cyberbullying’ ได้ดีทีเดียว ซึ่งทางทีมได้เห็นความสำคัญของ ‘วิธีการ’ ที่จะเพิ่มความสนุกและน่าดึงดูดให้หลาย ๆ คนนั้นหันมาสนใจ ซึ่งสิ่งที่น้องได้มาหลังการระดมความคิดก็คือการทำออกมาในรูปแบบของการ์ดเกม

“สิ่งแรกที่เราทำเป็นการกำหนดคอนเซปต์ของการ์ดเกม ออกแบบให้ผู้เล่นสามารถรับบทบาทเป็นได้ทั้งคนแกล้งและคนถูกแกล้ง เพื่อที่พวกเขาจะได้เข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย การ์ดเกมจึงประกอบไปด้วยการ์ดคำถาม การ์ความรู้สึก และการ์ดรูปภาพ เปิดโอกาสให้ผู้เล่นเปิดอกอธิบายความในใจเมื่อโดนกลั่นแกล้ง ซึ่งมีหลากหลายความรู้สึก ทั้งอายมาก เสียใจ เมื่อเพื่อน ๆ ที่ร่วมเล่นในวงได้ฟังจึงเข้าใจมากขึ้นว่าการกลั่นแกล้งนั้นไม่ดีอย่างไร”

นี่ก็เป็นตัวอย่างของโครงการที่ประสบความสำเร็จในการนำความรู้ที่ได้จากหลักสูตรมาผสมผสานกันให้เกิดประโยชน์และสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมสู่ทางที่ดียิ่งขึ้น ที่ถึงแม้ว่าค่ายอาจจะจบไปแต่ความรู้และภาวะผู้นำที่จะช่วยขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า

สำหรับเยาวชนที่พลาดการสมัครค่ายออนไลน์รอบที่ผ่านมาก็ไม่ต้องเสียใจไป เพราะในวันที่ 2 มิ.ย. 63 นี้ ดีแทค ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึง “ห้องเรียนเด็กล้ำ” อย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เยาวชนไทยได้พัฒนาความรู้และความสามารถทางดิจิทัลอย่างไร้ขีดจำกัด 

 

 

สนับสนุนคุณภาพโดย 918KISS ว็บมั่นคงปลอดภัย รับประกันความชัวร์ 100%

5 มิ.ย. 63 เวลา 19:11 339