นายอภิเชษฐ์ผู้บริหารของ คิง เพาเวอร์ กล่าวว่าช่วงปลายปี 2562 มีหลายเรื่องที่ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จะต้องเดินหน้าทำอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะข่าวการเตรียมเปิดประมูลพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีในสนามบินดอนเมือง ตามกติกาใหม่ที่เผยแพร่ผ่านสื่อต่าง ๆ จะแตกต่างไม่เหมือนเดิม เนื่องจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) “ทอท.” จะแยกสัญญาสัมปทานพื้นที่ร้านค้าดิวตี้ฟรีกับจุดส่งมอบสินค้าสนามบิน (Pick up Counter) ออกจากกัน

ดังนั้นความน่าสนใจจึงต่างจาก 7 ปีที่ผ่านมา เพราะครั้งนี้ไม่รวม Pick up Counter แต่เมื่อ ทอท.เจ้าของสนามบินประกาศเปิดประมูล ทางกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ยังคงจะลงแข่งขันประกอบการพื้นที่ทั้งดิวตี้ฟรีและจุดส่งมอบสินค้าสนามบินดอนเมือง แต่ก็ต้องประมวลผลข้อจำกัดอีกหลายอย่างควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีแต่เที่ยวบินต้นทุนต่ำ (low cost airlines) ให้บริการ จำนวนสลอตเที่ยวบินเข้าออกเต็มเกือบหมดแล้ว และยังไม่ได้ขยายสนามบินเพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสาร และกำลังซื้อของนักช้อป ตามสถิติก็ไม่ได้โดดเด่นมากนัก

สถิติปี 2562 ร้านค้า คิง เพาเวอร์ สนามบินดอนเมืองมีพื้นที่ประมาณ 1,800 ตารางเมตร ขนาดค่อนข้างเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิมีประมาณ 12,000 ตารางเมตร เพราะฉะนั้นดอนเมืองเป็นสนามบินมีข้อจำกัดหลายส่วนโดยเฉพาะสล็อตเที่ยวบินแน่นมากจึงน่าจะไม่มีตารางเวลาให้สายการบินพรีเมี่ยมและยากจะทำได้ ส่งผลไปถึงกลุ่มผู้โดยสารพรีเมี่ยมที่จะสนใจซื้อสินค้าดิวตี้ฟรีก็อาจจะไม่มาก ขณะนี้ทำให้ยอดขายสินค้าของคิง เพาเวอร์ ในสนามบินดอนเมืองทำได้เพียงวันละ 10-14 ล้านบาท ปี 2561 มียอดขายแค่ 5,000 ล้านบาท ถือเป็น:)ส่วนน้อยคิดเป็น 5 % ของกลุ่มบริษัท อีกทั้งเปรียบเทียบแล้วน้อยกว่าสนามบินภูมิภาคอีก 3 แห่ง คือ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ ซึ่งทำส่วนแบ่งยอดขายได้เกินกว่า 8 % ของแต่ละปี

แต่อย่างไรทาง กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ก็ยังให้ความสำคัญและสนใจการลงแข่งขันประมูลพื้นที่ประกอบกิจการร้านค้าดิวตี้ฟรีสนามบินดอนเมือง ในปีต่อไปด้วย โดยได้ติดตามข่าวจาก ทอท.ต่อไปในช่วงปลายปี 2562

แม้ว่าดอนเมืองจะมีขนาดความต่างกันมากกับสุวรรณภูมิที่มีพื้นที่แค่ 1,800 ตารางเมตรถือว่าค่อนข้างเล็กมากถ้าเทียบกับสุวรรณภูมิ แต่ด้วยสนามดิวตี้ฟรีเมืองไทย ที่ยังคงต้องการการแข่งขันกันอย่างเสรีและต้องการการพัฒนากันทั่วถึง ทางคิง เพาเวอร์เองก็ไม่ได้ละเลยความสำคัญตรงนี้